วันที่ 25 เมษายน 2024

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯขอบคุณกก.วัตถุอันตราย”แบน 3 สารพิษ”

People Unity : องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขอบคุณคณะกรรมการวัตถุอันตรายและรัฐมนตรีทั้ง 3 กระทรวง ที่มีมติแบน 3 สารพิษ ชื่นชมการปฎิบัติหน้าที่โดยมิเพิกเฉยต่อสุขภาพ ชีวิต หวังเห็นความร่วมมือจัดการปัญหาการใช้สารพิษในการเกษตรอย่างเหมาะสม และ ยั่งยืน อย่างแท้จริง

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2562 องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ACT ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 3 เรื่องขอขอบคุณคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่มีมติยกเลิกการใช้พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตเพื่อคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และคนไทยทุกคน โดยในแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีการประชุมและได้ลงมติอย่างเปิดเผยให้มีการยกเลิกการใช้ 3 สารเคมีอันตราย พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตนั้น องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ขอขอบคุณแทนคนไทยทั้งประเทศที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างดำรงไว้ซึ่งจริยธรรมและมนุษยธรรม มิเพิกเฉยต่อสุขภาพ ชีวิต ทั้งในส่วนของเกษตรกรผู้รับผลกระทบโดยตรงและผู้บริโภคผู้ได้รับผลกระทบในภายหลัง และที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง คือ การดำเนินการให้มีการลงมติอย่างเปิดเผย ตามที่องค์กรฯ และหลายภาคส่วนเรียกร้อง ช่วยสร้างความมั่นใจในเรื่องความโปร่งใสในการพิจารณา

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขอขอบคุณไปยังท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (คุณอนุทิน ชาญวีรกูล) รวมทั้งรัฐมนตรี (คุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน) และรัฐมนตรีช่วย (คุณมนัญญา ไทยเศรษฐ์) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) ซึ่งได้แสดงจุดยืนชัดเจน ให้ยกเลิกการใช้ 3 สารเคมีดังกล่าว และร่วมรณรงค์ผลักดันจนทำให้มีการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย จนนำมาซึ่งการลงมติดังกล่าวในที่สุด

“องค์กรฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การมีมติยกเลิกการใช้ 3 สารเคมีในครั้งนี้ จะนำมาซึ่งความร่วมมือกันในการจัดการปัญหาการใช้สารพิษในการเกษตรอย่างเหมาะสม ยั่งยืน และเป็นจุดเริ่มต้นแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดต่อทั้งชีวิตของ’เกษตรกรผู้ใช้ ระบบนิเวศทางธรรมชาติและชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง โดยทางองค์กรฯและเครือข่าย พร้อมจะทำหน้าที่ในการสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนของสังคมได้ปฎิบัติงานอย่างซื่อตรงต่อหน้าที่และความรับผิดชอบ เพื่อยังประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชนคนไทยในทุกระดับ”

แพทย์เตือนนอนกรนเสียงดังเป็นประจำเสี่ยงหยุดหายใจขณะหลับ

People Unity : กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคทรวงอก เตือนนอนกรนเสียงดังเป็นประจำ ง่วงนอนมากผิดปกติ ในเวลากลางวัน หงุดหงิดง่าย อย่าละเลยอาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับโดยไม่รู้ตัว

วันที่ 24 ตุลาคม 2562 นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea, OSA) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเนื่องจากการยุบตัวของทางเดินหายใจส่วนต้น ทำให้ขณะหลับร่างกายจะเกิดภาวะขาดออกซิเจนเป็นช่วงๆ การนอนหลับจะขาดตอน ส่งผลต่อการทำงานของสมอง ทำให้เกิดอาการง่วงนอนมากผิดปกติในเวลากลางวัน เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุขณะขับรถ และเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคอ้วนลงพุง ภาวะนี้สามารถพบได้ในคนทุกวัย โดยผู้ใหญ่จะพบว่าเกิดกับเพศชายมากกว่าเพศหญิง คนในวัยทองและคนอ้วน และอาจพบในเด็กที่มีต่อมทอนซิลและอดีนอยด์โต มีปัญหาโครงสร้างใบหน้า หรือเด็กที่อ้วน

นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สัญญาณเตือนที่เสี่ยงอาจทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น คือ การนอนกรนเสียงดังเป็นประจำ ญาติสามารถสังเกตได้ ในขณะนอนหลับอาจหยุดหายใจหรืออาจหายใจแรง เสียงดังเป็นพักๆ สลับนิ่งเงียบ หายใจเฮือกเหมือนสำลักน้ำลาย บางครั้งตื่นมารู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก ง่วงนอนมากผิดปกติในเวลากลางวัน ไม่มีสมาธิในการทำงาน ขี้ลืม หงุดหงิดง่าย วิตกจริตหรือซึมเศร้า สำหรับการรักษาภาวะดังกล่าวขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของโรค โดยแบ่งเป็น

1.การรักษาด้วยเครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (CPAP) เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง ถือเป็นมาตรฐานในการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น 2.การใส่ทันตอุปกรณ์ โดยทันตแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาให้เหมาะสมในแต่ละรายซึ่งจะได้ผลดีในผู้ป่วยที่มีระดับความรุนแรงของโรคเล็กน้อยถึง ปานกลาง 3.การผ่าตัด ในกรณีผู้ป่วยที่มีความรุนแรงของโรคระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ร่วมกับมีโครงสร้างทางเดินหายใจส่วนต้นผิดปกติ

ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น สามารถปฏิบัติตนโดยการคุมอาหารและลดน้ำหนักในรายที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ หลีกเลี่ยงการนอนหงาย พยายามนอนตะแคง ไม่ควรรับประทานยานอนหลับเพราะยาจะกดการหายใจ ทำให้ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นเป็นมากขึ้น ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 4 ชั่วโมงก่อนนอนเพราะแอลกอฮอล์จะทำให้รูปแบบการนอนหลับไม่ต่อเนื่อง และไม่ควรขับรถขณะง่วงนอน เนื่องจากอาจหลับในสามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ทั้งนี้หากพบว่ามีสัญญาณเตือนว่าคุณอาจมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น ควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ เพื่อเข้ารับการตรวจการนอนหลับวินิจฉัยและหาแนวทางการรักษาต่อไป

“ไพศาล”ตบะแตก! ฉะ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลอภิปรายส่งเดช แหกตาปชช.

People Unity : “ไพศาล”ตบะแตก! ฉะ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลอภิปรายส่งเดช แหกตาปชช. ยันกู้เงินชดเชย 5 แสนล้านไม่เกี่ยวขาดทุนจากการรับจำนำข้าว

วันที่ 19 ตุลาคม 2562 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี โพาค์เฟซบุ๊ก ระบุว่า น่ารำคาญการอภิปรายส่งเดช

อภิปรายไปได้อย่างไร ว่าที่ต้องกู้เงินชดเชยงบประมาณเกือบ 5 แสนล้าน เพราะขาดทุนจากการรับจำนำข้าว!
มันไม่ได้เกี่ยวกันเลย
เหตุที่ ต้องกู้เงินชดเชยงบประมาณเกือบ 500,000 ล้าน เพราะตั้งงบประมาณรายจ่ายไว้ 3.2 ล้านบาท แต่หารายได้ ทุกประเภทรวมกันไม่พอ
ยังขาดอีกเกือบ 5 แสนล้าน จึงต้องกู้ยืมเงิน มาชดเชยงบประมาณ
เรื่องมันก็เท่านี้
อภิปรายส่งเดชแหกตาประชาชนแบบนี้
แย่มากๆๆ

คลัง”ชิมช้อปใช้”สัญจรโคราช! เข้าครม. 22 ต.ค.ต่อยอดเฟส2

People Unity : คลังเตรียมต่อยอดชิมช้อปใช้เฟส 2 หลังคลังเตรียมเสนอ ครม. 22 ต.ค. หวังสำรวจยอดการจับจ่ายใช้สอยผ่านร้านค้ารายย่อยในโคราช พร้อมกระตุ้นนักท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยผ่านกระเป๋า 2

