วันที่ 14 พฤษภาคม 2025

“นฤมล” เผยบัตรประชารัฐเป็นนโยบาย พปชร.

⇒ “นฤมล” เผยบัตรประชารัฐเป็นนโยบาย พปชร.

People Unity News : 19 มกราคม 66 “นฤมล” ย้ำ บัตรประชารัฐ เป็นนโยบาย พปชร.ตั้งแต่ปี 61 เพิ่มวงเงิน 700 มีแหล่งที่มางบ แย้มเตรียมประกาศนโยบาย ”ที่ดินประชารัฐ” เร็วๆนี้

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงนโยบายการเพิ่มวงเงินในบัตรประชารัฐเป็น 700 บาทต่อเดือน ของพรรคพลังประชารัฐว่า ในปี 2566 จะมีประชาชนได้รับสิทธิประมาณ 18 ล้านคน คนละ 700 บาทต่อเดือน จะต้องใช้งบประมาณเดือนละ 1.2 หมื่นล้านบาท หรือ ปีละ 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งงบประมาณดังกล่าวมีการคำนวนแหล่งที่มาของงบประมาณมาจากที่ใดแล้ว ในส่วนของบัตรประชารัฐที่เราได้ทำมาตั้งแต่ปี 61 ไม่ใช่มีแค่เงินรายเดือน 200 หรือ 300 บาทเท่านั้น แต่ยังมีสวัสดิการอื่น ๆ อีก อย่างเช่น ค่าแก๊สหุงต้ม ค่าเดินทาง เราพยายามจัดการสิ่งเหล่านี้ให้สอดคล้อง กับความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่

นางนฤมล กล่าวว่า เมื่อปี 2561 ตนก็เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ดูแลรับผิดชอบสวัสดิการแห่งรัฐ ในช่วงนั้น เราอยากจะให้พี่น้องประชาชน ผู้ที่มีรายได้น้อย สามารถที่จะมีเงินประทังชีวิตต่อเดือน สิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐาน เขาสามารถไปซื้อ ข้าวสาร น้ำปลา อาหารแห้ง ได้ ในต่างจังหวัดอยู่ได้โดยไม่ลำบาก แต่ปัจจุบันสภาวะทางเศษฐกิจทั่วโลกเผชิญกับสภาวะเงินเฟ้อ ไม่ต่างกับประเทศไทย สินค้ามีราคาที่สูงขึ้นมาก ดังนั้นเงิน 200-300 บาทต่อเดือน ก็ไม่เพียงพอ เสียงสะท้อนก็ออกมาจากผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ที่ลงพื้นที่ไปพบปะกับประชาชนต่างก็บอกเงินไม่พอแล้ว

“พรรคพลังประชารัฐให้ความจำเป็นขั้นพื้นฐาน ต้องปรับให้สอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจและปัจจุบัน ให้สู้กับสภาวะเงินเฟ้อได้ และจริงๆในนโยบาย ทั้งหมดไม่ใช่มีแค่ 700 บาท เรายังคงมุ่งหน้าทำการแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน หมายความว่าต้องมีการฝึกอบรมให้ 700 บาทไม่เป็นการให้ปลาไปเฉยๆ จะต้องมีการให้เบ็ดเขาด้วย แล้วก็สอนวิธีตกปลา” นางนฤมล กล่าว

นางนฤมล กล่าวด้วยว่า จากนี้พรรคพลังประชารัฐจะแถลงนโยบายออกมาเรื่อย ๆ คาดว่า นโยบายต่อไปที่น่าจะประกาศก็คือ นโยบายที่ดินประชารัฐ

Advertisement

“สมศักดิ์” ลงนามเด้งฟ้าผ่า “ไตรยฤทธิ์” พ้นอธิบดีดีเอสไอ

People Unity News : 18 มกราคม 66 “สมศักดิ์” ลงนามเด้งฟ้าผ่า “ไตรยฤทธิ์” พ้นเก้าอี้อธิบดีดีเอสไอ สลับ “สุริยา” นั่งรักษาการแทน คาดปมค้นบ้านกงสุลใหญ่นาอูรู ด้านเลขาฯ รมว.ยธ. ระบุเป็นมาตรการเชิงรุกเพื่อให้การบริหารงานราบรื่น สร้างความสบายใจให้กับสังคม ส่วนเหตุผลโดยละเอียดให้รอฟัง รมว.ยธ. แถลงพรุ่งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงยุติธรรม ว่า วันนี้ (18 ม.ค.66) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงนามในคำสั่งมอบหมายให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่ราชการและรักษาราชการแทน โดยให้นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และรักษาราชการแทน ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และให้ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และให้รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ

ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยมีผู้รับผิดชอบการปฏิบัติหน้าที่ราชการที่เหมาะสมกับภารกิจในความรับผิดชอบของส่วนราชการ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ของทางราชการ อาศัยอำนาจตามมาตรา 20 และมาตรา 46 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 โดยมีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

การลงนามคำสั่งย้ายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษครั้งนี้ คาดว่าเป็นผลมาจากข้อครหาที่เจ้าหน้าที่กรมฯ ซึ่งมีรายงานว่า บุคคลซึ่งเป็น ผอ.กองคดีฯ และเป็นหน้าห้อง-มือขวาของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ประสานขอความร่วมมือไปยังรองผู้การ 191 เพื่อประสานต่อไปยังรอง ผบช.น. ขอศาลอนุมัติหมายค้นบ้านพักกงสุลใหญ่นาอูรู จากนั้นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ รวม 5 คน และตำรวจ 191 ร่วมกันเข้าตรวจค้นบ้านพักอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู ก่อนปรากฏข่าวเรียกรับผลประโยชน์จีนเทา รวมเกือบ 10 ล้านบาท พร้อมปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งหมด จนหลบหนีออกนอกประเทศไปได้ ทำให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เรียกบุคคลซึ่งเป็น ผอ.กองคดีฯ และเป็นหน้าห้อง-มือขวาของอธิบดีดีเอสไอ สอบปากคำ แต่เบื้องต้นยังคงไม่ให้การใดๆ

ด้าน ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุโดยละเอียดของการมีคำสั่งโยกย้ายครั้งนี้ ขอให้รอฟังการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการจาก รมว.ยุติธรรม อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (19 ม.ค.) เบื้องต้นส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะในช่วงนี้มีหลายประเด็นเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความไม่สบายใจให้กับสังคม เช่น คดี Forex 3D และกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าไปเกี่ยวข้องกับการตรวจค้นบ้านพักอดีตกงสุลนาอูรู และเรียกรับสินบนทุนจีนเทา รวมเกือบ 10 ล้านบาท รมว.ยุติธรรม จึงจำเป็นต้องมีมาตรการเชิงรุกในการแก้ปัญหา ใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินเข้ามาปรับการทำงาน เพื่อให้เกิดความสบายใจกับสังคม รวมถึงกระบวนการทำงานจะได้มีความโปร่งใสชัดเจน ไม่เกิดความเคลือบแคลง อย่างไรก็ตาม อธิบดีที่ถูกโยกย้ายไปก็ไม่ได้มีความผิด หรือมีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเหตุการณ์หลายๆ เรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนคำสั่งโยกย้ายที่ออกมา ก็เพื่อปรับการบริหารงานให้เป็นไปด้วยความราบรื่นเท่านั้น

Advertisement

นายกฯ ฮัมเพลง “รักชาติ” บอกไม่โมเดิร์น แต่มีความหมาย

People Unity News : 14 มกราคม 66 ทำเนียบรัฐบาล – นายกรัฐมนตรี ฮัมเพลง “รักชาติ” ของหลวงวิจิตรวาทการ บอกแม้ไม่โมเดิร์น ไม่คุ้นหูคนรุ่นใหม่ ขอให้ลองฟังมีความหมาย พร้อมพูดติดตลก แก่แล้ว หลังลืมคำว่า เสรีภาพ ต่อจากสิทธิ หน้าที่ ขณะกล่าวเปิดงานวันเด็ก

