วันที่ 20 เมษายน 2024

ร่วมรำลึก วันนวมินทรมหาราช ชวนชมนิทรรศการ “พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย”

People Unity News : 12 ตุลาคม 2566 กระทรวงพลังงาน และ กฟผ. ร่วมสืบสานพระราชกรณียกิจ และเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้านพลังงาน จัดกิจกรรมน้อมรำลึกและเทิดพระเกียรติวันนวมินทรมหาราช “พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย” ชวนชมนิทรรศการโครงการตามแนวพระราชดำริอันเกี่ยวเนื่องกับกิจการพลังงาน 11-13 ต.ค. นี้ ที่สยามสเคป

พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ร่วมเปิดงานน้อมรำลึกและเทิดพระเกียรติ วันนวมินทรมหาราช “พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย” ซึ่งกระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 11-13 ตุลาคม 2566 ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 สยามสเคป กรุงเทพฯ

พลอากาศเอก ชลิต กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เปรียบดั่ง “พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย” ทรงสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ จากหลากหลายโครงการที่ทรงริเริ่ม เป็นรูปเป็นร่างขึ้นด้วยพระปรีชาสามารถ และด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล โดยเฉพาะโครงการตามพระราชดำริอันหลากหลาย และโครงการด้านการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนและพลังงานทดแทน ส่งผลให้ประเทศไทยสามารถพึ่งพาตนเองได้ และเป็นแนวทางในการวางนโยบายด้านพลังงานของประเทศจวบจนถึงปัจจุบัน พระมหากรุณาธิคุณนี้เป็นที่ประจักษ์ และน้อมนำมาสืบสานพระราชปณิธาน ด้วยการปฏิบัติตามแนวพระราชดำริ และคำสอนของพระองค์ บนหลักปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ที่ได้พระราชทานแก่พสกนิกร ก่อให้เกิดประโยชน์ และช่วยให้ประเทศไทยพัฒนารุ่งเรืองจวบจนปัจจุบัน

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า งานนี้จัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติในพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาญาณอันล้ำเลิศด้านพลังงาน ประกอบด้วย การจัดแสดงนิทรรศการโครงการตามแนวพระราชดำริอันเกี่ยวเนื่องกับกิจการพลังงาน รวม 5 โครงการ ได้แก่ พลังน้ำ พลังชีวภาพ พลังทดแทน พลังทรัพย์ในดิน และแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ และการมอบหนังสือ “พลังแผ่นดิน” แก่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มโรงเรียนในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และโรงเรียนเครือข่ายโครงการห้องเรียนสีเขียวกว่า 20 แห่ง

นอกจากนี้ ในวันที่ 13 ตุลาคม 2566 กฟผ.เขื่อนภูมิพล ได้ร่วมกับอำเภอสามเงา และประชาชนจังหวัดตาก จัดกิจกรรมน้อมรำลึกเนื่องในวันนวมินทรมหาราช โดยจัดพิธีตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล การปลูกป่าและปล่อยพันธุ์ปลาเฉลิมพระเกียรติ พิธีวางพวงมาลาและถวายบังคม การเพาะเนื้อเยื่อพันธุ์ต้นไม้ทรงปลูกของพ่อ (Tissue Culture) และการจุดเทียนชัยน้อมรำลึก และยังเตรียมกิจกรรม Open House ให้เยาวชนและนักเรียนเข้าศึกษาดูงานและเยี่ยมชมกระบวนการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำในเขื่อนของ กฟผ. โดยสามารถลงทะเบียนจองเข้าเยี่ยมชมตั้งแต่บัดนี้จนถึงตลอดปี 2567

Advertisement

นายกฯ นำ ครม. วางพวงมาลา เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

People Unity News : 23 ตุลาคม 2566 ลานพระราชวังดุสิต – นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) อาทิ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคนนาคม ร่วมพิธีวางพวงมาลา เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่พระบรมราชานุสาวรีย์ ลานพระราชวังดุสิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามีหน่วยงานราชการ ข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา ภาคเอกชน ประชาชนทุกหมู่เหล่า ขณะที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นตัวแทนประธานรัฐสภา เดินทางมาวางพวงมาลาและถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

Advertisement

รัฐบาลจัดงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันฉัตรมงคล 4 พ.ค.