วันที่ 19 ต.ค.2562 นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฎิบัติงานกระทรวงการคลัง) เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ได้เดินทางลงพื้นที่ที่ตลาดนัดเซฟวัน จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นตลาดนัดกลางคืนใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อสำรวจยอดการจับจ่ายใช้สอยของผู้ได้รับสิทธิ์โครงการชิมช้อปใช้ผ่านร้านค้ารายย่อยในจังหวัดนครราชสีมา พร้อมทั้งรณรงค์ให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ออกมาจับจ่ายใช้สอย โดยเฉพาะกระเป๋า 2 เพราะสามารถได้รับเงินคืนสูงถึง 15%

พร้อมกันนี้ ยังได้กำชับให้ผู้ประกอบการทุกรายห้ามละเมิดกฎอย่างเด็ดขาด มิฉะนั้นจะถูกปิดแอ๊พถุงเงินทันที และจะถูกขึ้นบัญชีดำ ห้ามเข้าร่วมโครงการต่างๆของรัฐบาลในอนาคต ทั้งนี้เนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนเข้ามาว่า ยังมีผู้ประกอบการบางรายที่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งของกระทรวงการคลัง ด้วยการเปิดรับแลกสิทธิ์ 1,000 บาท เป็นเงินสดหรือแลกสิทธิ์ข้ามจังหวัด เป็นต้น

สำหรับความคืบหน้าของเฟส 2 นั้น กระทรวงการคลังเตรียมนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 22 ต.ค. หวังดึงประชาชนร่วมโครงการจาก 10 ล้านคน ประมาณ 2-5 ล้านคน การเพิ่มจำนวนร้านค้าด้วยการดึงเครือข่ายลูกค้าของธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่มีศักยภาพเข้ามาร่วมอีกราว 1 แสนร้านค้า หลังจากเฟสแรก มีร้านค้าใหม่มาร่วมโครงการเกือบแสนราย รวมทั้งต้องปรับเวลาการลงทะเบียนเป็นกลางวัน และหวังขยายระยะเวลาสิ้นสุดโครงการออกไปเป็นวันที่ 31 ธันวาคม 62 เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว เมื่อ ครม.พิจารณาเห็นชอบแล้ว จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน สิ่งจูงใจในการร่วมลงทะเบียนโครงการชิมช้อปใช้เฟส 2 กระซิบบอกได้เลยว่าน่าสนใจไม่แพ้ชิมช้อปใช้เฟสแรกอย่างแน่นอน

สรุปยอดการใช้จ่ายจนถึงวันที่ 18 ต.ค. 62 มียอดการใช้จ่ายทั้งสิ้น 8,676.8 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดจากกระเป๋า 1 จำนวน 8,537.2 ล้านบาท จากกระเป๋า 2 จำนวน 139.6 ล้านบาท แบ่งเป็นร้านชิม จำนวน 1,241.0 ล้านบาท ร้านช้อป จำนวน 4,847.1 ล้านบาท ร้านใช้ จำนวน 116.4 ล้านบาท และร้านค้าทั่วไป 2,472.3 ล้านบาท

“สุริยะ”ยันสั่ง 3 ตัวแทนอุตสาหกรรม ลงมติแบน 3 สารพิษ

People Unity : “สุริยะ”ยันสั่ง 3 ตัวแทนกระทรวงอุตสาหกรรมในคณะกรรมการวัตถุอันตราย แบน 3 สารพิษ ตามความเห็นกระทรวงเกษตรฯ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 ต.ค. 2562 ตามเวลาท้องถิ่นที่เมืองกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงกรณี “แบน 3 สารพิษ” ว่า ในการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย วันนี้ ได้สั่งการให้กรรมการ 3 คน ที่เป็นตัวแทนกระทรวงอุตสาหกรรม โหวตตามความเห็นของกรรมการ 5 คน ที่เป็นตัวแทนจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในเรื่องของการแบนหรือไม่แบนการใช้สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด ได้แก่ คลอร์ไพริฟอส พาราควอต ไกลโฟเซต เพราะตั้งแต่มีกฎกระทรวงอุตสาหกรรม เมื่อปี 2555 ที่ออกตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535กระทรวงอุตสาหกรรมได้แบ่งงานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไว้ชัดเจน ว่า ถ้าเป็นสารเคมีที่เกี่ยวกับการเกษตรก็ให้กระทรวงเกษตรฯ ดูแล ถ้าเป็นสารเคมีด้านอุตสาหกรรมก็ให้กระทรวงอุตสาหกรรมดูแล ฉะนั้น เรื่องตอนนี้เป็นสารเคมีทางการเกษตร ทางกระทรวงอุตสาหกรรมก็จะเชื่อตามกระทรวงเกษตรฯ ในฐานะที่เชี่ยวชาญด้านนี้ โดยให้ 3 คนของกระทรวงอุตสาหกรรมแบนตามอธิบดีกรมวิชาการเกษตร

