วันที่ 24 เมษายน 2024

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแถลงโครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชนปี 62

People Unity : สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จัดแถลงข่าวโครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน ปี 2562

เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2562 ณ ศาลาสายลมจอย ตลาดคลองลัดมะยม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร นายธนวรรธน์ พลวิชัย ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงโครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน ปี 2562 ว่า วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ สร้างงานสร้างอาชีพให้กับสมาชิกในชุมชนที่มีสมาชิกหลากหลายทั้งผู้พิการ ผู้สูงอายุ เด็กและเยาวชน โดยสำนักงานสลากฯทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม ด้วยการนำความรู้ด้านการตลาด และวิชาการต่างๆที่เหมาะสมกับแต่ละชุมชน

สำหรับการดำเนินการนั้น ได้มีการเปิดรับสมัครชุมชนที่มีเอกลักษณ์ของภูมิปัญญาท้องถิ่น มีศักยภาพการบริหารจัดการชุมชน การผลิตสินค้าและบริการของชุมชน และมีสภาพแวดล้อม วิถีชีวิตที่เอื้อต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ชุมชนใกล้เคียงสำนักงานฯ (สนามบินน้ำ) ชุมชนใกล้เคียงสำนักงาน (สำนักการพิมพ์ เอกมัย) และชุมชนในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งมีชุมชนที่สนใจส่งใบสมัครเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 31 ชุมชน ได้ทำการคัดเลือกชุมชนที่มีความพร้อมในการเข้าร่วมโครงการ 7 ชุมชน ได้แก่

⁃ ชุมชนใกล้เคียงสำนักงานฯ (สนามบินน้ำ) ได้แก่ ชุมชนคนบางกรวย (ปลายบาง) จังหวัดนนทบุรี

⁃ ชุมชนใกล้เคียงสำนักงาน (สำนักการพิมพ์ เอกมัย) ได้แก่ ชุมชนชุมกลุ่มคลองพระโขนง กรุงเทพมหานคร

⁃ ชุมชนตลาดบางหลวง ร.ศ. 122 จังหวัดนครปฐม

⁃ ชุมชนย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร

⁃ ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ตลาดริมน้ำเมืองแพรก จังหวัดชัยนาท

⁃ ชุมชนพิกุลทองสามัคคี จังหวัดสิงห์บุรี

⁃ ชุมชนพุน้ำร้อน จังหวัดสุพรรณบุรี

หลังจากนี้ จะส่งทีมผู้เชี่ยวชาญลงไปในพื้นที่เพื่อวิเคราะห์จัดทำแผนการพัฒนาชุมชน ทั้ง 7 ชุมชน และดำเนินการตามแผนที่วางไว้ โดยจะจัดทำโลโก้รวมถึงสโลแกนของชุมชน จัดทำป้ายบอกทาง จัดทำป้ายบอกเส้นทางท่องเที่ยวในชุมชน จัดทำแผ่นผับประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวชุมชน ฝึกการประชาสัมพันธ์ข่าวสารของชุมชนผ่านสื่อออนไลน์ อาทิ FACEBOOK และพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ของสินค้าชุมชน รวมถึงการพัฒนาทักษะคนในชุมชนให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นได้ด้วยตนเอง พร้อมทั้ง  นำเรื่องราวการพัฒนาชุมชนของทั้ง 7 ชุมชน มาผลิตเป็นรายการโทรทัศน์ชื่อ “รายการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน” และเผยแพร่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องอมรินทร์ทีวี ช่อง 34 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 14.00 -14.30 น เริ่มออกอากาศตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2562 นี้ และสามารถติดตามความคืบหน้าในการดำเนินโครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน ได้ที่ facebook สลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน

โฆษกคณะกรรมการสลากฯ กล่าวในตอนท้ายว่า โครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อสังคมนี้ จะสามารถเติมเต็มความรู้ด้านวิชาการระหว่างหน่วยงานของรัฐและชุมชนซึ่งมีทรัพยากร และความมุ่งมั่น ตลอดจนสร้างการรับรู้ในศักยภาพของแต่ละชุมชน และต่อยอดให้ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ซึ่งจะส่งผลให้สมาชิกมีการงานอาชีพ มีรายได้ มีความสุข จากความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ของชุมชน สามารถแก้ไขปัญหาสังคม ไม่ว่าจะเป็นปัญหายาเสพติดหรือการเล่นพนันออนไลน์ในเด็กและเยาวชน รวมถึงการพนันอื่นๆ  ซึ่งสำนักงานสลากฯ มีความแน่วแน่ในการไม่สนับสนุนให้เล่นการพนันทุกประเภทอยู่แล้ว

สังคม : สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแถลงโครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชนปี 62

People unity : post 9 กรกฎาคม 2562 เวลา 21.00 น.

รัฐบาลเดินหน้าพัฒนาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้เชื่อมโยงกับบัตรโดยสารสาธารณะ

People unity news online : “ประยุทธ์” สั่งการเดินหน้าปรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้เชื่อมโยงกับบัตรโดยสารสาธารณะ พร้อมสั่งให้กระทรวงดิจิทัลฯเร่งให้ทุกหน่วยงานบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลกันเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเรื่องความก้าวหน้าด้านดิจิทัลบัตรสวัสดิการแห่งรัฐว่า การดำเนินการดังกล่าวมีความคืบหน้าในหลายเรื่อง เช่น ที่ผ่านมาได้มีการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐซื้อของผ่านร้านค้าธงฟ้า แต่ปัจจุบันได้มีการปรับให้สามารถซื้อสินค้าที่อื่นได้ด้วย ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางการเงินในเศรษฐกิจโดยรวม รวมทั้งปัจจุบันได้นำไปเชื่อมโยงกับบัตรโดยสารสาธารณะซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทุกอย่างที่รัฐบาลเร่งดำเนินการเพื่ออนาคตข้างหน้าของประเทศ

รวมถึงการพัฒนาการใช้ดิจิทัลทดแทนเอกสารในการติดต่อระบบราชการ โดยใช้เลขบัตรประชาชน 13 หลัก ในการทำธุรกรรมด้านต่างๆ ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกำลังเร่งดำเนินการอยู่ในขณะนี้ พร้อมทั้งได้ให้ทุกหน่วยงานบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกันให้ได้ ซึ่งขณะนี้ พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ และพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ ได้ประกาศและมีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการขอใบอนุญาตต่างๆได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

People unity news online : post 8 ตุลาคม 2561 เวลา 11.30 น.

