วันที่ 25 เมษายน 2024

“ศักดิ์สยาม”สั่งขบ.ใช้ AIทำงาน-สั่งศึกษาติดGPSรถยนต์ส่วนบุคคล

People Unity : “ศักดิ์สยาม” ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่กรมการขนส่งทางบก สั่งขบ.ใช้ AIทำงาน-สั่งศึกษาติด GPSรถยนต์ส่วนบุคคล

วันที่ 21 ต.ค.2562 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่กรมการขนส่งทางบก พร้อมด้วย นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม และนางสาวกอบกุล โมทนา หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม โดยมี นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และผู้บริหารกรมการขนส่งทางบก ให้การต้อนรับ ที่กรมการขนส่งทางบก

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ได้มอบนโยบายการบริหารงาน ให้กับผู้บริหาร ข้าราชการกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) โดยมีนโยบายหลักๆ11 เรื่อง ทั้งนี้ โดยเน้นหนักเรื่องความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกศึกษารายละเอียดเรื่องของการนำเทคโนโลยี (AI) มีปรับใช้เพื่อความสะดวกและแม่นยำมากขึ้น รวมถึงกฎหมายที่มีอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้บังคับใช้อย่างจริงจังหลายเรื่อง ซึ่งทั้งหมดกระทรวงคมนาคมวางเป้าหมายที่จะลดสถิติอุบัติเหตุบนท้องถนนลงให้ได้มากที่สุด

“ประเด็นสำคัญที่ต้องการให้เร่งดำเนินการ คือ การติดตั้งระบบ GPS รถยนต์ส่วนบุคคลและรถจักรยานยนต์จากโรงงาน ซึ่งจะมีการหารือร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลภาคการผลิตอุตสาหกรรมรถยนต์ตั้งแต่ต้นทาง ภาคเอกชนค่ายรถต่าง ๆ รวมทั้งเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชน เนื่องจากการควบคุมจีพีเอสรถทุกคันจะมีการเข้าถึงสิทธิ์ข้อมูลต่าง ๆ ในการเดินทางต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้รถ และในอนาคตก็จะมีแหล่งข้อมูลการใช้รถขนาดใหญ่ที่กำกับดูแลด้านความปลอดภัย โดยมีกรมการขนส่งทางบกเป็นหน่วยงานที่ monitor ข้อมูลเหล่านี้ ส่วนการปฏิบัติที่จะขับเคลื่อนแนวทางดังกล่าวไปสู่ผู้กระทำนั้น กรมการขนส่งทางบกจะเริ่มทำการศึกษาและคาดว่าน่าจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี เพื่อให้ได้ข้อสรุปกับการนำนโยบายเหล่านี้มาใช้” นายศักดิ์ กล่าว

นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวถึงการกระทำผิดกฎหมายจราจรแล้ว จะต้องมีการถูกตัดแต้มนั้น กรณีดังกล่าวมอบให้กรมการขนส่งทางบกเก็บฐานข้อมูลในกรณีของผู้ใช้รถที่มีใบอนุญาตจะมีคะแนน 100 คะแนนเต็ม แต่หากมีการกระทำผิดกฎหมายจราจรก็จะมีการทยอยหักแต้มไปเรื่อย ๆ และเมื่อมีการหักจนครบเพดานขั้นต่ำที่วางไว้จะถูกยึดใบอนุญาตถาวร เช่นเดียวกับรถแต่ละคันหากมีการบันทึกข้อมูลการกระทำผิดซ้ำจะถูกจำหน่ายทะเบียนรถคันนั้นออกจากระบบ ซึ่งทั้งหมดกระทรวงคมนาคมจะนำมาเป็นแนวทางดูแลงานด้านความปลอดภัยและเพิ่มวินัยจราจรให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน นอกจากนี้ ยังมีประเด็นกำกับดูแลด้านกฎหมายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการที่จะนำระบบสินบนนำจับมากำกับดูแลงานความปลอดภัยของรถสาธารณะ โดยประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ หากพบรถของผู้ประกอบการรายใดไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเงื่อนไขความปลอดภัย สามารถแจ้งดำเนินคดี เช่น กรณีที่ผู้ประกอบการทำผิดและต้องเสียเบี้ยปรับ 50,000 บาท อาจจะหักเงินดังกล่าวเป็นสินบนนำจับ 10% มอบให้แก่ผู้แจ้งเบาะแส ซึ่งเรื่องเหล่านี้ขอให้กรมการขนส่งทางบกไปลองศึกษาข้อมูล เพื่อให้ได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือน

ด้าน นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกพร้อมรับมอบนโยบายเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติโดยกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวมข้อมูลและจัดทำแผนการดำเนินการอย่างรอบด้านและเร่งดำเนินการติดตามประเมินผลการดำเนินการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินการตามนโยบายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกมีแผนปฏิบัติราชการกรมการขนส่งทางบก ระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2563-2565) ซึ่งสอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 แผนการปฏิรูปประเทศ นโยบายรัฐบาล และแผนปฏิบัติการด้านคมนาคม (พ.ศ. 2563-2565) โดยดำเนินการภายใต้กรอบแนวคิด 3S ประกอบด้วย S (Safety & Security) คือ ควบคุม กำกับ ดูแลระบบการขนส่งทางถนนทุกรูปแบบให้มีความปลอดภัยและมั่นคง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความมั่นคงและปลอดภัย S (Sustainability) คือ ควบคุม กำกับ ดูแลระบบการขนส่งทางถนนทุกรูปแบบให้สามารถรองรับผู้ใช้งานได้ทุกกลุ่ม