People Unity News : 28 เมษายน 2566 รัฐบาลเตรียมจัดงานสโมสรสันนิบาต เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล 4 พ.ค.นี้

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมจัดงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวันฉัตรมงคล ในวันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม 2566 เวลา 19.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

นายอนุชา กล่าวว่า รัฐบาลได้เชิญคณะองคมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรี ประธาน รองประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หัวหน้าส่วนราชการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ คณะรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมาธิการสามัญ วุฒิสภา หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานสภากรุงเทพมหานคร ปลัดกรุงเทพมหานคร ข้าราชการการเมืองในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้บริหารสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ระดับผู้ช่วยเลขาธิการนายกรัฐมนตรีขึ้นไป) ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ (ระดับพลเอกขึ้นไป) เอกอัครราชทูต กงสุลกิตติมศักดิ์ประเทศต่าง ๆ ประจำประเทศไทย และกงสุลอาชีพ องค์การระหว่างประเทศภายใต้องค์การสหประชาชาติ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานสมาคมธนาคารไทย ประธานสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย พร้อมคู่สมรส เข้าร่วมในงานสโมสรสันนิบาตฯ ด้วย

“สำหรับการจัดงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2566 จะมีการถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ตั้งแต่เวลา 18.50 น. เป็นต้นไป รัฐบาลจึงขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าได้ร่วมกันเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยมงคลขอให้ทรงพระเจริญ พระชนมายุยิ่งยืนนาน เนื่องในวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2566 โดยพร้อมเพรียงกัน” นายอนุชา กล่าว

Advertisement

น้อมรับ “หลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์” ฉบับธรรมนาวา “วัง” เพื่อความพ้นทุกข์แก่คนไทย

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 22 มีนาคม 2567 ทำเนียบรัฐบาล – “พวงเพ็ชร” น้อมรับ “หลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์”  ฉบับธรรมนาวา “วัง”  ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่พสกนิกรไทย เผยแพร่แก่พุทธศาสนิกชนอย่างทั่วถึง

ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน  “หลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์” ฉบับธรรมนาวา “วัง”  แก่พสกนิกรไทย เพื่อประโยชน์สุข   อันพึงจะได้รับจากพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงผ่านหลักการปฏิบัติอย่างถูกต้องตรงตามพุทธบัญญัติ

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ซึ่งกำกับดูแล ส่งเสริมกิจกรรมด้านพระพุทธศาสนาน้อมนำหลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ ฉบับธรรมนาวา “วัง”  ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทาน ไปเผยแพร่ขยายผลทุกช่องทาง และนำไปบรรจุไว้ในการแสดงพระธรรมเทศนาของพระสงฆ์ทุกวัดทั่วประเทศ  ตลอดปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ เพื่อเป็นแนวปฏิบัติของพุทธศาสนิกชนอย่างทั่วถึงต่อไป

Advertisement

นายกฯ ลั่นความปลอดภัยของราชวงศ์เป็นเรื่องสำคัญสูงสุด

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 12 กุมภาพันธ์ 2567 นายกฯ ลั่นความปลอดภัยของราชวงศ์เป็นเรื่องสำคัญสูงสุด ไม่ควรมีใครให้ท้ายหรือมีขบวนการอยู่ข้างหลัง ย้ำฝ่ายมั่นคงดูแลไม่ให้เกิดปะทะ ใช้ความรุนแรงทำร้ายกัน  ชี้เห็นต่างได้ แต่ควรใช้เวทีสภาฯ –วิชาการพูดคุย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่เรียกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหารือเกี่ยวกับการรับอารักขาขบวนเสด็จ ว่า เรียกมาเพื่อย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ  เป็นเรื่องที่เราต้องให้การดูแลบุคคลสำคัญ และกำชับให้สำนักข่าวกรองดูแลเรื่องนี้ให้ดีๆ เพราะไม่อยากให้เกิดการปะทะกันขึ้น อยากให้อยู่ด้วยกันด้วยความสามัคคี หากเห็นต่างควรใช้เวทีที่เหมาะสม เช่น สภาฯ หรือเวทีวิชาการ พูดคุยกัน