พ.ร.บ.สถาบันพระบรมราชชนกคลอด สธ.พร้อมผลิตพยาบาล-บุคลากรด้านสุขภาพเอง

People Unity : สถาบันพระบรมราชชนก พร้อมเป็นสถาบันอุดมศึกษาเฉพาะทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านการพยาบาล สาธารณสุข และสหเวชศาสตร์ให้มีคุณภาพและเพียงพอต่อความต้องการของประเทศ

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมสภาสถาบันพระบรมราชชนก ว่า  ขณะนี้ พระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ.2562 ได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2562 โดยได้กำหนดให้จัดตั้งสถาบันพระบรมราชชนก เป็นสถาบันอุดมศึกษาเฉพาะทางในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข มีสถานะเป็นสถานศึกษาของรัฐ เป็นนิติบุคคล จัดการการศึกษาระดับปริญญา สามารถประสาทปริญญาบัตรได้เอง พัฒนาระบบบริหารและการจัดการ และวิชาการที่มีความคล่องตัว โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสภาสถานศึกษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภารกิจหลักเพื่อผลิตกำลังคนด้านสาธารณสุขให้มีความสอดคล้องกับแผนของกระทรวงฯ และภาพรวมของประเทศ ดำเนินการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ รวมถึงมาตรฐานการศึกษาและวิชาการ การจัดการ และฝึกอบรมบุคลากรด้านสุขภาพ การพยาบาล สาธารณสุข และสหเวชศาสตร์ให้มีคุณภาพและเพียงพอต่อความต้องการของประเทศ

ทั้งนี้ เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างต่อเนื่องไม่ให้กระทบต่อการเรียนการสอนและบุคคลกรในระยะสั้น ได้มีการวางแผนให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นสำนักงานอธิการบดีก่อน ส่วนระยะกลางคือหาพื้นที่เพื่อจัดสร้างสำนักงานอธิการบดีและศูนย์การศึกษาครบวงจร และระยะยาวพัฒนาระบบการเรียนการสอนให้ครบทุกมิติตามรูปแบบมหาวิทยาลัย ซึ่งปัจจุบันการดำเนินงานอยู่ระหว่างจัดตั้งคณะกรรมการด้านต่างๆ เช่น คณะกรรมการบริหารงานบุคคล คณะกรรมการสภาวิชาการ คณะกรรมการถ่ายโอนกิจการและทรัพย์สิน คณะกรรมการบริหารการเงินและพัสดุ คณะกรรมการกลั่นกรองร่างกฎหมาย เป็นต้น

ทั้งนี้ สถาบันพระบรมราชชนกมีวิทยาลัยในสังกัดกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศจำนวน 39 แห่ง สามารถผลิตบุคลากรด้านสุขภาพแบ่งเป็น ด้านการพยาบาล 2 หลักสูตร คือ พยาบาลศาสตร์บัณฑิต จำนวน 4,000 คนต่อปี และผู้ช่วยพยาบาล จำนวน 1,800 คนต่อปี ด้านสหเวชศาสตร์ จำนวน 8 หลักสูตร เป็นระดับปริญญาตรี จำนวน 970 คนต่อปี และประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง 730 คนต่อปี นอกจากนี้ ยังมีการจัดการพัฒนาบุคลากรด้านการบริการสุขภาพ จำนวน 45 หลักสูตร ผู้เข้ารับการพัฒนา 52,000 คนต่อปี ที่ผ่านมาสถาบันพระบรมราชชนกผลิตบัณฑิตไปแล้วกว่า 220,000 คน

สังคม : พ.ร.บ.สถาบันพระบรมราชชนกคลอด สธ.พร้อมผลิตพยาบาล-บุคลากรด้านสุขภาพเอง

People Unity : post 12 พฤษภาคม 2562 เวลา 08.30 น.

นายกฯขอบคุณประชาชนที่ช่วยแจ้งเบาะแสโรงงานแอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์

People unity news online : นายกรัฐมนตรียืนยันตรวจสอบโรงงานแอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างต่อเนื่อง พร้อมขอบคุณประชาชนที่ช่วยแจ้งเบาะแส

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2561 เวลา 14.40 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงปัญหาการลักลอบนำเข้าเศษซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือขยะอิเล็กทรอนิกส์ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าว ปัจจุบันจากการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานที่นำเข้าเศษซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือขยะอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 7 โรงงาน แต่มีโรงงานเล็กๆที่ไม่ได้รับการอนุญาต ลักลอบนำขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาในประเทศไทย ทำให้เกิดปัญหาสร้างมลภาวะทีเป็นพิษ ซึ่งได้ระงับไปแล้วจำนวน 5 โรงงาน

ส่วนการนำเข้าขยะพลาสติกนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ประเทศไทยมีโรงงานนำเข้าที่ถูกต้องตามกฎหมายจำนวน 26 โรงงาน และได้มีการตรวจสอบไปแล้วจำนวน 17 โรงงาน ส่วนที่เหลืออีก 9 โรงงาน คาดว่าภายในวันศุกร์นี้จะสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้อย่างครบถ้วน จากการตรวจสอบพบว่าโรงงานเหล่านี้ได้รับอนุญาตให้นำเข้าขยะพลาสติก สามารรถรวบรวมขยะพลาสติกได้ทั้งในและนอกประเทศ แต่มีการแอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นการทำผิดกฎหมาย โดยรัฐบาลจะได้ตรวจสอบต่อไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันข้างหน้าประเทศไทยจะพัฒนาสู่ประเทศที่มีเทคโนโลยี จะต้องประสบปัญหาขยะในเรื่องดังกล่าวมากขึ้น จำเป็นจะต้องกำจัดขยะไปด้วย ทั้งนี้ ต้องขอบคุณประชาชนที่ช่วยแจ้งเบาะแสขึ้นมา พร้อมกล่าวยืนยันว่า อะไรก็ตามที่ประชาชนร้องเรียน และได้รับความเดือดร้อน รัฐบาลจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ทำถูกต้องตามกฎหมาย

People unity news online : post 6 มิถุนายน 2561 เวลา 13.20 น.

นายกฯขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯสนับสนุนการทวงคืนโบราณวัตถุกลับสู่ไทยสำเร็จ

People unity news online : นายกฯชื่นชมทุกฝ่ายติดตามโบราณวัตถุกลับสู่ไทยสำเร็จ พร้อมขอบคุณการสนับสนุนของรัฐบาลสหรัฐฯ แนะบันทึกประวัติศาสตร์-เผยแพร่ความรู้แก่สาธารณชน

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2561 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมการทำงานของกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยที่ได้ร่วมกันติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย โดยล่าสุดสหรัฐฯได้ส่งคืนโบราณวัตถุยุคก่อนประวัติศาสตร์ 12 ชิ้น จากแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง จ.อุดรธานี ให้แก่รัฐบาลไทย ซึ่งก่อนหน้านี้อยู่ในความครอบครองของสตรีอเมริกันรายหนึ่ง

นายกรัฐมนตรียังขอบคุณไปยังรัฐบาลสหรัฐฯที่เข้าใจและให้ความร่วมมือ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งโบราณวัตถุกลับมายังประเทศไทย รวมถึงเอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีบทบาทสนับสนุนให้การดำเนินการสำเร็จลงด้วยดี

“นายกฯเน้นย้ำว่า การส่งคืนโบราณวัตถุครั้งนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์สำคัญที่ควรบันทึกไว้ และเผยแพร่องค์ความรู้แก่ประชาชนโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนให้ได้รับทราบถึงความเป็นมาและขั้นตอนการดำเนินงานต่างๆ รวมทั้งควรนำโบราณวัตถุเหล่านี้ไปจัดแสดง เพื่อให้คนไทยได้เห็นถึงคุณค่าและภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมอันมีค่าของประเทศไทย”

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีฝากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่กำลังเตรียมงานหรือดำเนินการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศชิ้นอื่นๆอยู่ในขณะนี้ เช่น ทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว พระโพธิสัตว์ไมเตรยะสำริด พระพุทธรูปยืนปางแสดงธรรมสำริด เศียรพระพุทธรูปหินทราย นาคปักหินทราย แผ่นทองคำดุนลวดลาย เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดถูกจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของสหรัฐฯ โดยขอให้ภารกิจที่ทุกคนทุ่มเทอย่างเต็มที่ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้โดยเร็ว

People unity news online : post 6 สิงหาคม 2561 เวลา 08.50 น.

หวยรูปแบบใหม่! บอร์ดกองสลากเห็นชอบ “สลากรูปภาพ 12 นักษัตร” ระบุเล่นเพื่อเพลิดเพลิน

People Unity : บอร์ดกองสลาก มีมติเห็นชอบกับรูปแบบสลากรูปภาพ 12 นักษัตร หรือ picture 12 ตามที่คณะทำงานเสนอ

วันนี้ (31 กรกฎาคม 2562) เวลาประมาณ 15.00 น. ที่ห้องประชุมอเนกประสงค์ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายพชร อนันตศิลป์ ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วยนายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลในฐานะประธานคณะทำงานศึกษาผลิตภัณฑ์และเกมสลากรูปแบบอื่นๆ และพันตำรวจเอกบุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า จากการที่คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลได้มีมติแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาผลิตภัณฑ์และเกมสลากรูปแบบอื่นๆ โดยให้มีหน้าที่สรุปผลการศึกษาผลิตภัณฑ์ใหม่ตามพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2562 จัดทำแผนปฏิบัติ(Action Plan) แนวทางการสื่อสาร และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยให้นำเสนอภายใน 30 วัน แล้วนำเสนอคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลพิจารณานั้น

คณะทำงานได้รวบรวมข้อมูลสลากกินแบ่งและรูปแบบเกมสลากจากประเทศต่างๆที่มีอยู่ในปัจจุบัน มีอยู่ 5 รูปแบบ ได้แก่ (1) สลากแบบดั้งเดิม หรือสลากใบ (2) สลากแบบตัวเลข (3) สลากขูด (4) สลาก LOTTO และ (5) สลากกีฬา มาศึกษาและวิเคราะห์ โดยหลักการคือต้องเป็นไปตาม พระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2562 และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักคือ เป็นทางเลือกเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ต้องการเสี่ยงโชคถูกกฎหมายนอกเหนือจากการซื้อสลากกินแบ่ง ในขณะเดียวกันต้องสามารถบรรเทาปัญหาสลากเกินราคา และมีผลข้างเคียงในการสกัดการเล่นหวยใต้ดิน

คณะทำงานฯ ได้ศึกษาและวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์รูปแบบต่างๆ พบว่า รูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่มีความเหมาะสม มี 2 ประเภท คือสลากแบบตัวเลข และสลาก Lotto ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นเกมต่างๆ ดังนี้

(1) สลากตัวเลข 3 หลัก (Number3)

(2) สลากตัวเลข 4 หลัก (Number4)

(3) สลากรูปภาพ 12 นักษัตร (Picture12)