สธ.เชิญชวนประชาชนร่วมสร้างกุศลบริจาคอวัยวะให้ชีวิตใหม่เพื่อนมนุษย์

People Unity News : กระทรวงสาธารณสุข เชิญชวนประชาชนร่วมสร้างกุศลบริจาคอวัยวะ ให้ชีวิตใหม่เพื่อนมนุษย์ ลดความพิการแก่ผู้ป่วยที่รอรับการปลูกถ่ายอวัยวะโดยผู้บริจาค 1 คนจะช่วยผู้ป่วยได้ถึง 8 คน

วันที่ 27 ต.ค.2562 นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับสภากาชาดไทย ได้จัดทำโครงการบริจาคอวัยวะเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 รณรงค์ให้ประชาชนร่วมแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะและดวงตา เพื่อช่วยชีวิตและลดความพิการแก่ผู้ป่วยที่รอรับการปลูกถ่ายอวัยวะ ซึ่งผู้บริจาค 1 คนจะช่วยผู้ป่วยได้ถึง 8 คน

นายแพทย์สุขุมกล่าวต่อว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทารวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญในการดำเนินงานระบบบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะให้มีความเข้มแข็งพัฒนาระบบบริการสุขภาพ(Service Plan) สาขาการรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ ร่วมมือกับสภากาชาดไทยจัดตั้งศูนย์รับบริจาคอวัยวะในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ และพัฒนาทีมจัดเก็บอวัยวะในทุกเขตสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ในต่างจังหวัด มีโอกาสเข้าถึงบริการปลูกถ่ายอวัยวะที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว โดยเฉพาะการปลูกถ่ายไตและดวงตา ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

“ผมและชาวกระทรวงสาธารณสุข ขอชื่นชม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ท่านเป็นต้นแบบที่ดีของผู้บริจาคอวัยวะ จิตอาสาช่วยเหลือขนส่งอวัยวะด้วยการขับเครื่องบินส่วนตัว และสนับสนุนงานบริจาคอวัยวะช่วยชีวิตผู้ป่วยที่รอความหวัง” นายแพทย์สุขุมกล่าว

ทั้งนี้ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 มีผู้ป่วยที่ลงทะเบียนรอรับการบริจาคอวัยวะจำนวน 6,311 ราย มีผู้ป่วยได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะจากผู้บริจาคเพียงร้อยละ 9.1 หรือผู้รอรับอวัยวะ 10 คน มีโอกาสได้อวัยวะ 1 คน เท่านั้น และผู้รอรับดวงตา 13,510 ราย ปัจจุบันสามารถปลูกถ่ายอวัยวะได้ปีละ 500 – 700 ราย และปลูกถ่ายกระจกตา ได้ปีละ 700 – 800 ราย ผู้มีจิตศรัทธาต้องการบริจาคอวัยวะและดวงตา ติดต่อได้ที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย โทร. 02 256 4045, 02 256 4046 ในวันและเวลาราชการ และศูนย์ดวงตา สภากาชาดไทย โทร. 02 256 4039, 02 256 4040 ในวันและเวลาราชการ

โฆษณา

“ศักดิ์สยาม”หารือ ปตท.แก้ปัญหาส่งมอบพื้นที่สร้างรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน

People Unity : “ศักดิ์สยาม”หารือ ปตท.แก้ปัญหาส่งมอบพื้นที่สร้างรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา มีท่อน้ำมันและท่อก๊าซกีดขวางบริเวณพื้นที่

วันที่ 18 ต.ค.2562 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เข้าพบเพื่อแสดงความยินดีในโอกาสได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่ากระทรวงฯ พร้อมหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของ ปตท. โดยมี นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมหารือ ในวันที่ 18 ตุลาคม 2562 ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม

โดยที่ประชุมได้หารือในประเด็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา) ซึ่งมีท่อน้ำมันและท่อก๊าซกีดขวางบริเวณพื้นที่ดังกล่าว และการให้บัตรส่วนลดราคาก๊าซ NGV แก่ผู้ที่มีรายได้น้อย นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่ากระทรวงฯ ได้ขอความร่วมมือ ปตท. ใช้พื้นที่ตั้งจุดตรวจเข้มข้นโดยสารสาธารณะ Checking Point ภายในสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ปตท. เพื่อตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจ การมีใบอนุญาตขับรถถูกต้องตรงตามประเภท คุมเข้มชั่วโมงการทำงานของพนักงานขับรถ และตรวจความพร้อมของรถโดยสารให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้อย่างปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกมีการใช้พื้นที่จุดตรวจฯ ภายในสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ปตท. จำนวน 19 แห่ง ซึ่งบางแห่งไม่สามารถเข้าไปใช้พื้นที่ได้ ทั้งนี้ ปตท. ยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน

“จุรินทร์”ยันอีก! มะกันตัดจีเอสพีไม่เกี่ยวกับแบน 3 สารพิษ

People Unity : “จุรินทร์”ยันอีก! มะกันตัดจีเอสพีไม่เกี่ยวกับแบน 3 สารพิษ ขี้ข้อเท็จจริงตัวเลขสิทธิพิเศษทางภาษีที่ถูกตัดประมาณ 1,500-1,800 ล้านบาทเท่านั้น “หมอตี๋”ยัน สธ.มีจุดยืนปกป้องสุขภาพคนไทยจากสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้

วันที่ 27 ตุลาคม 2562 เวลา 13.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวถึงกรณีสหรัฐอเมริกาตัดสิทธิทางภาษีหรือ GSP ว่า ขอเรียนให้ทราบว่าในเรื่องกรณีที่สหรัฐอเมริกาได้ตัดจีเอสพีสินค้าไทยที่ส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกานั้น ประเด็นก็คือ ปัจจุบันนี้สหรัฐฯให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรหรือที่เรียกว่าจีเอสพี ที่ส่งออกสินค้าไทยไปยังสหรัฐฯ รวมทั้งหมดราคา 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ไทยไม่ได้ใช้สิทธิ์เต็มตามจำนวนที่ให้สิทธิ์เรา ใช้สิทธิ์แค่ 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ส่งออกไปในทุกวันนี้

ประเด็นของการจากตัดจีเอสพี ก็หมายความว่าต่อไปนี้สินค้าของไทยที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ จำนวนยอดขายรวมกัน 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐ นั้นจะต้องเสียภาษีนำเข้าสหรัฐ จากเดิมที่ไม่ต้องเสียภาษี ภาษีที่ต้องเสียตกร้อยละ 4-5 โดยประมาณ ซึ่งทั้งหมดนี้หมายความว่าต่อไปนี้สินค้าไทย ที่จะส่งไปขายสหรัฐอเมริกาจะต้องมีภาระภาษีแทนที่จะไม่ต้องจ่ายภาษี ซึ่งภาระทางภาษีแต่ละปี เมื่อคำนวณแล้วตกประมาณ 1,500 ถึง 1800 ล้านบาท

“กล่าวโดยสรุปก็คือการตัดสิทธิ์พิเศษภาษีทางศุลกากรของสหรัฐทำให้สินค้าไทยที่ส่งออกไปขายยังสหรัฐอเมริกา มีภาระที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น 1500 -1800 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตามประเด็นที่เป็นที่มาของสหรัฐฯ อ้างว่าใช้เป็นเงื่อนไขในการตัดสิทธิ์ ทำให้เราต้องเสียภาษีคือเรื่องแรงงาน สหรัฐต้องการให้ไทยเปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าว ที่มาทำงานอยู่ในประเทศไทยสามารถตั้งสหพันธ์แรงงานได้อันนี้เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญ ส่วนประเด็นอื่นนั้นขอให้ทางทรวงแรงงานเป็นผู้ให้ข้อเท็จจริง” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงพิจารณาประจำปีของเขาแต่เราสามารถที่จะอุทธรณ์หรือขอให้ทบทวนใหม่ได้ซึ่งหลายครั้งที่ผ่านมาอย่างเช่นปีที่แล้วก็ทบทวนรายการสินค้าคืนมาให้ 7 รายการ และปีนี้เราก็จะยื่นขอทบทวนอีก ถ้าเขาไม่ทบทวนถือว่าเป็นอำนาจของเขาเข่นกันเพราะเขามีสิทธิ์ฝ่ายเดียวเขาสามารถให้หรือไม่ให้ประเทศใดก็ได้ อย่างไรก็ตามประเทศไทยเราก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เขาให้ฝ่ายเดียว เมื่อเขาไม่ให้หรือทบทวนแล้วไม่ให้เราก็จะไม่ได้สิทธิ์พิเศษนั้นต่อไปนี้เราก็จะต้องจ่ายภาษีตามเงื่อนไขที่เขากำหนดทำให้เรามีภาระทางภาษีเพิ่มขึ้น 1500 -1800 ล้านบาท ส่วนคำถามเรื่องสำหรับการแบน 3 สาร เท่าที่ติดตามไม่ได้เป็นเงื่อนไขของครั้งนี้สิ่งที่เราทราบเป็นทางการ คือ เกี่ยวกับประเด็นแรงงาน สรุปว่าสิ่งที่เขาอ้างในการตัดสิทธิ์ไม่เกี่ยวกับ 3 สาร แต่อย่างใด

“หมอตี๋”ยัน สธ.มีจุดยืนปกป้องสุขภาพคนไทยจากสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณี รัฐบาลสหรัฐอเมริกาส่งหนังสือถึงรัฐบาลไทยจากการประกาศแบน 3 สารเคมีนั้นว่า ในฐานะกระทรวงสาธารณสุข ถือพันธกิจสำคัญคือเน้นเรื่องการดูแลสุขภาพเพราะฉะนั้นเมื่อเรามีข้อมูลว่า ทั้ง 3 สารมีอาจจะมีอันตรายต่อผู้ใช้ ซึ่งกระทรวงก็ได้ประกาศไปแล้ว และทางคณะกรรมการวัตถุอันตรายก็ได้ประการแบน 3 สารเคมีไปแล้ว ดังนั้นถือ เป็นสิทธิของกระทรวงสาธารณสุข ที่เราเน้นความปลอดภัยของประชาชนในการบริโภคอาหาร และเป็นสิทธิที่เราจะปฏิบัติตามนโยบายของกระทรวงในการดูแลสุขภาพของคนไทย