“อุ๋ม” ร่วมฉลองวันเกิด “แอฟ ทักษอร” มอบทุนเด็กเยาวชนเขตบางซื่อ-ดุสิต

People Unity : “อุ๋ม ธณิกานต์” ร่วมฉลองวันเกิด “แอฟ ทักษอร” มอบทุนการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนในเขตบางซื่อ-ดุสิต

วันที่ 28 ต.ค.2562 น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรเขตบางซื่อ-ดุสิต  พรรคหลังประชารัฐ และ” แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” ดารานักแสดงชื่อดัง ร่วมเป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษา จำนวน 23 ทุน พร้อม อุปกรณ์การเรียน และอุปกรณ์กีฬา แก่นักเรียนเรียนดี ประพฤติดี และยากไร้ คัดเลือกโดยฝ่ายการศึกษา สำนักงานเขตบางซื่อ และเครือข่ายประธานชุมชน มีเด็กและเยาวชนเข้าร่วมทั้งหมด 92 คน

น.ส.ธณิกานต์ กล่าวว่า งานในวันนี้เกิดขึ้นจาก คุณแอฟ ทักษอร ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท มีความตั้งใจที่จะทำบุญฉลองวันเกิด ร่วมสร้างสังคมแบ่งปัน ประสงค์จะมอบทุนการศึกษาและอุปกรณ์การเรียนแก่เด็กและเยาวชน เพราะเราเห็นตรงกันในเรื่องความสำคัญของการศึกษา อันเป็นรากฐานของการพัฒนาสังคมและประเทศอย่างยั่งยืน สามารถนำสู่การประกอบอาชีพ ที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ เพื่อดูและตัวเองและคนรอบข้างได้ ดังนั้นจึงอยากเป็นอีกแรงในการสนับสนุน โดยมอบทุนทรัพย์ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษา พัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กๆและเยาวชนให้ดีขึ้น ยกระดับคุณภาพสังคมและประเทศชาติต่อไป

โดยวันนี้ได้ทีมงานผู้ช่วย ส.ส. พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางซื่อ และคณะครู ในฐานะเจ้าบ้านและเจ้าของพื้นที่ ร่วมนำกิจกรรมสร้างความสุขให้กับน้องๆนักเรียน บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยรอบยิ้มและความสนุกสนาน

สำหรับท่านใดที่สนใจอยากร่วมสนับสนุน โครงการ “สังคมแบ่งปัน” ช่วยเหลือแบ่งปันทุนทรัพย์หรือองค์ความรู้แก่เด็กและสตรี หรือพร้อมสนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์ด้านอื่นๆ #เขตบางซื่อดุสิต ยินดีต้อนรับทุกท่าน สามารถติดต่อส.ส.อุ๋มและทีมงาน ได้ที่ Line @oumthanikan (มี @ ข้างหน้าด้วยค่ะ) หรือ โทร. 065-694-2245

จ้องแต่เล่นเกมการเมือง! “ธนาธร”เป็น กมธ.งบฯ พปชร.เล็งยื่นศาลรธน.