(4) สลาก LOTTO 6/43

ผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 แบบ มีราคาจำหน่ายรายการละ 50 บาท เป็นการออกรางวัลใหม่ ไม่อิงผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นการจำหน่ายผ่านออนไลน์หรือแอพพลิเคชั่น หรือระบบใดๆที่สามารถลงทะเบียนแสดงตัวตนของผู้ซื้อได้เท่านั้น ในขณะเดียวกันก็มีวิธีการเล่น และข้อดี-ข้อด้อยต่างกันออกไป โดยสลากตัวเลข 3 หลัก (Number3) ซื้อ 1 รายการมีโอกาสถูกรางวัล 2 แบบ คือ 3 ตัวตรง และ 3 ตัวสลับหลัก ในส่วนของสลากตัวเลข 4 หลัก (Number4) มีโอกาสถูกรางวัลเช่นเดียวกับสลากตัวเลข 3 หลัก ข้อดีของสลากแบบตัวเลข 3 หลัก หรือแบบตัวเลข 4 หลัก คือ สามารถเลือกหมายเลข หรือเลือกภาพตามความต้องการได้ ตอบโจทย์ปัญหาของสลากใบ ในขณะที่มีข้อด้อยคือ เป็นที่รู้จักแพร่หลาย เรียนรู้ง่าย คนไทยคุ้นเคย อาจสุ่มเสี่ยงให้ถูกมองว่าเป็นการมอมเมาได้ สำหรับสลากแบบรูปภาพ 12 นักษัตร (Picture12) มี 4 หลัก วิธีเล่นให้เลือก 1 ภาพต่อ 1 หลัก จาก 12 ภาพนักษัตร มีรางวัลตรงและโต๊ด ข้อดีของสลากประเภทนี้คือ สามารถเลือกเลขได้ตามความต้องการ ไม่มีปัญหาเรื่องตัวเลขที่ไม่ได้รับความนิยม หรือเลขเน่า อีกทั้งเป็นเกมใหม่ ที่เน้นการเล่นเพื่อความเพลิดเพลิน ไม่อิงผลการออกรางวัลสลากแบบเดิม ในขณะที่ข้อด้อยคือไม่มีรางวัลแจ๊คพอต อาจไม่จูงใจให้มีผู้ซื้อมากพอ ในส่วนของเกมสลาก Lotto 6/43 ราคาจำหน่ายรายการละ 50 บาท เป็นการเลือกชุดตัวเลข 1 ชุด มี 6 ตัวเลือกจาก ตัวเลขทั้งหมด 43 ตัว ผู้ซื้อสามารถเลือกเลขได้ตามความต้องการเป็นเกมสากลที่มีจำหน่ายทั่วโลก แต่ก็ยังมีข้อด้อยคือเป็นเกมที่มีความซับซ้อน ไม่เคยมีมาก่อน แม้จะเป็นเกมที่มีความเป็นสากล และได้รับความนิยมในภูมิภาคต่างๆทั่วโลก

คณะทำงานฯ ได้มีความเห็นเสนอคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลว่ารูปแบบสลากรูปภาพ 12 นักษัตรหรือ picture 12 มีความเหมาะสมกับสภาพสังคมไทยและสอดคล้องกับพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สำหรับการออกรางวัลสลากรูปภาพนี้ จะออกรางวัลในวันที่ 1 และ 16 แต่เป็นการออกรางวัลต่างหาก ไม่ใช้ผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล และมีการจำกัดอายุและความสามารถในการซื้อของผู้ซื้อด้วยการคัดกรองผ่านระบบแอพลิเคชั่นที่จะนำมาใช้ในการจำหน่าย ทั้งนี้ จะคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นสำคัญ แต่ยังคงให้ความเป็นธรรมและเปิดโอกาสให้ผู้ค้ารายย่อยและผู้พิการเข้าถึงการจำหน่ายสลากในรูปแบบใหม่ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ควรนำประเภทและรูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่นำเสนอ หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในประเด็นเกี่ยวกับการดำเนินการทั้งหมด พร้อมทั้งจัดทำร่างประกาศ/ร่างกฎกระทรวง ให้มีความสอดคล้องและเป็นไปตามพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จากนั้น ให้รับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และศึกษาผลกระทบทางสังคม ตามมาตรา 13(7/1) เพื่อนำมาประกอบการพิจารณา ก่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการสลากฯพิจารณาอีกครั้ง หากได้รับความเห็นชอบ จะได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

จากการประชุมในวันนี้ คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล มีมติเห็นชอบกับรูปแบบสลากรูปภาพ 12 นักษัตรหรือ picture 12 ตามที่คณะทำงานเสนอ และเพื่อให้เกิดความรอบคอบและเป็นไปตามกฎหมายจึงให้สำนักงานฯหารือกฤษฎีกา พร้อมจัดทำร่างประกาศ/ร่างกฎกระทรวง แล้วนำเสนอคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลพิจารณา หลังจากนั้น ให้นำข้อมูลดังกล่าวไปดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและศึกษาผลกระทบทางสังคม เสนอคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ความเห็นชอบอีกครั้ง ก่อนจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป

สังคม : หวยรูปแบบใหม่! บอร์ดกองสลากเคาะเห็นชอบ “สลากรูปภาพ 12 นักษัตร” ระบุเน้นเล่นเพื่อเพลิดเพลิน

People Unity : post 31 กรกฎาคม 2562 เวลา 22.30 น.