ดร.สาธิต กล่าวด้วยว่า ส่วนผลกระทบด้านอื่นๆ คงต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องมาดูแลว่า เกษตรกรจะต้องมีสารทดแทนอย่างไร ซึ่งก็เป็นอีกมุมหนึ่งที่รัฐบาลจะตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม ย้ำว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ส่งหนังสือถึงรัฐบาลไทยนั้น ในส่วนกระทรวงสาธารณสุข ถือเป็นสิทธิในการแสดงจุดยืนเรื่องการดูแลสุขภาพของคนไทย

“มัลลิการ์”โพสต์เตือนอย่าตื่นตูมอย่าปั่นกระแสจนเกินเหตุ

นางมัลลิการ์ บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ ได้โพสต์เตือนว่า อย่าตื่นตูมมากไป และ อย่าปั่นกระแสจนเกินเหตุ แล้วพวกที่กระโจนใส่ท่านนายกรัฐมนตรีนั้น ลืมอะไรไปหรือเปล่า?

1.โดยหลัก ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการแบน 3 สารพิษ 2.ส่วนกรณีสิทธิด้านแรงงานตามกล่าวนั้น อเมริกาและไทยเจรจากันมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้วตั้งแต่ปี 2556 ที่สมาพันธ์แรงงานUSAยื่นหนังสือร้องเรียน (ตอนนั้นรัฐบาลยิ่งลักษณ์) 3.ส่วนเรื่อง GSP (สิทธิด้านภาษี) เราได้รับสิทธินี้เป็นพิเศษมาตั้งแต่ปี 2519 และเราก็ใช้สิทธินี้อย่างเต็มที่มาเรื่อยๆซึ่งเป็นสิ่งที่เราได้รับเป็นพิเศษ 4.การทบทวนเพิ่มหรือลดสิทธิพิเศษทางภาษี GSP เป็นกระบวนการปกติที่มีการเจรจาและทำกันมาอยู่ตลอด (เราได้สิทธิ 3,500 รายการแต่เราใช้เพียง 1,285 รายการเท่านั้นเพราะนอกจากนั้นเราไม่ได้ผลิตหรือไม่ได้ส่งUSA) 5.ต้องแก้ไขข่าวที่สื่อลงนิดหนึ่ง คือ ตัวเลข 40,000 ล้านบาท ที่สื่อฯลงนั้นไม่ใช่ตัวเลขที่ถูกตัดสิทธิ (อันนั้นเป็นตัวเลขโดยรวมของการส่งออกUSAใน 573 รายการ) แต่ตัวเลขที่ถูกตัดคือสิทธิด้านภาษี ก็คือ 61 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1,800 ล้านบาทเท่านั้น (ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ส่งออกไปUSAต้องจ่ายเป็นภาษีศุลกากรเขาและเป็นกรณีภาษีที่เรายังมีโอกาสในการเจรจาซึ่งมีระยะเวลา 6 เดือนจากนี้ ซึ่งการเจรจานี้ก็เป็นเรื่องปกติสามารถทำได้ตามฟอรัมต่างๆที่เราจะได้เจอเขาโดยเฉพาะในต้นเดือนพย.นี้)

6.มาตรการรองรับจากกระทรวงพาณิชน์ โดยท่านรองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” ได้ให้นโยบายตั้งแต่ต้นโดยเป็นมาตรการรองรับสงครามการค้าและมาตรการเชิงรุกด้านตัวเลขส่งออกอยู่แล้ว คือ เราเน้นฟื้นตลาดเก่า เพิ่มตลาดใหม่ รุกตลาดยุโรปและอื่นๆ รวมทั้งตะวันออกกลาง แอฟริกา รัสเซีย จีน อินเดีย เป็นต้น และเพิ่มมูลค่าทางสินค้าโดยการปรับเปลี่ยนเพิ่มคุณภาพและนวัตกรรมต่อไป

7.ภาพรวมที่ผ่านมา การส่งออกไป USA นั้นไทยเราได้ดุลการค้า ในสินค้ายานยนต์ ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ เคมีภัณฑ์ และกลุ่มอาหาร #ไม่มีใครนิ่งเฉย #อย่าตกใจจนขย้ำผู้นำประเทศตน

“จุรินทร์”เตรียมนำทัพเอกชนลุย 10 ตลาดส่งออกทั่วโลก

People Unity : “จุรินทร์”เตรียมนำทัพเอกชนลุย 10 ตลาดส่งออกทั่วโลก ติวเข้มกระทรวงพาณิชย์หน่วยงานภาคราชการที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน

วันที่ 25 ต.ค.2562 ตั้งแต่เวลา 8.30-10.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ครั้งที่ 2/2562 วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2562 ณ สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดย

นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุม กรอ.พาณิชย์อีกครั้งหนึ่ง ได้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างกระทรวงพาณิชย์หน่วยงานภาคราชการที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสมาคมผู้ส่งออกสินค้าและอื่นๆวันนี้ประเด็นสำคัญก็คือ การเพิ่มตัวเลขการส่งออก ภายใต้สถานการณ์ที่ได้รับผลกระทบสงครามการค้า Brexit และ เรื่องค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับยุทธศาสตร์เดิมที่กำหนดไว้คือการมุ่งเน้นรักษาตลาดเดิม และขยายเพิ่มเติมตลาดใหม่รวมทั้งฟื้นตลาดเก่าที่เคยมีอยู่แต่สูญเสียไปได้เน้นย้ำเพิ่มเติมลึกลงไปในรายละเอียดของยุทธศาสตร์ในทางปฏิบัติที่จะมุ่งเน้น 5-6 ประเด็นใหญ่

ประเด็นแรกจะคงเดินหน้าการสร้างไทยแบรนด์เพื่อให้มีความเข้มแข็งในตลาดโลกต่อไป อันที่สอง คือ มุ่งเน้นการส่งเสริมภาคบริการใหม่นอกจากที่เคยทำมา เช่น ค้าปลีก โลจิสติกส์และเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ กีฬา การก่อสร้างตกแต่ง โรงแรมอีคอมเมิร์ซเพิ่มเติม เป็นต้น อันที่สาม คือมุ่งเน้นกระชับการสร้างพันธมิตรเครือข่ายกับสภาธุรกิจเอกชนระหว่างประเทศในภูมิภาคต่างๆถือว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นและส่งผลให้ตัวเลขการส่งออกเป็นรูปธรรมได้ชัดเจนโดยเร็วขึ้น และสี่ คือ การเน้นสนับสนุนให้เอสเอ็มอีสามารถที่จะส่งออกได้มากขึ้นผ่านช่องทางต่างๆ อันที่ห้า มุ่งเน้น ให้ทูตพาณิชย์หาลู่ทางเจาะเป็นตลาดในประเทศใหญ่ๆ รายมณฑลเพิ่มตัวเลขการส่งออกแผนการเจาะตลาดประเทศ

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้ข้อสรุปร่วมกันว่าอย่างน้อยในช่วงระยะเวลาถ้าจากนี้ไปจะบุกตลาดไปด้วยกันทั้งภาครัฐและเอกชนใน 10 ตลาดใหญ่ที่เห็นว่ามีศักยภาพ ประกอบด้วยตลาด จีน อินเดีย ตุรกี เยอรมัน ศรีลังกา บังคลาเทศ ตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ อังกฤษ ยุโรป เป็นต้น และสิ่งที่ที่ประชุมนี้มีความเห็นให้ฝ่ายเลขาฯไปทำการบ้านเพิ่มเติมเพื่อการประชุมเที่ยวหน้าคือหนึ่งการทำให้ภูมิภาคอาเซียนการค้าชายแดนของไทยสามารถใช้โลโก้ข้าวอินทรีย์ได้มากขึ้น และจัดทำแผนสนับสนุนเอสเอ็มอีกับสตาร์ทอัพให้เพิ่มตัวเลขการส่งออกในตลาดสำคัญสำคัญต่างๆทั่วโลกได้มากขึ้นกับสามให้ทูตพาณิชย์ไปศึกษากฎเกณฑ์กติกาต่างๆของประเทศสำคัญสำคัญที่ช่วยให้การส่งออกของไทย สามารถได้รับสิทธิพิเศษหรืออัตราภาษีต่ำตามกฎเกณฑ์ที่มีอยู่แล้วเพื่อให้ส่งออกไปในราคาที่แข่งขันกับคู่แข่งได้

“ธนกร”ป้อง”บิ๊กตู่” ยัน”ชิม ช้อป ใช้”ช่วยพยุงเศรษฐกิจ

People Unity : “ธนกร”ป้อง”บิ๊กตู่” ยัน”ชิม ช้อป ใช้”ช่วยพยุงเศรษฐกิจ จวก”พิชัย”ดีแต่พูด ประชาชนจำไม่ได้ด้วยซำ้เคยสร้างผลงานอะไรเอาไว้ ชูใช้เงินกระเป๋า 2 ถึง 5 หมื่น รับแคชแบ็กกลับถึง 8,500 บาท

วันที่ 25 ต.ค.2562 นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่นายพิชัย นริพทะพันธ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่าโครงการชิม ช้อป ใช้ เฟส2 ไม่ได้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อ้างว่าอาบน้ำร้อนมาก่อน แต่คิดได้แค่แจกเงินว่า ต้องทำความเข้าใจกับนายพิชัยก่อนว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลออกมามีหลายมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ เป็นมาตรการหนึ่งเท่านั้น เป็นการทำงานเชิงรุกของภาครัฐที่ประเมินสถานการณ์และเตรียมการรับมือเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง จึงมีการวางแผนและออกแบบมาตรการพยุงเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและทันท่วงที โดยกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศผ่านการให้แรงจูงใจ ดึงผู้มีกำลังซื้อออกมาใช้จ่ายในพื้นที่ต่างๆ เกิดความคึกคักในการจับจ่าย กระจายเม็ดเงินไปยังเศรษฐกิจฐานราก และการจ้างงานต่อเนื่อง ไม่เพียงใช้แล้วหมดไป ซึ่งการใช้จ่ายงบประมาณในการสร้างแรงจูงใจจะคุ้มค่าเพราะก่อให้เกิด Multiplier Effect จากการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของเศรษฐกิจไทยโดยในช่วงที่ผ่านมา