เมื่อถามว่าตอนนี้มีหลายฝ่ายรวมถึงกองทัพออกมาแสดงพลังเพื่อปกป้องสถาบัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขาทำกันปกติอยู่แล้ว ทุกฝ่ายรวมถึงกองทัพก็รักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรายงานเรื่องการดำเนินคดีอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่ได้กลั่นแกล้ง ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่ขอวิงวอนเรื่องการใช้ความรุนแรงเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เห็นด้วย และทุกสถาบันไม่ว่าจะเป็นกองทัพหรือตำรวจอยากเห็นความสมัครสมานสามัคคี

“แน่นอนว่าเรื่องความเห็นต่าง มีอยู่ในสังคมอยู่แล้ว แต่เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยและใช้เวทีที่ปลอดภัย ไม่คุกคามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อยากจะอ้อนวอนและวิงวอนให้ทุกฝ่ายเห็นถึงจุดนี้ ตอนนี้ประเทศเดินหน้าไปได้ด้วยดี ความวุ่นวายไม่มีมานานแล้ว ไม่อยากให้มีประเด็นที่ทำให้เกิดความวุ่นวายเกิดขึ้น เป็นเรื่องของฝ่ายความรักษาความปลอดภัยและฝ่ายความมั่นคงที่ต้องดูแล” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่า กังวลจะเป็นเหตุลุกลามบานปลายหรือไม่ เพราะล่าสุดปะทะกันและขู่ทำร้ายกัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากให้สองฝ่ายลดทอนเรื่องการใช้กำลังหรือการใช้ Hate Speech ลงไป อยากให้ใช้เวทีสาธารณะดี ๆ ทั้งสภาฯ เวทีวิชาการพูดคุยกัน เพื่อให้ปลอดภัยกันทั้งสองฝ่าย เชื่อว่าทุกฝ่ายอยากเห็นประเทศชาติมีความปรองดองสมัครสมานสามัคคีกัน เป็นบรรยากาศที่พูดคุยกันได้ คิดว่าทุกฝ่ายให้ความสำคัญเรื่องนี้ และตนก็ได้เน้นย้ำกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเรื่องนี้ด้วย ต้องระมัดระวังไม่ให้กระทบกระทั่งกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือความปลอดภัยของราชวงศ์เป็นเรื่องสำคัญ

ส่วนที่พรรคก้าวไกลมองเรื่องนี้เป็นความคิดเห็นทางการเมืองที่ควรได้รับการนิรโทษกรรม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่เคยมองไปไกลขนาดนั้น มองว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่ต้องดูแลบุคคลสำคัญของประเทศให้ดีที่สุด ไม่ให้ถูกคุกคามหรือใช้กำลัง ไม่อยากให้เอาเรื่องนี้มาเป็นเรื่องของการเมืองด้วย เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เราต้องยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง

เมื่อถามว่ากลุ่มเยาวชนที่ออกมาทำกิจกรรมยังพูดเรื่องของขบวนเสด็จ จึงทำให้เกิดการปะทะกัน ควรจะหยุดพฤติกรรมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการพูดคุยควรมีเวทีที่เหมาะสม เรามีตัวแทนของพี่น้องประชาชนอยู่แล้วในรัฐสภา ควรจะใช้เวทีสภาจะดีกว่าหรือไม่ เพราะเป็นเวทีที่ปลอดภัย และถูกต้องตามครรลองคลองธรรมในระบบประชาธิปไตยอยู่แล้ว ทุกฝ่ายทุกพรรคและคนที่เรารักก็ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว

“ทุกฝ่ายก็มีตัวแทนอยู่แล้วในรัฐสภา ควรจะใช้เวทีนี้เป็นเวทีพูดคุย ถ้าใช้เวทีอื่น เป็นพื้นที่สาธารณะที่มีคนเยอะ อาจจะกระทบกระทั่งกัน ผมไม่เห็นด้วย เพราะความจริงแล้วมันก็มีคนเดือดร้อน ผมไม่อยากให้เกิดบรรยากาศเหมือนวันที่ 10 ก.พ.ที่เกิดปะทะกลางห้าง เพราะมันไปสู่สายตาของชาวโลก ทุกประเทศก็มีการค้มครอบผู้นำ เป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญสูงสุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่าเรื่องนี้มีผู้ใหญ่ให้ท้าย อยากจะขอความร่วมมืออย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าผู้ใหญ่ที่ไหนให้ท้าย แต่ถ้าจะให้พูด ไม่ควรมีใครให้ท้ายไม่ควรมีขบวนการอยู่ข้างหลัง เพราะขบวนเสด็จ ท่านเองก็มีภารกิจ พระองค์ท่านมีภารกิจตลอดเวลา

“พระองค์ท่านทรงงานหนักทุกพระองค์ เพราะฉะนั้นในการเดินทางของทุกพระองค์เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญสูงสุด และฝ่ายที่เห็นต่าง อย่างที่ผมบอกผมใช้คำไปหลายหนแล้ว ให้ใช้เวทีที่ปลอดภัย เรามีสภาฯ เรามีนักวิชาการ เราก็ต้องพูดคุยในเวทีที่ถูกต้อง ไม่อยากให้เป็นเวทีที่ใช้คำว่าท้าทาย เช่น ตามศูนย์การค้าต่าง ๆ ไม่เหมาะสม เพราะผมเชื่อว่ามันไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ถูกต้อง สถานที่ชอปปิ้งต่าง ๆ ก็มีคนที่เขาไปพักผ่อน แล้วเห็นบรรยากาศแบบนั้น อีกทั้งยังมีนักท่องเที่ยว ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดแบบนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่หวังดีต่อประเทศชาติ ไม่อยากให้เกิดบรรยากาศ​นี้แน่นอน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

Advertisement

“หมอชลน่าน” สุดปิติเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ในหลวงพระราชทานกำลังใจ ทรงชมนายกฯ เป็นคนเก่ง

People Unity News : 5 กันยายน 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล – รมว.สธ.สุดปิติเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ในหลวงพระราชทานกำลังใจ ทรงชมนายกฯ เป็นคนเก่ง พร้อมสานต่องานเดิมที่ดีอยู่แล้ว ยึดประชาชนเป็นหลักทำงาน

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเข้าเฝ้า ฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ว่า ครั้งนี้เป็นการเข้าถวายสัตย์เป็นครั้งที่ 2 ของตน ต้องเรียนด้วยความเคารพว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปฏิสันถารที่ทำให้คณะรัฐมนตรีมีกำลังใจอย่างมาก ทรงมีพระราชกระแสตรัสให้กำลังใจ หลังจากถวายสัตย์เสร็จสิ้นพระองค์ได้เดินเข้ามาหานายกรัฐมนตรีด้วยพระพักตร์ยิ้มแย้ม และพูดให้กำลังใจท่านนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่าท่านนายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่ได้ดี พระองค์ท่านยังทรงชมนายกรัฐมนตรีว่าเชื่อมั่นว่าเป็นคนเก่งอยู่แล้ว และทรงมีพระสรวล เราเองก็มีความปิติ ตามที่เราได้ถวายสัตย์ปฏิญาณ ว่าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประเทศชาติและบ้านเมือง และปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญทุกประการ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงแนวทางการเข้าปฏิบัติหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข ว่า มั่นใจในการทำงาน เพราะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบนโยบายชัดเจนว่าเราคือรัฐบาลของประชาชน เราคำนึงถึงประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก ดังนั้น กลไกในการบริหารราชการแผ่นดินของกระทรวงสาธารณสุข อะไรที่ยึดโยงกับประชาชนดีอยู่แล้วเราก็ทำต่อไป อะไรที่ต้องปรับเปลี่ยน เพื่อตอบสนองของประชาชนได้ดีขึ้นก็ต้องดำเนินการ เข็มจึงมุ่งอยู่ที่ประชาชน ทั้งสุขภาวะร่างกายจิตใจ รวมถึงสติปัญญา