สมเด็จพระสังฆราชตรัสรำลึกความสัมพันธ์ศาสนจักรโรมันคาทอลิกกับพุทธจักรไทย

People Unity News : สมเด็จพระสังฆราชตรัสรำลึกความสัมพันธ์ศาสนจักรโรมันคาทอลิกกับพุทธจักรไทย สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสเป็นดุจเสด็จมาเยือนของมิตรแท้อันเก่าแก่ของคนไทย

วันพฤหัสบดี ที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ เด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงรับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิก และนครรัฐวาติกัน ซึ่งเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการ

โอกาสนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช มีพระดำรัสรับเสด็จ ความว่า

“ขอถวายพระพร มหาบพิตรสมเด็จพระสันตะปาปา ผู้ทรงสมณคุณอันประเสริฐ

อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ไทย ขอถวายอนุโมทนาสาธุการ ในโอกาสที่มหาบพิตร เสด็จเยือนราชอาณาจักรไทย และเสด็จมาทรงเยี่ยมอาตมภาพในวาระนี้ นับเป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งพึงจดจารึกไว้เป็นศุภนิมิตแห่งน้ำใจไมตรีที่ศาสนจักรโรมันคาทอลิกกับพุทธจักรไทย มีสืบเนื่องกันมาอย่างแน่นแฟ้น ราบรื่น และงดงาม เป็นเวลาเนิ่นนานนับแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา

เมื่อ ๓๕ ปีล่วงมาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เฉพาะพระพักตร์พระพุทธอังคีรส ประธานพระอุโบสถแห่งนี้ สมเด็จพระอุปัชฌายะของอาตมภาพ คือสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ ได้เสด็จลงทรงรับสมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ ๒ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลก ที่ประมุขแห่งศาสนจักรโรมันคาทอลิก เสด็จมาทรงเยี่ยมประมุขแห่งพุทธจักรไทย ณ ราชอาณาจักรไทย ภาพเหตุการณ์ในวันนั้น ยังคงประทับอยู่ในความทรงจำของอาตมภาพ ผู้มีโอกาสได้เฝ้าอยู่ในการดังกล่าวด้วย ทั้งสองพระองค์ทรงปราศรัยกัน ทรงแสดงพระอัธยาศัยอันงามต่อกัน บนพื้นฐานแห่งพระเมตตาจิตอย่างแท้จริง ในฐานะนักบุญผู้ประเสริฐแห่งสองศาสนา ซึ่งมุ่งหมายจะแผ่ความปรารถนาดีอย่างจริงใจ ไปสู่ทุกชีวิตอย่างไม่มีประมาณ เป็นอุดมการณ์ร่วมกัน

ขอถวายพระพรให้ทรงทราบว่า ใต้ฐานพระพุทธอังคีรส ยังเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้เคยเสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้า สมเด็จพระสันตะปาปา เลโอที่ ๑๓ เมื่อพุทธศักราช ๒๔๔๐, เป็นที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระราชสรีรางคาร สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ผู้เคยเสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปา ปีโอที่ ๑๑ เมื่อพุทธศักราช ๒๔๗๗ อีกทั้งเป็นที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้เคยเสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์นที่ ๒๓ เมื่อพุทธศักราช ๒๕๐๓ และทรงเคยรับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ ๒ ซึ่งเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยเมื่อพุทธศักราช ๒๕๒๗

ณ สถานที่แห่งนี้ จึงเป็นมงคลสถานสำหรับการพบกันของเราทั้งสอง ด้วยส่วนแห่งพระวรกายของทุกๆ พระองค์ ยังคงประดิษฐานเป็นสักขีพยานแห่งมิตรภาพ ซึ่งได้ทรงสร้างสรรค์ไว้นับแต่อดีตสมัย หากแต่ละพระองค์มีพระญาณวิถีใดที่จะทรงหยั่งทราบ คงจะทรงโสมนัสพระราชหฤทัยไม่น้อย ที่ได้ทอดพระเนตรเห็นความเจริญงอกงามแห่งทางพระราชไมตรี เป็นภาพอันน่าประทับใจอีกครั้งในวันนี้

การเสด็จมาครั้งนี้ของมหาบพิตร จึงไม่ใช่การมาของมิตรใหม่ หากแต่เป็นการมาเยือนของมิตรแท้อันเก่าแก่ของคนไทย ระยะทางที่ห่างไกลกันหาใช่อุปสรรคของความสนิทสนมกลมเกลียวกัน

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสั่งสอนไว้ว่า ‘ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร ย่อมมีผู้บูชาในที่ทั้งปวง.’ ‘ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร ย่อมผ่านพ้นศัตรูทั้งปวง.’ บัดนี้ มหาบพิตร ทรงพระอุตสาหะตรากตรำพระวรกายบนหนทางแสนไกล เสด็จเยือนราชอาณาจักรไทย และมาทรงเยี่ยมอาตมภาพด้วยน้ำพระทัยอันเปี่ยมด้วยมิตรภาพถึงที่นี้ อาตมภาพขอสนองน้ำพระทัยอันเปี่ยมด้วยมิตรภาพนั้นๆ ตอบถวาย เป็นหลายเท่าทวีคูณ

ด้วยอานุภาพแห่งพระเมตตาธรรม ซึ่งมหาบพิตรทรงเจริญมั่นอยู่ในพระหฤทัย และด้วยศุภผลแห่งกุศลเหตุ คือความไม่ประทุษร้ายมิตร ขอมหาบพิตร ทรงสถิตสถาพร เป็นปูชนียฐานอันประเสริฐของศาสนิกบริษัท และทรงพระเจริญในสมณคุณ ค้ำจุนให้ทรงผ่องแผ้วผ่านพ้นภัยพิบัติทั้งปวง สมตามพระพุทธานุศาสนีดังอาตมภาพอัญเชิญมาอ้าง เป็นสัจจวาจาข้างต้นนี้ทุกประการ.