นายธนกร กล่าวอีกว่า นายพิชัยเป็นอดีตรัฐมนตรีที่ไม่เคยมีผลงานอะไรเลย เมื่อเทียบกับพล.อ.ประยุทธ์แล้วประชาชนนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่านายพิชัยเป็นใคร แต่ประชาชนทั่วประเทศรับรู้ได้ถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของพล.อ.ประยุทธ์ในการทำงานให้กับบ้านเมือง ที่ผ่านมามีผลงานมากมาย แต่นายพิชัยทำได้เพียงรับใช้นายทุนเท่านั้น อย่างอื่นตนนึกไม่ออกเลย อย่างไรก็ตาม มาตรการชิม ช้อป ใช้ เฟส2ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนจำนวนมาก ซึ่งในส่วนกระเป๋า2นั้น หากใช้ 30,000 บาทจะได้แคชแบ็กถึง 15 เปอร์เซนต์ แต่หากใช้300,00บาทขึ้นไป จะได้แคชแบ็กถึง 20 เปอร์เซนต์ พูดง่ายๆ คือ หากใช้ถึง 50,000 บาทจะได้เงินแคชแบ็กคืนมาถึง 8,500 บาท ทั้งนี้ สามารถใช้ได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์ทวิตเตอร์ Pichai Naripthaphan/พิชัย นริพทะพันธุ์ ระบุว่า การแจกเงินชิมช้อปใช้ ซึ่งประชาชนนำไปใช้แล้วก็หมดไป ไม่ได้สร้างความยั่งยืนทางการพัฒนา หรือ ความยั่งยืนทางรายได้ และที่สำคัญไม่ได้แก้ปัญหาการว่างงานที่จะเกิดขึ้นรวมกว่า 5 แสนคนในปีหน้าได้ นักศึกษาที่จบใหม่จะตกงานกันอย่างมาก ทั้งนี้มาจากการลงทุนที่หดหายมากว่า 5 ปี

สธ.เดินหน้าจัดตั้ง”สถาบันกัญชาทางการแพทย์”ทำหน้าที่วิจัย

People Unity : สธ.เดินหน้าจัดตั้ง “สถาบันกัญชาทางการแพทย์” ทำหน้าที่สนับสนุน ส่งเสริม วิจัย พัฒนา การใช้กัญชาทางการแพทย์ในโรงพยาบาล

วันที่ 28 ต.ค.2562 ที่สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ธเนศ ดุสิตสุนทรกุล ว่าที่ผู้อำนวยการสถาบันกัญชาทางการแพทย์ ได้เปิดเผยว่า หลังจากสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดระดมความคิดวางแผนจัดตั้ง “สถาบันกัญชาทางการแพทย์” ขึ้น เพื่อความยั่งยืนกัญชาทางการแพทย์ไว้ในกระทรวงสาธารณสุข การจัดตั้ง สถาบันกัญชาทางการแพทย์ ทำหน้าที่สนับสนุน ส่งเสริม วิจัย พัฒนา การใช้กัญชาทางการแพทย์ในโรงพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงการใช้กัญชามากขึ้น เพราะปัจจุบันกัญชาได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมากและสนใจปลูก แต่ไม่เข้าใจข้อกฎหมาย รวมไปถึงการขออนุญาติในการปลูก

ที่สำคัญที่สุดยังมีประชาชนไม่เข้าใจข้อกฏหมายพากันปลูกและถูกเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปจับกุม ประชาชนบางส่วนบางกลุ่มที่ยังไม่ขึ้นมามาบนดินยังแอบปลูกกัญชา ปัญหาเหล่านี้สำนักปลัดกระทรวงเป็นห่วงพี่น้องประชาชน โดยนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีคำสั่งถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ทำงานเร่งด่วนเพราะท่านห่วงพี่น้องประชาชนได้ใช้กัญชาอย่างถูกต้อง

วันนี้จึงได้มีการประชุมครั้งแรก เพื่อตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนให้พี่น้องประชาชนเข้าใจเรื่องของกัญชา มีองค์ความรู้เรื่องกัญชา ที่มีหลายหน่วยงานเข้ามาเป็นกรรมการและองค์กรภาคเอกชนมาระดมความคิด เพื่อก่อตั้งสถาบันกัญชาทางการแพทย์ โดยมีนายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ดร.ภก.อนันต์ชัย อัศวเมฆิน คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลและเป็น ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย ม.รังสิต นายสุกษม อามระดิษ เลขานุการสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย และตัวแทนจากสภาเกษตรกรแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม ซึ่งการระดมคนทำงานเพื่อให้เกิดสถาบันกัญชาทางการแพทย์ ทางคณะทำงานต้องการให้ประสบผลสำเร็จอย่างรวดเร็ว เพราะพี่น้องประชาชนรอเรื่องนี้อยู่