People Unity : “สิระ”เตรียมยื่นศาล รธน.ตีความคุณสมบัติ”ธนาธร” ร่วมเป็น กมธ.วิสามัญได้หรือไม่ ซัด “อนาคตใหม่” จ้องแต่เล่นเกมการเมือง

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22ต.ค.2562 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่พรรคอนาคตใหม่เสนอชื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมเป็นหนึ่งใน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ในสัดส่วนของพรรคอนาคตใหม่ว่า พรรคอนาคตใหม่กำลังทำมาตรา 129 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ระบุว่า สภาฯ มีอํานาจเลือกบุคคลผู้เป็น ส.ส.หรือมิได้เป็น ส.ส.ตั้งเป็น กมธ.วิสามัญเพื่อกระทํากิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใดๆ และรายงานให้สภาฯทราบตามระยะเวลาที่กําหนด ดังนั้นการเสนอชื่อ นายธนาธร ซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.เป็นการชั่วคราว ในระหว่างรอคำวินิจฉัยสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.ของ นายธนาธร ในกรณีเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการสื่อมวลชน เข้ามาเป็น กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 นั้นกระทำไม่ได้

“นายธนาธรถ้าเข้ามาในฐานะ ส.ส.และตอนนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงทำหน้าที่ ส.ส.ไม่ได้ ส่วนจะใช้สิทธิ์คนนอกก็มีคำถามว่านายธนาธรเป็นคนนอกหรือไม่ เพราะยังมีสมาชิกภาพ ส.ส.อยู่” นายสิระ กล่าว

นายสิระ กล่าวต่อว่า ในวันพฤหัสบดีนี้ช่วงเช้าตนจะไปยื่นคำร้องเพื่อให้กรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ตรวจสอบ และในช่วยบ่ายจะไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ตีความคุณสมบัติของนายธนาธรที่จะร่วมเป็น กมธ.วิสามัญ ว่าสามารถทำได้หรือไม่ ทั้งนี้ตนฝากไปถึงนายธนาธร ว่าหากอยากเป็น กมธ.วิสามัญให้ลาออกจาก ส.ส. เพื่อใช้สถานะคนนอก ตนจะไม่ยื่นตีความดังกล่าว

“ไม่เข้าใจว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่มีความรู้ด้านกฎหมายหรือเป็นเพราะว่าทั้งพรรคไม่มีผู้ที่เหมาะสมจะทำหน้าที่นี้ จึงต้องเลือกนายธนาธรเข้ามา และไม่มั่นใจว่าเหตุที่เสนอชื่อนายธนาธร เพราะต้องการเข้ามาทำเพื่อประเทศชาติ หรือหวังผลตีรวนทางการเมืองกันแน่ หากเป็นข้อหลัง ตนคิดว่าไม่สมควร เพราะการพิจารณางบประมาณในครั้งนี้เป็นการทำเพื่อนผลประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน” นายสิระ กล่าว

“วราวุธ”ยันช้างป่าล้ม 11 ตัวไม่ใช่ 13 วอนโซเชียลหยุดแชร์ข้อมูลเท็จ

People Unity : “วราวุธ”ยันช้างป่าล้ม 11 ตัวไม่ใช่ 13 วอนโซเชียลหยุดแชร์ข้อมูลเท็จ จะยิ่งเหมือนซ้ำเติมและบั่นทอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2562 ที่รัฐสภา นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวถึงกรณีที่มีการเสนอข้อมูลผ่านโซเชียลระบุพบซากช้างป่าตกเหวนรกที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เพิ่มอีก 2 ซาก รวมเป็นช้างป่าล้ม 13 ตัวนั้น ขอชี้แจงว่า ข้อมูลนั้นไม่เป็นความจริง ยืนยันว่ามีช้างล้มจากกรณีดังกล่าว 11 ตัว ตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว

“การโพสต์หรือแชร์ข้อมูลข่าวช้างป่าตกเหว หากเป็นข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงจะยิ่งเหมือนซ้ำเติมและบั่นทอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่กำลังทำงานอยู่ในพื้นที่ขณะนี้ เรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และช้างที่ตายมีเพียง 11 ตัวเท่านั้น ดังนั้น ผมขอร้องผู้ที่คิดจะโพสต์หรือแชร์ข่าวนี้ กรุณาใช้วิจารณญาณให้มากๆ และตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องด้วย อย่าใจร้อน” นายวราวุธ กล่าวและว่า

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กำลังเร่งทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย จึงขอวอนให้ทุกคนช่วยให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการทุกคน

“พิชัย”เย้ย”บิ๊กตู่”อาบน้ำร้อนมาก่อน คิดได้แค่แจกเงิน”ชิมช้อปใช้”

People Unity : “พิชัย”เย้ย”บิ๊กตู่”อาบน้ำร้อนมาก่อนแต่คิดได้แค่แจกเงิน”ชิมช้อปใช้” ที่ไม่แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ห่วง คนอารมณ์หงุดหงิดกันมาก อาจทำตามผู้นำ แนะ “บิ๊กแดง” แปลงงบทหารช่วยเหลือประชาชน

วันที่ 24 ต.ค.2562 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวว่า ตามที่ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลนำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออก ชิมช้อปใช้ รอบ 2 แจกเงิน 1,000 บาทเพิ่มให้อีก 3 ล้านคน และการรับเงินชดเชยคืน 15-20% หลังเที่ยวแล้ว โดยโปรโมทเหมือนกับว่านี่เป็นนโยบายหลักทางเศรษฐกิจของรัฐบาล ทำให้สงสัยว่าที่พลเอกประยุทธ์กล่าวในสภาผู้แทนราษฏร อ้างว่ารู้มากกว่าเพราะอาบน้ำร้อนมาก่อน แต่กลับคิดแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ทรุดหนักได้เพียงเท่านี้เองหรือ

ทั้งนี้ ได้พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนแล้วว่า การเกิดก่อนและอาบน้ำร้อนมาก่อน ไม่ได้หมายความว่าจะพัฒนาให้มีความคิดที่ดีกว่าได้ ทั้งนี้เพราะการแจกเงินชิมช้อปใช้ ซึ่งประชาชนนำไปใช้แล้วก็หมดไป ไม่ได้สร้างความยั่งยืนทางการพัฒนา หรือ ความยั่งยืนทางรายได้ และที่สำคัญไม่ได้แก้ปัญหาการว่างงานที่จะเกิดขึ้นรวมแล้วกว่า 5 แสนคนในปีหน้าได้ นักศึกษาที่จบใหม่จะตกงานกันอย่างมาก ทั้งนี้มาจากการลงทุนที่หดหายมากว่า 5 ปี หลายบริษัทใหญ่เช่น ไทยซัมมิท ยังต้องประกาศหยุดการผลิต 2 เดือน เพราะคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามาลดลงจากผลพวงของเศรษฐกิจโลก

โดยสื่อหลักทางเศรษฐกิจของต่างประเทศหลายสำนักเชื่อกันว่าอีก 12-18 เดือน เศรษฐกิจโลกจะยิ่งตกต่ำหนัก และอาจถึงขั้นเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ แต่รัฐบาลกลับคิดแจกเงินให้คนใช้และเที่ยวอย่างเดียว ซึ่งไม่ได้มีการเตรียมการเพื่อรองรับเศรษฐกิจโลกที่กำลังจะย่ำแย่เลย และเมื่อเศรษฐกิจไทยย่ำแย่ รัฐบาลก็จะโทษไปที่เศรษฐกิจโลก ซึ่งต่างกับรัฐบาลเวียดนามที่ปรับตัวเตรียมการ และได้ประโยชน์จากสงครามการค้าอย่างมาก และยังสามารถพัฒนาอันดับความสามารถแข่งขันของประเทศได้อย่างก้าวกระโดด

รัฐบาลอาจจะคิดว่าการแจกเงินอาจจะช่วยไม่ให้กระแสความนิยมของรัฐบาลที่ตกต่ำอยู่แล้วไม่ให้ตกต่ำลงไปอีก แต่รัฐบาลอาจจะลืมไปว่าเมื่อเศรษฐกิจโลกตกต่ำจริงแต่รัฐบาลแจกเงินแบบอีลุ่ยฉุยแฉกไปแล้ว จะไม่มีกระสุนเหลือให้ใช้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่จะย่ำแย่ลงไปอีกได้ อีกทั้งการรับเงินคืนหลังเที่ยว 15 -20% ก็จะไม่ต่างอะไรกับช้อปช่วยชาติและหักภาษีคืนในอดีตที่ไม่เคยเกิดผลดีต่อเศรษฐกิจเลย และรัฐก็เสียรายได้ไปเปล่าๆ แถมหลายครอบครัวอาจจะต้องกู้เงินไปเที่ยวเพียงเพื่อหวังเงินชดเชย ซึ่งจะยิ่งทำให้หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นไปอีก ดังนั้น จึงอยากให้รัฐบาลได้คิดนโยบายเพื่อรองรับเศรษฐกิจโลกที่กำลังจะตกต่ำในอนาคตได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่คิดแต่แจกเงินเพื่อเอาใจประชาชนแบบเล่นขายขนมเหมือนในปัจจุบัน รัฐบาลที่ดีต้องรู้จักคาดการณ์และเตรียมการรองรับภาวะเศรษฐกิจล่วงหน้า ซึ่งตลอด 5 ปีนี้รัฐบาลไม่ได้ทำเลย