ขอถวายพระพร”

Cr.เพจสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช

14 พ.ย.! กรมควบคุมโรคฉีดวัคซีนป้องโรคหัด กลุ่มเด็กอายุ 1-12 ปี ฟรีที่ยังไม่เคยรับ

People Unity : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์โรคหัดในไทยดีขึ้น สามารถควบคุมได้ โดยมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดติดตามสถานการณ์โรคหัดทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และรัฐบาลได้สนับสนุนงบกลางเพื่อดำเนินการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดในกลุ่มเด็กอายุ 1-12 ปีทั่วประเทศ ฟรี ในกลุ่มที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน เริ่ม 14 พ.ย.นี้ แนะหากมีไข้สูง 3-4 วัน มีผื่นนูนแดงขึ้นที่ใบหน้าแล้วแพร่กระจายไปตามลำตัว แขน ขา ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว

วันที่ 25 ตุลาคม 2562 นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงนี้มีรายงานข่าวว่าพบผู้ป่วยโรคหัดเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ ซึ่งประเทศที่มีผู้ป่วยโรคหัดสูง ได้แก่ มาดากัสการ์ อินเดีย ยูเครน ฟิลิปปินส์ ไนจีเรีย คาซัคสถาน บราซิล แองโกลา และพม่า นอกจากนี้ในช่วงต้นปียังเคยมีการระบาดในบางเมืองของสหรัฐอเมริกาด้วย ส่วนประเทศไทย ตั้งแต่มีการให้วัคซีนหัด จำนวนผู้ป่วยโรคหัดลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ในปี 2558 พบผู้ป่วยจำนวนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ และในสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันหนาแน่น เช่น เรือนจำ โรงเรียน ค่ายทหาร ทั้งนี้ ประเทศไทยตั้งเป้าหมายลดจำนวนผู้ป่วยโรคหัดให้เหลือไม่เกิน 1 รายต่อประชากร 1 ล้านคน ภายในปี 2563 จึงได้มีการจัดทำโครงการกำจัดหัด เพื่อให้มีการค้นหาและรายงานผู้ป่วยไข้ออกผื่นหรือสงสัยหัดให้ครบถ้วน ตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งจากโครงการดังกล่าว ในปี 2562 พบผู้ป่วยไข้ออกผื่นหรือสงสัยหัด 7,470 ราย เสียชีวิต 21 ราย (1 มกราคม–18 ตุลาคม 2562) จังหวัดที่พบมาก ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี ตาก ภูเก็ต และชลบุรี

นอกจากนี้ กลุ่มอายุที่พบจะแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ส่วนใหญ่อายุน้อยกว่า 1 ปี ซึ่งสัมพันธ์กับความครอบคลุมของวัคซีนต่ำในพื้นที่ และผู้ป่วยในพื้นที่อื่นๆ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยแรงงาน อายุ 20–39 ปี โดยผู้ป่วยมักพบในสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันหนาแน่น ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และหน่วยงานสาธารณสุข ได้ร่วมกันดำเนินการเพื่อป้องกันควบคุมโรคหัดอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องในทุกพื้นที่ จนทำให้สถานการณ์โรคหัดในประเทศไทยดีขึ้นอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และได้มอบหมายให้กองระบาดวิทยา และกองโรคป้องกันด้วยวัคซีน ติดตามสถานการณ์โรคหัดทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด

นายแพทย์อัษฎางค์ กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยมีการให้วัคซีนป้องกันโรคหัดตามแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคตั้งแต่ปี 2527 แก่เด็กอายุ 9 เดือน ต่อมาในปี 2539 ได้เพิ่มการฉีดวัคซีนโรคหัดเข็มที่สอง ดังนั้น ในผู้ใหญ่ที่เกิดก่อนปีที่เริ่มให้วัคซีน อาจไม่มีภูมิคุ้มกันถ้าไม่เคยเป็น ประกอบกับมีแรงงานต่างชาติจากประเทศเพื่อนบ้านที่เข้ามาทำงาน ทั้งนี้ รัฐบาลได้สนับสนุนงบกลางเพื่อดำเนินการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดในกลุ่มเด็กอายุ 1-12 ปีทั่วประเทศ พ.ศ.2562-2563 ตามแผนเร่งรัดการกำจัดโรคหัดของประเทศไทย โดยไม่เสียค่าใช่จ่ายใดๆ เพื่อรณรงค์ให้วัคซีนเก็บตกในกลุ่มเด็กไทยและเด็กต่างชาติช่วงอายุดังกล่าว ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ทุกราย โดยเป็นการให้วัคซีนป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน (MMR) แก่เด็กอายุ 1-7 ปี และให้วัคซีนป้องกันโรคหัด-หัดเยอรมัน (MR) แก่เด็กอายุ 7-12 ปี จะเริ่มดำเนินการทั่วประเทศ ในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้

อาการที่พบบ่อยของโรคหัด คือไข้ออกผื่น โดยมักมีไข้สูง 3-4 วัน แล้วเริ่มมีผื่นนูนแดงขึ้นจากหลังหูแล้วลามไปยังใบหน้า กระจายไปตามลำตัว แขน ขา จากนั้นไข้จะลดลงและผื่นค่อยๆ จางหายไป ส่วนภาวะแทรกซ้อนที่พบได้คือ คออักเสบ หลอดลมอักเสบจนถึงปอดบวม หูชั้นกลางอักเสบ เยื่อบุตาอักเสบ ท้องเสีย และสมองอักเสบซึ่งเป็นภาวะที่รุนแรงที่สุด หากป่วยด้วยโรคหัดหรือสงสัยว่าเป็นโรคหัดควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว ทั้งนี้ โรคหัดสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน ซึ่งตามแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข จะฉีดวัคซีนรวมป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน (MMR) จำนวน 2 เข็ม เข็มแรกเมื่อเด็ก อายุ 9 เดือน และเข็มที่สองเมื่ออายุ 2 ปีครึ่ง หากพบว่าบุตรหลานยังรับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ ผู้ปกครองสามารถพาไปรับวัคซีนได้ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐทุกแห่ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

“นิติม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานี-กขป.เขต 11-ภาคีพลเมืองอาสา”บำบัดทุกข์ประชาชนไม่มีบัตรประจำตัว