“ส่วนที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุขร่วมมือถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะกระทรวงสาธารณสุขมีความเกี่ยวข้องกับทุกกระทรวง โดยเฉพาะในช่วงแรกที่มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของกระทรวงเพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาล เราตั้งใจมุ่งมั่นที่จะใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ รวมถึงต้องวางโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบไอที จึงต้องอาศัยความร่วมมือของทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง” นพ.ชลน่าน กล่าว

Advertisement

“บิ๊กตู่” นำ ครม.ทำกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เฉลิมพระเกียรติในหลวง

People unity news online : นายกรัฐมนตรี พร้อม ครม. นำหน่วยงานภาครัฐ ภาคีเครือข่ายและประชาชน ร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2561

วันนี้ (26 กรกฎาคม 2561) เวลา 09.10 น. ณ บริเวณถนนครปฐม ด้านคลองเปรมประชากร ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี  ปลัดกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนภาคีเครือข่ายภาคเอกชน นักศึกษา และประชาชนผู้มีจิตอาสา ร่วมกันทำกิจกรรม “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เพื่อแสดงน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการร่วมกันปฏิบัติการจิตอาสา เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2561

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดงานกิจกรรม “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” ว่า การปฏิบัติการจิตอาสาเป็นกิจกรรมที่ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติในหลายๆด้าน ด้วยการร่วมแรงร่วมใจกันอย่างเข้มแข็ง หลอมรวมดวงใจของทุกคนให้เป็นพลังหนึ่งเดียวกัน และผนึกกำลังสร้างสรรค์สังคมไทยให้น่าอยู่ กลายเป็นพลังแห่งความรัก ความสามัคคีที่ยิ่งใหญ่ของคนในประเทศ ซึ่งทุกภาคส่วนได้มาร่วมกันทำสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่สังคม ด้วยพลังของจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งรัฐบาลได้น้อมนำโครงการจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” มาสืบสาน ขยายผลออกไปในวงกว้างในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมไปถึงกลุ่มคนไทยในต่างประเทศด้วย เพื่อให้ประชาชนผู้มีจิตอาสาทุกคนได้ร่วมกันเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวาระวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2561 โดยได้จัดให้มีกิจกรรมจิตอาสานี้อีกหลายๆกิจกรรม โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 ถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2561

พร้อมทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการจัดการผังเมืองของรัฐบาลในขณะนี้ว่า เพื่อให้ประชาชนเกิดความรับผิดชอบขยะของตนเอง ซึ่งต้องแก้ปัญหาร่วมกัน และต้องรู้วิธีจัดการขยะว่านำไปจัดการอย่างไร เช่น นำไปทำปุ๋ย ผลิตไฟฟ้า หรือเป็นพลังงาน อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ พร้อมกล่าวย้ำว่ารัฐบาลดำเนินการต่างๆ ไม่ได้เอื้อต่อประโยชน์แก่บุคคลหรือหน่วยงานใดๆทั้งสิ้น แต่เป็นเรื่องที่จำเป็นและต้องแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วนและทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการจัดการขยะ คือ ร่วมกันคัดแยกขยะก่อนทิ้งลงถัง เพื่อจะลดภาระให้แก่เจ้าหน้าที่ที่จัดเก็บ พร้อมกล่าวกับประชาชนจิตอาสาที่มาร่วมกิจกรรมว่าให้เรียนรู้และทำความเข้าใจในวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลแก้ไขข้อกฎหมายด้านต่างๆ ซึ่งรัฐบาลมีการประเมินทั้งแผนระยะสั้นและระยะยาว เพื่อเป็นการติดตามผลการดำเนินงานซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์สูงสุด

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีและภริยา ได้ปลูกต้นรวงผึ้ง ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำพระองค์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บริเวณด้านข้างศาลพระภูมิ

จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมภริยา และคณะรัฐมนตรี ได้ปลูกต้นทองอุไร บริเวณถนนนครปฐมด้านติดคลองเปรมประชากร ก่อนนำคณะรัฐมนตรี จิตอาสาจากทุกภาคส่วน ทำกิจกรรมจิตอาสาต่างๆ ได้แก่  การฉีดน้ำล้างทำความสะอาดบริเวณถนนครปฐม ด้านคลองเปรมประชากร ทำเนียบรัฐบาล ทาสีรั้วบริเวณสะพานอรทัยและแนวขอบริมทางเดินเท้า ชมการสาธิตเรือลอกตะกอนและเครื่องกลเติมอากาศใต้น้ำ รวมทั้งเยี่ยมชมให้กำลังใจจิตอาสา บริเวณจุดบริการอาหารแก่จิตอาสาเชิงสะพานอรทัย และบริเวณถนนพระรามที่ 5 จนถึงบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ พร้อมชมการขุดลอกคลองบริเวณริมกำแพงโรงเรียนราชวินิต นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบอาหารเป็นห่อข้าวเหนียวไก่และน้ำดื่มให้แก่ผู้มาร่วมปฏิบัติการจิตอาสาครั้งนี้ด้วย

People unity news online : post 26 กรกฎาคม 2561 เวลา 12.50 น.

นายกฯ กำชับ ผบ.ตร. รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 11 กุมภาพันธ์ 2567 นายกฯ โพสต์เฟซบุ๊ก และ X เผยหารือ ผบ.ตร. และนายตำรวจระดับสูง เรื่องการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ระบุรัฐบาลมีหน้าที่ถวายการอารักขาและรักษาไว้ซึ่งพระเกียรติยศของสถาบัน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรววงการคลัง โพสต์ข้อความผ่าน Facebook และ X ระบุ ผมหารือกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

เรื่องที่ผมเป็นห่วงและขอกำชับคือเรื่องมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของบุคคลสำคัญ เพื่อไม่ให้ประเด็นนี้กลายเป็นเครื่องมือที่ถูกใช้โจมตีทางการเมืองของทุกฝ่าย หรือมือที่สามมาฉวยสร้างสถานการณ์ ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยที่เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล และของผมในฐานะนายกฯ ขอย้ำครับว่าประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รัฐบาลมีหน้าที่ถวายการอารักขาและรักษาไว้ซึ่งพระเกียรติยศของสถาบัน

ผมเชื่อว่าเราคนไทยเห็นตรงกันในเรื่องนี้ครับ

Advertisement

 

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จไปติดตามงานโครงการกำลังใจฯ จ.เชียงราย

People unity news online : เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2560 เวลา 12.15 น. พระเจ้าหลานเธอ  พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จไปทรงติดตามการดำเนินงานตามโครงการกำลังใจฯ ณ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย

ทรงเยี่ยม นายวีรภาพ กันแก้ว คนต้นแบบโครงการกำลังใจฯ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวกำลังใจ โดยมี นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เฝ้ารับเสด็จ

ต่อจากนั้น เวลา 13.30 น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเชิญพระประธานประจำลานปฏิบัติธรรมขึ้นประดิษฐานบนแท่น และพิธีเบิกเนตรพระพุทธรูปที่ผู้เข้าร่วมโครงการกำลังใจฯ สร้างถวาย ณ สำนักปฏิบัติธรรมอรัญญะมุนี สาขาวัดป่าซางงาม จังหวัดเชียงราย