ก่อนการเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ฮัมเพลงรักชาติฯ ที่ประพันธ์โดยหลวงวิจิตรวาทการ ระหว่างที่นักศึกษาวิทยาลัยดุริยางคศิลป์มหาวิทยาลัยมหิดล ขับร้องบนเวที จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานกล่าวเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ และกล่าวให้โอวาทแก่เด็กและเยาวชน ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ดีใจที่ได้เจอทุกคนวันนี้ ภูมิใจที่ได้เห็นอนาคตของชาติ นำความรู้ความสามารถมาแสดงให้ชมวันนี้

ช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณคณะดุริยางคศิลป์มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ได้ขับร้องบทเพลงรักชาติ แต่งโดยหลวงวิจิตรวาทการ เพลงนี้คนรุ่นใหม่อาจจะไม่คุ้นหู แต่อยากให้ลองฟังดู อาจจะไม่โมเดิร์น แต่มีความหมาย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้พูดถึงคำขวัญวันเด็ก 2566 “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี” ว่าเป็นคำสั้นๆ แต่ลึกซึ้ง มีความหมาย อย่างท่อนที่ว่า ความรักอันใด แม้รักเท่าไหน ยังไม่ยั่งยืน เหมือนบทเพลงรักชาติ ที่ได้ฟังข้างต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรีได้พูดถึงคำสามคำ ที่เด็กไทยพึงมี คือ สิทธิ หน้าที่ และสิ่งที่ 3 นายกรัฐมนตรีกลับลืม ก่อนจะพูดติดตลก ว่า นึกไม่ออก แก่แล้ว ซึ่งตอนหลังจำได้ว่า คือ สิทธิ หน้าที่ และเสรีภาพ ทุกอย่างต้องปฏิบัติพร้อมกัน ไม่สร้างผลกระทบให้คนอื่น เราต้องจงรักใน 3 สถาบัน คือสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

Advertisement

นายกฯ บอกสื่ออย่ามองทุกอย่างเป็นการเมือง

People Unity News : 13 มกราคม 66 นายกฯ บอกยังไม่ได้เห็น “พล.อ.ประวิตร” โพสต์อวยพรให้โชคดีเส้นทางการเมืองใหม่ ไม่เข้าใจสื่อถามซ้ำความสัมพันธ์ ย้ำไม่มีวันแตกแยก ไม่น้อยใจกัน อยู่กันมา 50 ปี ร่วมเป็นร่วมตายในสนามรบกันมาแล้ว บอกสื่ออย่ามองทุกอย่างเป็นการเมือง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีมีเพจเฟซบุ๊กใช้ชื่อ “พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” ออกมาโพสต์จดหมายเปิดใจ ว่า ยังไม่เห็น แต่เชื่อว่า พล.อ.ประวิตรจะมอบความปรารถนาดีที่มีให้กันมาโดยตลอด ท่านอวยพรผมตลอด รักกันอยู่แล้วไม่มีปัญหาอะไรจริง ๆ ทำไมจะต้องให้แตกแยกกัน

เมื่อถามว่าเป็นการย้ำว่า 3 ป.ไม่แตกแยกกัน พล.อ.ประยุทธ์ ถามกลับว่า  จะแตกกันได้อย่างไร เพราะพูดกันมาตลอดนานแล้วเป็น 10 รอบแล้วถามกันอยู่นั่นแหละ

ส่วนที่มีข้อความที่เขียนเป็นเชิงน้อยใจ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้ฟังเลย ท่านจะน้อยใจได้อย่างไร เราไม่ใช่คนขี้ใจน้อยกันอยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่ามีโอกาสไปร่วมดื่มกาแฟตอนเช้ากับ พล.อ.ประวิตรเหมือนเดิมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หากมีเวลาก็จะไป