People Unity : “นิติม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานี-กขป.เขต 11-ภาคีพลเมืองอาสา”บำบัดทุกข์ประชาชนไม่มีบัตรประจำตัว อำเภอพระแสง-บ้านตาขุน

วันที่ 18 ตุลาคม 2562 สืบเนื่องจาก ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ร่วมกับคณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน (กขป.) เขต 11 และภาคีพลเมืองอาสาในพื้นที่ ได้ร่วมกันช่วยเหลือผู้ยากลำบากในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น คณะนิติศาสตร์ได้มอบหมายให้ อาจารย์และเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เก็บข้อมูลพื้นฐานเบื้องต้น พบว่า มีผู้ยากลำบากจากเหตุที่ไม่มีบัตรประชาชน จำนวน 43 ราย และเพื่อให้บุคคลเหล่านี้ได้มีบัตรประจำตัวประชาชนได้เข้าถึงสิทธิของรัฐอย่างเท่าเทียม จึงต้องลงพื้นที่เพื่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องต่อไป

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมชาย บุญคงมาก ผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย คณะนิติศาสตร์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ภูภณัชรัตนชัย บรรณาธิการวารสารนิติศาสตร์และสังคมท้องถิ่นพร้อมด้วยนางสาวรุ่งฤทัย เต็มไป หัวหน้าสำนักงานกองบรรณาธิการ และว่าที่ร้อยตรีหญิง เจนจิรา แซ่เตี่ยว เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป ได้ลงพื้นที่พบ นายชัยพัทธ์ ช่วยชู ปลัดอำเภอพระแสง และนางวิภา พงศ์พิสุทธา ผู้ช่วยนายทะเบียนอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนจำนวน 4 ราย และ 1 รายในจำนวนดังกล่าวได้รับการช่วยเหลือ โดยการสืบค้นข้อมูลทะเบียนราษฎรและแก้ไขปัญหาเบื้องต้นจนแล้วเสร็จ เกิดความหวังที่จะได้รับบัตรประจำตัวประชาชนในโอกาสต่อไป สร้างความปิติยินดีแก่ชาวบ้านรายนี้และญาติ ๆ เป็นอย่างยิ่ง ส่วนที่เหลืออีก 3 รายก็จะทยอยให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ของฝ่ายนายทะเบียนอำเภอพระแสงต่อไป

ในวันเดียวกันนี้ คณะทำงาน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีได้เดินทางไปยัง ที่ว่าการอำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อพบ นางสาวศริญดา ปาลคะเชนทร์ ปลัดอำเภอชำนาญการพิเศษ และนายศรัญญู ยอดสุรางค์ ปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียนและบัตร ซึ่งในพื้นที่มีประชาชนที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 2 ราย เบื้องต้นทางอำเภอได้ประสานไปยังชาวบ้านทั้ง 2 ราย เพื่อขอข้อมูลและหลักฐานเกี่ยวกับการร้องขอเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎรไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ถัดจากนี้ก็จะเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มกำลังสามารถ ต่อไป

การลงพื้นที่ครั้งนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภูภณัชรัตนชัย กล่าวว่า การทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประชาชน แม้จะยากลำบากที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคสักแค่ไหน แต่ก็มีความสุข และขอขอบคุณปลัดอำเภอพระแสง และผู้ช่วยนายทะเบียนอำเภอพระแสง ที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างจริงจังและจริงใจ ขอขอบคุณปลัดอำเภอบ้านตาขุนทั้ง 2 ท่าน ที่ให้การแนะนำและให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้อย่างดียิ่ง

ฝ่ายผู้ช่วยศาสตราจารย์สมชาย บุญคงมาก ผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ได้กล่าวขอบคุณปลัดอำเภอพระแสงและปลัดอำเภอบ้านตาขุน ที่ปฏิบัติภารกิจให้ความช่วยเหลือและบริการประชาชนให้เกิดสิทธิตามที่รัฐได้มอบให้ เป็นการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข”แก่พี่น้องชาวบ้านอย่างแท้จริง

พบเด็กอัจฉริยะ! สนใจเรียนบาลีสันสกฤต วอนคณะสงฆ์วางแผนหนุนปั้นเป็นศาสนทายาท

People Unity News : พบเด็กอัจฉริยะ!สนใจเรียนบาลีสันสกฤต รุดพบอดีตนาคหลวงขอคัมภีร์ศึกษาด้วยตัวเองเตรียมสอบเข้าแพทย์ ​ อาจารย์ “มจร” วิทยาเขตบาลีพุทธโฆษเป็นปลื้มบุญของพ่อแม่ วอนคณะสงฆ์วางแผนหนุนปั้นเป็นศาสนทายาท

เมื่อวันที่ 16 พ.ย.2562 รศ.ดร.เวทย์ บรรณกรกุล อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) วิทยาเขตบาลีพุทธโฆษ อดีตสามเณรนาคหลวง ป.ธ.9 เปิดเผยว่า ได้รู้จัก นายภูวพัศ เทียมจรรยา เมื่อ 2 – 3 ปี ที่ผ่านมา โดยสมัครแข่งขันตอบปัญหาภาษาบาลี PAT7.6 ในนามโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ได้รับรางวัลชนะเลิศ 2 ปี ติดต่อกันโดยคิดว่า “เด็กเก่ง จะเรียน จะแข่งขันอะไร ก็ย่อมชนะเลิศ เป็นธรรมดา” แต่สำหรับนายภูวพัศปัจจุบันเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์นับได้ว่าไม่ธรรมดา หลังจากจัดงานแข่งขันตอบปัญหาภาษาบาลี ปีที่ 2 สิ้นสุดลงไม่นาน ตนได้รับการแอดเป็นเพื่อนทางเฟซบุ๊กและส่งคำทักทายมาทางช่อง Messenger Chats ไม่ใช่ใครอื่น เด็กชายอัจฉริยะภาษาบาลี ทุกคำถาม เป็นเรื่อง “ภาษาบาลีสันสกฤต” ล้วน ๆ เมื่อ 2-3 ปีนั่นเอง