“ชวน”ชี้คุณสมบัติ “ธนาธร” เป็นสิทธิ์ 64 กมธ.งบฯ63ยื่น

People Unity : “ชวน”ชี้คุณสมบัติ “ธนาธร” เป็นสิทธิ์ 64 กมธ.งบฯ63ยื่น พร้อมชงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้ขาด ชี้สามารถสงวนคำแปรญัติติในวาระ 2-3ได้ “ช่อ”ปลื้มจากนี้ได้เห็น”ธนาธร”ในสภาฯเข้มข้นขึ้น

วันที่ 25 ต.ค.2562 นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ให้วินิจฉัยคุณสมบัติของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งถูกศาลสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว สามารถนั่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ได้หรือไม่ ว่า นายสุชาติสามารถทำหนังสือมายังตนได้ แต่กรณีดังกล่าวตนมองว่าฝ่ายที่ดูจะมีปัญหา คือ กมธ.ฯ งบประมาณ ทั้ง 64 คน หากพบว่าคุณสมบัติของนายธนาธรขัดต่อการดำรงตำแหน่งต้องยื่นมายังตนเพื่อพิจารณาตามกระบวนการคือส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวินิจฉัย

“กรณีการตั้งกมธ.ผมไม่ใช่ผู้แต่งตั้ง ประธานสภาฯ จึงไม่มีอำนาจวินิจฉัย รวมถึงการลาออกจากส.ส. ของคุณธนาธร เพื่อคงโควต้ากมธ.บุคคลภายนอก ซึ่งกมธ.งบประมาณจะต้องเป็นคนร้องหรือทำเรื่องเข้ามา”นายชวน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าบทบาทของนายธนาธรต่อกมธ.งบประมาณ จะแปรญัตติ และใช้สิทธิอภิปรายวาระ 2-3 ในการประชุมสภาฯ ได้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ปรากฎบทบาทของนายธนาธร ว่าจะดำเนินการอย่างไรบ้าง ดังนั้นหากคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญระบุให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ส.ส. นายธนาธรจึงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ได้ยกเว้นแต่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ดังนั้นการสงวนความเห็นและอภิปรายทำได้ฐานะกมธ.ฯเท่านั้น

“ช่อ”ปลื้มจากนี้ได้เห็น”ธนาธร”ในสภาฯเข้มข้นขึ้น

น.ส.พรรณิการ์ วาณิชโฆษกพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ทวิตเตอร์ @Pannika_FEP ระบุว่า “ชัดเจนนะคะ จากนี้ไปได้เห็นบทบาทธนาธรในสภาเข้มข้นต่อเนื่องแน่นอนในฐานะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณฯ ภาษีประชาชนทุกบาทจะต้องถูกจัดสรรเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนเต็มเม็ดเต็มหน่วยที่สุด อนาคตใหม่”

สยบข่าวลือ! “ทิม พิธา”ร่วมหาเสียงเลือกซ่อมนครปฐม

People Unity : สยบข่าวลือ! “ทิม พิธา” ร่วมทีม”ส.ส.อนาคตใหม่” หาเสียงเลือกตั้งซ่อม “นครปฐม” – ถ่ายรูปชื่นมื่น

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 20 ตุลาคม 2562 ที่เวทีปราศรัยเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครปฐมเขต 5 ของพรรคอนาคตใหม่ ที่ตลาดธันยา อ.สามพราน จ.นครปฐม ปรากฏว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แกนนำของพรรค ซึ่งมีกรณีข่าวลือจากสำนักข่าวบางสำนักระบุเริ่มมีบรรดา ส.ส.และผู้สมัครพรรคอนาคคตใหม่บางกลุ่ม แยกตัวออกไปก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ ได้ร่วมปราศรัยใหญ่ช่วยหาเสียงให้กับนายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร ผู้สมัครของพรรคด้วย

ระหว่างที่นายพิธานั่งรอการปราศรัยอยู่ด้านหลังเวที บรรดาเพื่อน ส.ส.ของพรรคต่างเข้ามาแซว หยอกล้ออย่างสนุกสนาน พร้อมกันนี้ได้ถ่ายรูปร่วมกันสยบข่าวลือ และยืนยันว่าไม่มีการแยกตัวออกไปตั้งพรรคการเมืองใหม่อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ในวันเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ทั้งหมด รวมถึงนายพิธาจะไปร่วมสังเกตุการณ์การเลือกตั้งในทุกหน่วยเลือกตั้งของ เขต 5 จ.นครปฐม ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศเวทีปราศรัยของพรรคอนาคตใหม่เป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนมาร่วมฟังเป็นจำนวนมาก ขณะที่ ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ต่างขึ้นเวทีร่วมแสดงพลัง และปราศรัยเรียกคะแนนให้กับนายไพรัฏฐโชติก์ รวมถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค และน.ส.พรรณิการ์ วาณิช ซึ่งร่วมปรายศรัยในครั้งนี้ด้วย

“อนุทิน”ชี้มติแบน 3 สารพิษได้เห็นขรก.-นักวิชาการมีคุณธรรม

People Unity : “อนุทิน”ชี้มติแบน 3 สารพิษเป็นผลงานทุกคน ได้เห็นข้าราชการ นักวิชาการที่มีคุณธรรมทำเพื่อสุภาพ-ชีวิต ของปชช.