“เวลาผมก็มี ไม่ใช่จะว่างทุกที่ ทุกวัน เมื่อไหร่ล่ะ ผมก็มีงานของผม ว่างเมื่อไหร่ผมก็ไป วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ว่างก็ไป แค่นั้นเอง ทำไมจะต้องล็อกผมตรงโน้นตรงนี้ ชีวิตส่วนตัวผมก็คือส่วนตัวผม ผมก็มีเวลาผม ครอบครัวผม ใช่ไหม จะมองทุกอย่างเป็นการเมืองหมดได้อย่างไร ผมอยู่กับท่านมา 40-50 ปีแล้ว ไม่ใช่ว่าจะไปวันนี้หรอก ร่วมเป็นร่วมตายในสนามรบกันมาแล้ว ชายแดนก็อยู่มาด้วยกันแล้ว อะไรกันนักหนา ไม่เข้าใจ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีมีอะไรจะพูดผ่านสื่อหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่มี ต้องพูดอะไรล่ะ ทำไมต้องฝากอะไรกับใคร ผมพูดกับท่านโดยตรงได้อยู่แล้ว ทำไมต้องฝากใคร และทำไมจะต้องขุดคุ้ยเรื่องพวกนี้ให้เป็นประเด็น ผมไม่เข้าใจ  ไม่เข้าใจจริง ๆ แต่ผมก็ทนได้ ว่าไปเถอะ แต่ผมไม่จำเป็นต้องตอบทุกอันอยู่แล้ว”

Advertisement

นายกฯ ยันไม่ได้ป่วย บอกทำงานหนัก

People Unity News : 12 มกราคม 2566 นายกฯ ยันไม่ได้ป่วย บอกทำงานหนัก หลังมีอาการไอหลายครั้งระหว่างมอบนโยบายงบประมาณปี 67 ขอทุกคนเน้นย้ำให้ความสำคัญกับการใช้งบประมาณ

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ว่า การจัดทำงบประมาณปี 67 ถือเป็นอนาคตของพวกเรา ขอให้ช่วยทำความเข้าใจกัน เพื่อไปสู่การพัฒนาประเทศและใช้จ่ายงบประมาณอย่างคุ้มค่า พร้อมฝากให้สื่อช่วยประชาสัมพันธ์ด้วย

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า นายกรัฐมนตรีมีอาการป่วยหรือไม่ เพราะดูเหมือนเจ็บคอ นายกรัฐมนตรีเดินออกจากวงสัมภาษณ์ พร้อมกับกล่าวว่า ก็ทำงานเยอะและหนัก

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ก่อนเดินทางกลับว่า ไม่ได้ป่วย แต่เป็นเพราะพูดติดกันหลายงาน จึงทำให้มีอาการดังกล่าว

Advertisement

“ลุงป้อม” ยิ้ม “น้องกันยา” รอพบ

People Unity News : 11 มกราคม 2566 ทำเนียบรัฐบาล – “พล.อ.ประวิตร” ยิ้มหลัง “น้องกันยา” ที่มาร่วมงานคณะเยาวชนเข้าพบนายกฯแล้ว แต่ยังอยู่ต่อรอขอถ่ายรูป พร้อมบอกเป็นกำลังใจให้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับทูตต่างประเทศ  ก่อนเดินทางกลับได้เปิดโอกาสให้ ด.ญ.กันยกร พลบวรเดชสกุล หรือ น้องกันยา อายุ 8 ขวบ เด็กคณิตศาสตร์โอลิมปิคของสถาบัน WIMO ซึ่งได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการของฮ่องกง ได้รับรางวัลคณิตศาสตร์โอลิมปิกสองปีซ้อน ซึ่งมาร่วมกิจกรรมเด็กและเยาวชนดีเด่นและเด็กที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ และได้รับโอวาทจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล แต่ยังอยู่ต่อรอขอถ่ายรูปกับ พล.อ.ประวิตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ พล.อ.ประวิตรพบน้องกันยา ก็มีท่าทียิ้มแย้มเป็นกันเองและเปิดโอกาสให้น้องกันยา พร้อมกับครอบครัวได้ถ่ายรูปร่วมกัน ขณะที่น้องกันยา กล่าวให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตรว่า “หนูขอเป็นกำลังใจให้นะคะ” ซึ่ง พล.อ.ประวิตรยิ้มและจับศีรษะน้องกันยาอย่างเอ็นดู และมีรอยยิ้มบนใบหน้าตลอดเวลา จนผู้สื่อข่าวกระเซ้า พล.อ.ประวิตรว่าขอถ่ายรูปได้ไหม เพราะเป็นเด็กเหมือนกัน ซึ่ง พล.อ.ประวิตร กล่าวติดตลกกับผู้สื่อข่าวว่า “เด็กอะไรกันแก่จะตายห่าอยู่แล้ว” พร้อมกับอมยิ้ม แต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์และออกจากทำเนียบรัฐบาล