โดยข้อความที่สื่อสารกันนั้นความว่า “ผมถาม ‘โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ เป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์ หนูไปเรียนบาลีสันสกฤตที่ไหน?’ คำตอบที่ได้ คือ ‘ผมอ่านเองครับ ศึกษาจากหนังสือตำราต่าง ๆ1 …… ไม่ธรรมดาจริง ๆ ครับ อ่านศึกษาบาลีสันสกฤตด้วยตนเอง แล้วมาแข่งขันตอบปัญหา ชนะเลิศ “PAT7.6 ภาษาบาลี’ เด็กคนนี้ มีบุญบารมีจริง ๆ

วันนี้ (16 พ.ย.) นายภูวพัศได้แวะมาที่บ้าน ขอหนังสือ”วุตโตทัยมัญชรี สุโพธาลังการมัญชรี และคัมภีร์สัททนีติ” โดยสั่งกำชับว่า “มีเวลาค่อยอ่านนะ ให้หนูเตรียมอ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัยก่อน” คำตอบที่ได้ยิ่งอัศจรรย์ “อาจารย์ไม่ต้องห่วงครับ มีหนังสือจากคณะแพทยศาสตร์ ระบุคุณสมบัติสามารถเข้าศึกษาและสามารถเป็นแพทย์ที่ดีในอนาคตได้ แต่ใจลึก ๆ ผมอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์”

นายภูวพัศได้เล่าว่า “……ซื้อหนังสือคัมภีร์บาลีสันสกฤตไว้หลายเล่ม อยากแปล อยากอ่าน เช่น สรัสวตีกัณฐาภรณ์ กาวยาทรรศะ กาวยประกาศ ตอนนี้เริ่มแปลคัมภีร์ปาณินิและกาตันตระบางส่วน บ้างแล้ว……” คิดในใจว่า” เป็นบุญของคุณพ่อคุณแม่ตระกูลเทียมจรรยา”

เข้าไปอ่านประวัติย่อ ๆ ของนายภูวพัศ เทียมจรรยา ต้องบอกว่า “นี่คือ อนาคตของชาติ” หากเรียนจบทำงานเป็นหลักฐานตามเจตนารมณ์บิดามารดา บวชทดแทนพระคุณศึกษาพระพุทธศาสนาจริงจัง “นี่คืออุบาสกแก้วกำลังพระศาสนาอย่างสิ้นสงสัย”

“ในบ้านเมืองเรา เด็กอัจฉริยะ มันสมองเป็นเลิศ มีจิตใจโน้มเอียงศึกษาเรื่องศาสนา มีอยู่มิใช่น้อยเลย (ที่คุยทักทายผมทาง Messenger อยู่ขณะนี้ มี 4-5 คน ภูวพัศ อยู่ใกล้สุด) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แม่กองบาลี แม่กองธรรม มหาวิทยาลัยสงฆ์ จะมองเห็นหรือ เรามีทรัพยากรบุคคลอัจฉริยะทางศาสนารอการฟูมฟักส่งเสริมอยู่” กล่าวและว่า

หลักสูตรการเรียนบาลีสำหรับเด็กยุวชนของชาติที่จะเป็นกำลังของพระพุทธศาสนายุคนี้ จะเรียนสอนแบบเดิม ๆ ตามประเพณี คงยาก คติตนเรื่องแบบนี้ … ยิ่งช้า ยิ่งสูญเสีย…

ประวัติของนายภูวพัศ เทียมจรรยาดังนี้

การศึกษา

-ประถมศึกษา โรงเรียนอนุบาลนครสวรรค์

-มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนนครสวรรค์

-ปัจจุบันศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์

รางวัลที่เคยได้รับ

-รางวัลเหรียญทอง การประกวดโครงงานคุณธรรม ระดับชั้นม.1-ม.3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคเหนือ ครั้งที่ 66

-รางวัลเหรียญเงิน การประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ ระดับชั้นม.1-ม.3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคเหนือ ครั้งที่ 67

-รางวัลชมเชย การแข่งขันเขียนตามคำบอก ในการแข่งขันทักษะภาษาไทย ตามโครงการรักษ์ภาษาไทย เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ พ.ศ.2560

-รางวัลชมเชย วิชาคณิตศาสตร์ และรางวัลชมเชย วิชาวิทยาศาสตร์ โครงการประเมินและพัฒนาสู่ความเป็นเลิศทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (TEDET) ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ประจำปี พ.ศ. 2560

-รางวัลเหรียญทองแดง โครงการ “รางวัลนักคิดสิ่งประดิษฐ์รุ่นใหม่” ประจำปี 2561

-รางวัลชนะเลิศ การแข่งขันตอบปัญหาความถนัดทางภาษาบาลี PAT 7.6 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โครงการ “เผยแพร่ธรรมะและเยาวชนสู่สังคม” ประจำปีงบประมาณ 2561 และ 2562

-รางวัลรองชนะเลิศเหรียญเงิน การแข่งขันภาษาไทยเพชรยอดมงกุฎ ครั้งที่ 15 ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-6

-รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 การแข่งขันตอบปัญหาวิชาการ “ปุจฉา-วิสัชนา ปัญหาประวัติศาสตร์ ครั้งที่ 2” โครงการอักษราวิชาการ ประจำปี 2561 : 5 ทศวรรษ อักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

-รางวัลชมเชยการแข่งขันหน้าที่พลเมืองและศีลธรรมเพชรยอดมงกุฎ ครั้งที่ 1 ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-6

-รางวัล Certificate of high distinction ในการแข่งขัน Australian National Chemistry Quiz 2018 (ANCQ 2018)

-รางวัลเหรียญทอง การแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติ ครั้งที่ 15

Cr.เฟซบุ๊ก Wate Bunnakornkul

Verified by ExactMetrics