นอกจากนี้ยังเป็นห่วงประชาชนที่เริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าว อวดเบ่ง หงุดหงิด ฉุนเฉียวเพิ่มขึ้นกันมากแบบผิดปกติ ซึ่งนอกจากเกิดจากปัญหาทางเศรษฐกิจแล้ว หลายคนยังสงสัยว่าอาจจะเกิดมาจากการเลียนแบบผู้นำที่มีพฤติกรรมฉุนเฉียวเช่นนั้นเหมือนกันก็เป็นได้

อย่างไรก็ดี ยินดีเป็นอย่างยิ่งและขอชมที่ พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้เดินทางไปเข้าพบคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎรด้วยตัวเอง และ ถ้าหากสามารถแก้ปัญหาเรื่องที่ กอ. รมน. ฟ้อง 12 คนของฝ่ายค้านในเวทีภาคใต้ได้ ก็จะยิ่งทำให้บรรยากาศระหว่างทหารและนักการเมืองดีขึ้นมาก นอกจากนี้หาก พลเอกอภิรัชต์ จะสามารถแปลงงบประมาณหรือเจียดงบประมาณบางส่วนของกองทัพ เพื่อมาช่วยเหลือประชาชนทางเศรษฐกิจ เช่น การพัฒนาระบบชลประทาน การขุดบ่อเก็บน้ำ ฯลฯ ก็จะยิ่งแสดงถึงความห่วงใยของทหารที่มีต่อประชาชนในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ และจะเป็นแบบอย่างให้รัฐบาลได้คิดและปฏิบัติตาม

โดยอยากบอกให้รัฐบาลได้รับรู้ว่า ความมั่นคงของประเทศที่แท้จริงคือความมั่นคงของปากท้องของประชาชน หากเศรษฐกิจย่ำแย่ ปากท้องของประชาชนมีปัญหา ไม่ว่าประเทศไหนก็ไม่มั่นคง แม้กระทั่งประเทศสหภาพโซเวียดในอดีต ที่มีกองทัพและยุทโธปกรณ์ที่เข้มแข็งมากก็ยังต้องแตกสลายกลายเป็นหลายประเทศก็เพราะพิษเศรษฐกิจ และปัญหาปากท้องของประชาชน ซึ่งทำให้ระบอบคอมมิวนิสต์ต้องพังสลายตามไปด้วยในที่สุด

“อธิบดี พช.”ร่วมเปิดตัวหนังสือ”เจิมใจเมืองฯ” ของ”เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์”

People Unity : “อธิบดี พช.”ร่วมเปิดตัวชุดหนังสือของขวัญ”เจิมใจเมืองฯ” ของ “เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์” ศิลปินแห่งชาติ รวมบทกวีเรื่องราวทุกจังหวัดทั่วเมืองไทย รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายสนับสนุนสร้างแหล่งเรียนรู้ “พิพิธภัณฑ์:บ้านไร่ใกล้ตลาด@งิ้วราย นครชัยศรี”

วันที่ 26 ต.ค.2562 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ร่วมเสวนาและเปิดตัวหนังสือกวีนิพนธ์เล่มใหม่ พร้อมเสื้อที่ระลึก ของ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ซึ่งจัดเป็นชุดหนังสือของขวัญ “เจิมใจเมือง สืบเนื่องบ้านพิพิธภัณฑ์” พร้อมด้วย เอนก นาวิกมูล ผู้ก่อตั้งบ้านพิพิธภัณฑ์ ร่วมเสวนาและแสดงความยินดี โดยมีสื่อมวลชน และเหล่านักอ่านร่วมงานอย่างอบอุ่น ณ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จามจุรีสแควร์ กรุงเทพฯ