Advertisement

ครม.เตรียมให้ 5 พ.ค. เป็นวันหยุดพิเศษกระตุ้นเศรษฐกิจ

People Unity News : 10 มกราคม 2566 ‘วิษณุ’ เผย ครม.พิจารณาเพิ่มวันหยุดพิเศษ 5 พ.ค. กระตุ้นเศรษฐกิจ แจง ‘นายกฯ-รมต.’ ลากิจร่วมกิจกรรมพรรคการเมืองได้ เหตุเป็นเวลานอกราชการ เล็งขอดูคำสั่งตั้งที่ปรึกษานายกฯ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีการเสนอเพิ่มวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษ  เนื่องจากวันที่ 4 พฤษภาคมเป็นวันฉัตรมงคล และวันที่  5 พฤษภาคม 2566 เป็นวันศุกร์  จึงจะให้มีวันหยุดพิเศษเป็นวันที่ 5 พฤษภาคมอีก 1 วัน เพื่อให้มีวันหยุดต่อเนื่องยาว 4 วัน คือวันที่ 4-7 พฤษภาคม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว

ส่วนกฎหมายลูกสองฉบับโปรดเกล้าฯลงมาแล้วหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่ลงมา ยังไม่ถึงกำหนดเวลา 90 วัน

สำหรับการลากิจของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี เพื่อไปร่วมงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา สามารถไปร่วมกิจกรรมของพรรคการเมืองได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า  ไปร่วมทำกิจกรรมได้ เพราะถือเป็นเวลานอกราชการ แต่ส่วนตัวยังไม่ได้ดูว่านายกฯมีข้อผิดพลาด บกพร่องอย่างไร

ส่วนกรณีที่นายกฯตั้งคนของพรรคการเมืองเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีทำได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า  ทุกรัฐบาลเวลามีโควต้า ก็ตั้งคนของพรรคการเมือง ไม่คนของพรรคตัวเองก็คนของพรรคอื่น ย้ำว่าทุกรัฐบาลเหมือนกันทั้งนั้น และตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีถือเป็นตำแหน่งข้าราชการทางการเมือง ซึ่งตนยังไม่เห็นคำสั่ง แต่จะขอดูก่อน

Advertisement

“ประยุทธ์” เข้าร่วม รทสช. เผยวันนี้นอนหลับแล้ว หลังจากนอนไม่หลับมาหลายวัน

People Unity News : 9 มกราคม 2566 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ – “พล.อ.ประยุทธ์” เปิดตัวเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ บอก วันนี้นอนหลับแล้วหลังตัดสินใจเลือกพรรคนี้ ร่ายยาวเหตุผลร่วมงาน ชี้ประเทศไทยต้องไปต่อ หวังประชาชนให้โอกาสอีกครั้ง สัญญาจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ย้ำมีหัวใจหนึ่งเดียวแต่ต้องใหญ่พอรักคนทั้งประเทศไทยได้

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาร่วมงาน รวมใจ รวมไทยสร้างชาติ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยพลเอกประยุทธ์ ได้ลงนามในใบสมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และเสียเงินค่าสมาชิก 2,000 บาท เป็นสมาชิกตลอดชีพ โดยมี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค เป็นสักขีพยาน จากนั้น นายพีระพันธุ์ เป็นผู้สวมเสื้อแจ๊คเก็ตสีขาวของพรรคให้ โดยได้เปลี่ยนเสื้อด้านในเป็นเสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงินของพรรค และสวมทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตสีขาวเพื่อขึ้นเวที โดยตลอดทางที่เดินขึ้นเวที ประชาชนตะโกนเสียงเชียร์ลุงตู่สู้ๆ ลุงตู่อยู่ต่อ และเป็นกำลังใจให้

จากนั้น พลเอกประยุทธ์ ขึ้นกล่าวบนเวที ว่า ขอขอบคุณด้วยใจจริง ที่รับตนเป็นสมาชิกรวมไทยสร้างชาติ พวกเราคือคนไทยหัวใจเดียวกัน วันนี้มีโอกาสพบกับทุกคน อยากบอกว่าวันนี้เป็นวันแรก ครั้งแรกของตนในการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง และพรรคการเมืองที่ตัดสินใจสมัคร คือรวมไทยสร้างชาติ