ทั้งนี้ โครงการพุทธอุทยานในเขตสำนักปฏิบัติธรรมอรัญญะมุนี ถือเป็นความสำเร็จของโครงการกำลังใจฯ ที่เป็นต้นแบบของศูนย์รวมด้านจิตใจโดยใช้พระพุทธศาสนาเป็นแกนหลัก โดยผู้เข้าร่วมโครงการกำลังใจฯ ในรุ่นแรก จำนวน 1 ราย ได้นำแนวทางตามโครงการกำลังใจฯในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การปลูกป่า และพัฒนาป่าไม้ให้เป็นสถานที่สำหรับการศึกษาธรรมชาติ ซึ่งกรมป่าไม้ได้อนุญาตให้ประชาชนกับวัดป่าซางงาม ภายใต้สำนักปฏิบัติธรรมอรัญญะมุนี ฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าสบกกฝั่งขวา บ้านป่าซางงาม อำเภอดอยหลวง จังหวัดเชียงราย จำนวน 9 ไร่ 96 ตารางวา

นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วม “โครงการปั้นดินให้เป็นบุญ” จากเรือนจำกลางบางขวาง ได้ปั้นพระพุทธรูปเพื่อนำมาประดิษฐาน ณ ลานธรรมของสำนักปฏิบัติธรรมอรัญญะมุนี นับเป็นการเชื่อมโยงบุคคลที่อยู่ภายในเรือนจำกับภายนอกเรือนจำด้วย “ธรรมะ” ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งที่โครงการกำลังใจฯ ได้นำมาเพื่อการฟื้นฟูเยียวยาจิตใจให้กับผู้ที่เคยก้าวพลาด

People unity news online : post 9 พฤษภาคม 2560 เวลา 14.53 น.

ไปชม! งาน “ใต้ร่มพระบารมี 235 ปีกรุงรัตนโกสินทร์” กิจกรรมมากมายตลอดเดือน เม.ย.นี้

People unity news online :  เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานมหกรรมวัฒนธรรม “ใต้ร่มพระบารมี 235 ปี  กรุงรัตนโกสินทร์” น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิรันดร์ โดยมี ดร.ฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม นายปรารพ เหล่าวานิช เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม และผู้แทนหน่วยงานต่างๆเข้าร่วม

นายวีระ กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมจัดงาน 235 ปีกรุงรัตนโกสินทร์ และกิจกรรมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ และกรุงเทพมหานคร เป็นต้น เพื่อจัดงานดังกล่าวขึ้นภายใต้ชื่องานมหกรรมวัฒนธรรม “ใต้ร่มพระบารมี 235 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิรันดร์ เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ที่ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ และเพื่อเทิดพระเกียรติพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ในราชวงศ์จักรีที่ได้ทรงนำพาประเทศชาติเป็นปึกแผ่น และเจริญรุ่งเรืองมาครบรอบ 235 ปี รวมทั้งเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ร่วมรำลึก เรียนรู้ประวัติศาสตร์และความเป็นมาของการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งงานครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 30 เม.ย.2560 ระหว่างเวลา 10.00 – 22.00 น. และจะมีพิธีเปิดงานในวันที่ 5 เม.ย.นี้ที่โรงละครแห่งชาติ หลังจากนั้นจะมีพิธีเปิดนิทรรศการรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งนิทรรศการจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 30 เม.ย.ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และเปิดกิจกรรมเยี่ยมยลพิพิธภัณฑ์ (Night Museum) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 25 เม.ย.ที่โรงละครแห่งชาติด้วย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า กิจกรรมภายในงานประกอบด้วยพิธีสำคัญ คือ พิธีบวงสรวงและพิธีสักการะบูรพกษัตริย์ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร รวมทั้งมีพิธีสักการะศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร โดยทั้ง 3 พิธีนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 20 เม.ย. พิธีเจริญพระพุทธมนต์และตักบาตรพระสงฆ์ 236 รูปที่ลานคนเมืองในวันที่ 21 เม.ย. หลังจากนั้นจะมีพิธีศาสนา 5 ศาสนา มหามงคล ในวันที่ 22 เม.ย.ที่โรงละครแห่งชาติ