นายสุทธิพงษ์ ซึ่งได้ร่วมสนับสนุนการสร้างแหล่งเรียนรู้ “บ้านพิพิธภัณฑ์-บ้านไร่ใกล้ตลาดที่งิ้วราย” มาตั้งแต่ต้น กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่มาร่วมสนับสนุนการส่งเสริมแหล่งเรียนรู้ชุมชนอีกครั้ง อีกทั้งการจัดพิมพ์กวีนิพนธ์ “เจิมใจเมือง” ของศิลปินแห่งชาตินั้น มีความงดงามของเนื้อหาที่ บอกเล่าภูมิสังคมวัฒนธรรมและวิถีชีวิต อัตลักษณ์ที่โดดเด่นของชุมชน ช่วยประชาสัมพันธ์เสน่ห์ของชุมชนหมู่บ้าน ทั่วเมืองไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ส่งเสริมการท่องเที่ยวและสนับสนุนสินค้า OTOP ของชุมชนที่จะนำรายได้ไปสู่พี่น้องประชาชน อีกทั้งยังเป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้แก่เจ้าของพื้นที่แต่ละท้องถิ่นอีกด้วย

นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ เจ้าของผลงานกวีนิพนธ์เล่มล่าสุด “เจิมใจเมือง” เปิดเผยว่า ในการจัดพิมพ์กวีนิพนธ์ “เจิมใจเมือง” ครั้งแรกนี้ นับเป็นกรณีพิเศษ จะจัดทำตามจำนวนที่สั่งจองเท่านั้น โดยจัดเป็นชุดหนังสือของขวัญ “เจิมใจเมือง สืบเนื่องบ้านพิพิธภัณฑ์” ประกอบไปด้วยหนังสือ 1 เล่ม ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องราวอัตลักษณ์ท้องถิ่น 76 จังหวัด และกรุงเทพฯ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิสังคมวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต อาหารการกิน สัมมาชีพ แหล่งท่องเที่ยวชุมชน รวมทั้งสินค้า OTOP ที่มาจากชุมชนหมู่บ้านทั่วเมืองไทย ภายในหนังสือเป็นบทกวีลายมือทั้งเล่ม และภายในชุดหนังสือของขวัญนี้ ยังมีเสื้อที่ระลึก “เจิมใจเมือง” สกรีนบทกวีของแต่ละจังหวัด รวม 77 แบบ ให้ผู้สั่งจองสามารถเลือกได้ชุดละ 1 แบบ (จังหวัด) และนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายสนับสนุนการสร้างแหล่งเรียนรู้ “บ้านพิพิธภัณฑ์-บ้านไร่ใกล้ตลาดที่งิ้วราย” ซึ่งดำเนินการโดยสมาคมกิจวัฒนธรรม และเอนก นาวิกมูล ผู้ก่อตั้งบ้านพิพิธภัณฑ์

ผู้สนใจเป็นเจ้าของชุดหนังสือของขวัญ “เจิมใจเมือง สืบเนื่องบ้านพิพิธภัณฑ์” ราคาชุดละ 400 บาท สามารถสั่งจองและรับได้ที่ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทุกสาขา หรือสั่งจองผ่าน Line : @onart หรือ Facebook : On Art | ออน อาร์ต ได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2562 โดยชุดหนังสือของขวัญฯ จะจัดส่งทางไปรษณีย์ EMS ประมาณ 10-15 วันหลังยืนยัน และสำหรับผู้ที่ต้องการสั่งจองตั้งแต่ 10 ชุดขึ้นไป กรุณาติดต่อ 063 223 2291 ทั้งนี้รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปสนับสนุนการสร้างแหล่งเรียนรู้ “บ้านพิพิธภัณฑ์-บ้านไร่ใกล้ตลาดที่งิ้วราย” ต่อไป

 

Verified by ExactMetrics