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 ตุลาคม 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติแบนสารพิษ 3 ตัวว่า สิ่งที่ดีใจคือ เรายังเห็นว่า ประเทศไทยเรายังมีข้าราชการ นักวิชาการที่มีคุณธรรม มีสำนึกต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้างราชที่ลงมติแบนสารพิษทั้ง 3 ชนิด จากทุกกรม ทุกกระทรวง อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง

แต่เป็นภารกิจของรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงสาธารณสุขซึ่งต้องมีความรับผิดชอบต่อสุขภาพ และคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งเรื่องแบนสารพิษนี้ไม่ได้อยู่ในนโยบายตอนหาเสียงด้วยซ้ำ แต่เป็นภารกิจที่ต้องทำ และภาคภูมิใจที่อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และเลขาธิการอย. พร้อใจกันโหวตอย่างเปิดเผย นำนโยบายของกระทรวงไปทำให้บรรลุความสำเร็จ ทั้งนี้ เป็นไปตามขั้นตอน ใครทำอะไรได้ก็ทำ เรามีหน้าที่แบน เราก็แบนอย่างสุดหัวใจ ใครจะค้านก็ไปค้าน ผลจะเป็นอย่างไรเราได้ทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่แล้ว เรื่องนี้เป็นความเป็นความตายของพี่น้องประชาชน เป็นเรื่องสุขภาพ ชีวิต ใครไม่เคยโดนก็ไม่รู้หรอก อย่างไรก็ตาม ครม.ไม่ได้มีการพูดคุยกัน เพราะตนเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่ละกระทรวงจะต้องไปหามาตรการเยียวยา

เมื่อถามถึงแนวทางในการคุ้มครอง เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแบนสารพิษครั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า จขะอนุญาตให้ใช้สารพิษที่มีมติแบนไปนี้ถึงวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ส่วนเรื่องเยียวยา เช่น การหาสารทดแทน เป็นเรื่องของกระทรวงไหนมีหน้าที่อย่างไร ทั้งนี้ วันนี้ถือเป็นผลงานร่วมกันของทุกคน แต่สำหรับตนไม่ได้ถือเป็นผลงาน แต่ถือเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่อยู่ในคณะกรรมการ วันนี้ดี เปิดเผยกันมแล้ว ก็ขอให้ทุกคนเคารพกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่เฟซบุ๊ค “Anutin Charnvirakul” ของนายอนุทิน ขึ้นภาพขณะนำผู้บริหารในกระทรวงสาธรณสุขออกกำลังกาย พร้อมข้อความว่า
เชียร์ลีดเดอร์ของกระทรวงสาธารณสุข

มติที่ประชุม มีผู้เข้าประชุม 26 ท่าน
1. พาราควอท
-แบน 21 จำกัดการใช้ 5
2. ครอร์ไพริฟอส
-แบน 22 จำกัดการใช้ 4
3.ไกลโฟเซต
-แบน 19 จำกัดการใช้ 7

ขอกราบขอบพระคุณและน้อมคารวะต่อคณะกรรมการวัตถุอันตรายเฉพาะผู้ที่ลงมติแบนการใช้สารพิษด้วยจิตสำนึกที่รักและห่วงใยในคุณภาพชีวิตและสุขภาพของพี่น้องประชาชน ประวัติศาสตร์จะจารึกวีรกรรมที่ท่านทำเพื่อแผ่นดินเกิดในวันนี้เยี่ยงวีรบุรุษของชาติ ขอแสดงความยินดีกับคนไทยทุกคนที่ประเทศของเรายังมีข้าราชการและนักวิชาการที่เปี่ยมล้นไปด้วยคุณธรรมและจริยธรรมหลงเหลืออยู่ในบ้านของเรา
โดยมีคอมเม้นท์ให้กำลังใจเป้นจำนวนมาก อาทิ

“ความเห็นต่างไม่เปนไร ไม่ว่ากันครับ…แต่ก็ถือว่าที่ประชุมเสียงข้างมากลงมติแบน…ก็ต้องขอบคุณท่านอนุทิน ชาญวีรกูล และชาวคณะทุกท่าน และท่านมนัญญา ไทยเศรษฐ์ และท่านเฉลิมชัย ศรีอ่อน ด้วยครับ”

“ข้่าราชการทุกคน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของรัฐบาลชุดนี้ และเป็นการทำงานร่วมกันของทุกพรรคร่วมรัฐบาลจริงๆครับ”

“สมเจตนาประสงค์เป็นคุณูประการกับประชาชนชาวไทยและประเทศชาติ ขอขอบคุณอย่างสูงต่อทุกท่านทื่ได้ผลักดันเรื่องนื้ให้เกิดเป็นความสำเร็จตามเป็าหมายชัดเจนถึงโทษภัยร้ายแรงของสารเคมีดังกล่าวครับ”

Verified by ExactMetrics