ขณะเดียวกันยังได้จัดนิทรรศการจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ระหว่างวันที่ 1 – 30 เม.ย.ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป นิทรรศการรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ต้นไม้ปณิธานความดี และรถศูนย์ข้อมูลดนตรี ระหว่างวันที่ 5 – 30 เม.ย.ที่โรงละครแห่งชาติ (โรงเล็ก) รวมทั้งการเสวนาทางวิชาการ อาทิ ภาพเก่าเล่าขานตำนานรัตนโกสินทร์และ 235 ปี รัตนโกสินทร์คีตการ : ดุริยางค์ราชสำนัก มรดกไทยมรดกโลก ระหว่างวันที่ 22 – 25 เม.ย.ที่โรงละครวังหน้า

รวมถึงจัดกิจกรรม “สวดพระพุทธมนต์ 10 วัด สืบสิริ 10 รัชกาล” ระหว่างวันที่ 6 – 24 เม.ย. อาทิ   วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดอรุณราชวราราม วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก  วัดวชิรธรรมสาธิต เป็นต้น รวมทั้งกิจกรรม “ไหว้พระเสริมสิริมงคล” ระหว่างวันที่ 21 – 25 เม.ย.ที่วัดรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ได้แก่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร วัดบวรนิเวศวิหาร วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร วัดราชนัดดารามวรวิหาร วัดสุทัศนเทพวรราม วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร (ขสมก.) จัดรถโดยสารปรับอากาศให้บริการรถรับ – ส่ง ประชาชน 10 จุดใน 10 วัด โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ติดต่อสอบถามโทร. 02 422 8812

นายวีระ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังได้จัดงานมหกรรมการแสดงทางวัฒนธรรม ระหว่างวันที่ 20 – 25 เม.ย. มีการแสดงทางวัฒนธรรมที่โรงละครแห่งชาติ การแสดงวัฒนธรรมไทย 4 ภาคที่ลานคนเมือง การแสดงมหกรรมวิทยาลัยนาฏศิลป์ทั่วประเทศที่สวนสันติชัยปราการ และจัดมหกรรมวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 2 โดยมีงานมหกรรมการแสดงหุ่นร่วมสมัยไทย-อาเซียน ที่โรงละครแห่งชาติ (โรงใหญ่) ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ และสวนสันติชัยปราการ บางลำพู โดยจะเชิญทูตานุทูตจากประเทศต่างๆในอาเซียนเข้าร่วม ขณะเดียวกันได้จัดการแสดงนาฏยศาลาหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ โดยแสดงเรื่อง “พระมหาชนก” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ระหว่างวันที่ 20 – 21 เม.ย. รวมถึงมีนิทรรศการและการแสดงหุ่นร่วมสมัยไทยและอาเซียน ระหว่างวันที่ 20 – 30 เม.ย. ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จัดขึ้นที่หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนินอีกด้วย

รวมทั้งมีกิจกรรมเยี่ยมยลพิพิธภัณฑ์ ระหว่างวันที่ 20 – 25 เม.ย. โดยเชิญชวนเด็ก เยาวชน และประชาชนเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มิวเซียมสยาม นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ พิพิธบางลำพูและวังจักรพงษ์ โดยนักเรียน นักศึกษาและประชาชนสามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อจะได้เรียนรู้และซึมซับด้านประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมของชาติ

นอกจากนี้ มีกิจกรรมการประกวดภาพถ่าย หัวข้อ “ใต้ร่มพระบารมี 235 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” จัดระหว่างวันที่ 2 – 30 เม.ย. ที่หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน และการจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรมทั้งของดีบ้านฉัน 76 จังหวัด และของดีรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ระหว่างวันที่ 20 – 25 เม.ย.ที่ลานคนเมือง และสวนสันติชัยปราการ และจัดงาน “สัปดาห์วันอนุรักษ์มรดกไทย” ระหว่างวันที่ 2 – 8 เม.ย.ที่โรงละครแห่งชาติ และงาน “เทศกาลวันสงกรานต์” ระหว่างวันที่ 13 – 17 เม.ย.นี้ ที่ลานคนเมือง สยามพารากอน วัดปทุมวนารามราชวรวิหารและสยามสแควร์ด้วย ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนวัฒนธรรม โทร.1765

People unity news online : post 3 เมษายน 2560 เวลา 10.33 น.

 

Verified by ExactMetrics