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ตนมีวันนี้ได้เพราะพวกเรา เพราะเราคือประเทศไทย เป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ เกิดที่นี่ หากินที่นี่ ก็ต้องอยู่ที่นี่ และยังต้องรักษาพื้นแผ่นดินนี้ไว้ให้ได้ สิ่งสำคัญขอให้ทุกคนยึดถือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นี่คือหัวใจของคนไทยทั้งชาติ ซึ่งตนได้รับการสั่งสอนมาว่าจะต้องซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งปกติไม่กลัวอะไรเพราะเป็นทหารมาทั้งชีวิต และเคยอยู่ทหารที่กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ มีเครื่องหมายทหารเสือ มีเสือ 2 ตัว มีหัวใจอยู่ตรงกลาง ทำไมหัวใจเป็นสีม่วง ก็เพราะผู้บังคับบัญชาต้องมีหัวใจแห่งความซื่อสัตย์ ความหมายของหัวใจสีม่วงคือหัวใจของคนใกล้ตาย ซึ่งไม่โกหก และต้องสุจริต

“หลายคนสงสัยว่ามาทำไม หรือเพราะอยากเป็นอะไรต่อหรือไม่ ยืนยันไม่ได้อยากเป็นใหญ่ ไม่ได้อยากมีอำนาจ เพราะอำนาจมีมาทั้งชีวิตของผมแล้ว และอำนาจจะต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบ การมีอำนาจจะต้องใช้อำนาจให้ถูกต้องและเป็นธรรม เป็นไปตามกระบวนการ และทุกอย่างจะเดินหน้าไปได้ด้วยดี เพราะฉะนั้นวันนี้ ไม่ได้อยากยิ่งใหญ่ ไม่ได้อยากได้ผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ยืนยันไม่เคยได้รับผลประโยชน์ใดๆ เพราะนึกถึงประชาชนทุกคน วันนี้ที่มายืนตรงนี้ เพราะเคารพในกระบวนการประชาธิปไตยของไทย ไม่ได้มาเพราะอยากอยู่ต่อ แต่ประเทศไทยต้องไปต่อ บนพื้นฐานของความมีเสถียรภาพ และความมั่นคง เพื่อนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองในอนาคต” พลเอกประยุทธ์ กล่าว

พลเอกประยุทธ์ กล่าวย้ำอีกว่า ประเทศไทยต้องไปต่อ ไปสู่อนาคตที่มั่นคงมั่งคั่งยั่งยืน ก็คิดมาหลายเดือนกว่าจะมาอยู่พรรคนี้ เพราะไม่แน่ใจว่ามีคนรักหรือไม่ ระหว่างนี้ประชาชน ตะโกนให้กำลังใจ พลเอกประยุทธ์ จึงยิ้มและหัวเราะ แล้วบอกว่าถ้ารู้แบบนี้มาอยู่นานแล้ว พร้อมฝาก อย่าเป็นคนขี้เบื่อเร็วนัก ขอให้อยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน และซื่อสัตย์ต่อกัน ยิ่งแก่ตนก็ยิ่งรักทุกคน วันนี้จะทำอะไรต้องมีความเข้มแข็งก่อน ซึ่งประเทศไทยมีความเข้มแข็ง ความรัก ความสามัคคี อยู่แล้ว อย่าให้ใครมาทำลายเพราะคนไทยมีความสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด และตนไม่ใช่คนขี้ขลาด ยังมีงานที่จำเป็นต้องทำจึงทำให้ต้องมายืนตรงนี้ เพราะยังมีโครงการต่างๆ ที่ยังค้างคาต้องเดินหน้าต่อไปให้ได้ ไม่มีอะไรเอาชนะไม่ได้ เอาชนะตัวเองให้ได้ แล้วฟันฝ่าไปด้วยกัน แม้จะเหนื่อยเครียดแต่ก็อดทน ซึ่งสิ่งที่ทำก็เพื่ออนาคตที่มีความยั่งยืน โดยไม่ทิ้งภาระไว้ให้ใคร ประเทศไทยต้องไปต่อส่งต่อรุ่นสู่รุ่น

“ผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และสิ่งสำคัญประเทศไทยต้องไปต่อ วันนี้นอนหลับแล้ว หลังจากที่นอนไม่หลับมาหลายวัน ขอทุกคนให้โอกาส และสัญญาจะทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ใช่เพื่อตนเอง ผมมีหัวใจเพียงหนึ่งเดียวแต่ต้องใหญ่พอที่รักคนทั้งประเทศไทยได้ นั่นคือความมุ่งมั่นของผม” พลเอกประยุทธ์ กล่าว

ระหว่างนี้ พลเอก ประยุทธ์ ได้ร้องเพลง “ศรัทธา” ของวง หิน เหล็ก ไฟ ว่า “ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา โอกาสของผู้กล้า ศรัทธาไม่มีท้อ” และตะโกนปิดท้ายดังๆว่า “รวมไทยสร้างชาติ”

Advertisement

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะถกวงเงินงบฯ ปี 2567

People Unity News : 4 มกราคม 66 นายกฯ นั่งหัวโต๊ะถกกำหนดวงเงินงบฯ ปี 2567 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคต ให้สัญญาจะทำให้สถานะการเงินการคลังมีความมั่นคงในทุกด้าน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมพิจารณากำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และ ผอ.สำนักงบประมาณ เข้าร่วม

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นการประชุมเรื่องแผนการเงินระยะปานกลาง รายรับรายจ่ายปีงบประมาณ 2567 และประเมินไปถึงปี 2570 ซึ่งจำเป็นต้องประเมิน เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการวางพื้นฐานการใช้จ่ายงบประมาณ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคตอย่างระมัดระวังที่สุด พร้อมขอขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้อง และในโอกาสนี้ขออวยพรปีใหม่ให้กับทุกๆ คนเพราะถือเป็นการประชุมครั้งแรกของปี 2566 ที่พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะทำให้สถานะการเงินการคลังของเรามีความมั่นคงในทุกๆด้าน และขอให้ทุกคนมีความสุขประสบความสำเร็จทุกประการทั้งชีวิตราชการและเรื่องส่วนตัว

Advertisement

นายกฯทำบุญปีใหม่ 2566 เผยอธิษฐานขอให้บ้านเมืองสงบสุข

People Unity News : 3 มกราคม 2566 ทำเนียบรัฐบาล–นายกฯ พร้อมด้วยภริยาและคณรัฐมนตรีร่วมทำบุญปีใหม่ 2566 พร้อมสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่และศาลตายาย เผยอธิษฐานขอให้บ้านเมืองสงบสุข อวยพรสื่อให้มีความสุข

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าปฏิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาลวันแรกของปี 2566 โดยเป็นประธานพิธีทำบุญเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566 โดยมีนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา คณะรัฐมนตรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการการเมือง หัวหน้าส่วนราชการสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการและข้าราชการร่วมพิธี

นายกรัฐมนตรีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล พระสงฆ์ให้ศีลและเจริญพระพุทธมนต์ นายกรัฐมนตรีถวายผ้าไตรพระสงฆ์ จำนวน 10 รูป จากนั้น นายกรัฐมนตรีและภริยา พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ถวายเครื่องไทยธรรม พระสงฆ์สวดอนุโมทนา นายกรัฐมนตรีกรวดน้ำรับพร กราบนมัสการพระรัตนตรัย หน้าโต๊ะหมู่บูชาและกราบลาพระสงฆ์ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี วัดไตรมิตรวิทยาราม ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและภริยา พร้อมด้วย ครม.ได้มาถวายสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา ศาลยาย

เมื่อเสร็จสิ้นพิธีนายกรัฐมนตรีกล่าวสวัสดีกับผู้สื่อข่าว ขอให้ทุกคนมีความสุข ช่วยกันทำบ้านเมืองให้สงบสุขต่อไป

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีอธิษฐานอะไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คำอธิษฐานก็อย่างที่เคย ที่ทุกคนอธิษฐาน ให้ช่วยกันทำบ้านเมืองให้สงบสุข

Advertisement

Verified by ExactMetrics