วันที่ 20 เมษายน 2024

“ประวิตร” สั่งเหล่าทัพให้พร้อมช่วยเหลือประชาชนน้ำท่วมภาคใต้-อีสานได้ทันที

People unity news online : 18 สิงหาคม 2560 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. และ รมว.กห. ได้กำชับทุกเหล่าทัพ ให้ติดตามรายงานสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้อย่างใกล้ชิด และเตรียมการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงที่มีฝนตกต่อเนื่องและเพิ่มมากขึ้น จนอาจทำให้เกิดภาวะน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งตะวันตก ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ทั้งนี้ให้ประสานการทำงานร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถเข้าถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบในทุกพื้นที่ทันที

ขณะเดียวกัน พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือใน 4 จังหวัดที่ยังคงมีระดับน้ำเพิ่มสูง ได้แก่ ยโสธร สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำให้คงความต่อเนื่องในการสนับสนุนส่วนราชการในพื้นที่ ให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป จนกว่าสถานการณ์น้ำในแต่ละพื้นที่จะคลี่คลาย

People unity news online : post 22 สิงหาคม 2560 เวลา 13.20 น.

นายกฯห่วงเด็กติดโทรศัพท์มือถือ แนะพ่อแม่-ครู-โรงเรียนควบคุมดูแล

People Unity : นายกรัฐมนตรีห่วงใยปัญหาเด็กติดโทรศัพท์ แนะพ่อแม่-ครูช่วยวางแผนการใช้ชีวิตอย่างเหมาะสม ป้องกันสมาธิสั้น ใช้อารมณ์รุนแรง

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นห่วงปัญหาเด็กไทยติดโทรศัพท์มือถือ ซึ่งพบได้ตั้งแต่นักเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานไปจนถึงวัยรุ่น โดยกว่าร้อยละ 50 ของกลุ่มเป้าหมายที่มีการสำรวจ หยิบโทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งแรกหลังตื่นนอน และยังใช้โทรศัพท์เป็นกิจกรรมสุดท้ายก่อนเข้านอน ส่งผลให้เกิดอาการสมาธิสั้น การใช้สมองในส่วนความทรงจำลดลง และอารมณ์มีแนวโน้มรุนแรงฉุนเฉียวง่ายขึ้น

“พ่อแม่ผู้ปกครองมักจะระมัดระวังป้องกันอันตรายภายนอกบ้านไม่ให้เกิดขึ้นกับบุตรหลานของตน แต่อาจมองข้ามภัยจากโทรศัพท์มือถือที่คืบคลานเข้ามาถึงในบ้านแม้กระทั่งในห้องนอน ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือกำหนดเวลาให้เด็กเล่นโทรศัพท์ไม่เกินวันละ 1-2 ชม. พาเด็กออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านหรือใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น และหมั่นเอาใจใส่ดูแลสอดส่องพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด หากพบมีอาการผิดปกติควรปรึกษาแพทย์หรือนักจิตวิทยา”

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าสัปดาห์นี้โรงเรียนจะเปิดเทอมแล้ว พ่อแม่ผู้ปกครองและครูจึงต้องตระหนักในเรื่องนี้และช่วยเด็กวางแผนการใช้ชีวิตทั้งเรื่องเรียนและการพัฒนาทักษะอื่นๆ โดยปัญหาเด็กติดโทรศัพท์นั้นมีให้เห็นจริงรอบตัวเรา และยังสะท้อนออกมาในรูปแบบของละครสอนใจ เช่น วัยแสบสาแหรกขาด ซึ่งทุกคนสามารถศึกษาเรียนรู้และใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี

สังคม : นายกฯห่วงเด็กติดโทรศัพท์มือถือ แนะพ่อแม่-ครู-โรงเรียนควบคุมดูแล

People Unity : post 16 พฤษภาคม 2562 เวลา 10.30 น.

ผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรเข้าพบขอบคุณ พล.อ.ประวิตร หลังแก้ปัญหาตลาดนัดจตุจักรสำเร็จ

People unity news online : ผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร เข้าพบและขอบคุณ พล.อ.ประวิตร หลังประสบความสำเร็จช่วยแก้ไขปัญหาตลาดนัดจตุจักร

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 เวลา 15.00 น. ณ ห้องรับรอง สโมสรทหารบก (วิภาวดี) พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรี และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำผู้แทนกลุ่มสหกรณ์บริการผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรและกลุ่มผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร เข้าพบเพื่อมอบดอกไม้ แสดงความขอบคุณรัฐบาลและคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 (กขป.5) เพื่อแสดงความขอบคุณรัฐบาลที่ได้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ค้าในตลาดนัดจตุจักรจนได้ข้อยุติที่เป็นที่พอใจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสามารถช่วยลดค่าเช่าแผงค้ารายเดือน และปรับให้ กทม. เข้ามาบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรแทนการรถไฟแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลในการบริหารจัดการพื้นที่สาธารณประโยชน์ให้มีความสมดุล และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งเป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่สอดคล้องกับนโยบายที่รัฐบาลได้เร่งดำเนินอยู่ในขณะนี้

สําหรับปัญหาความเดือดร้อนของผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรเป็นปัญหาที่เกิดจากการปรับระบบการบริหารจัดการตลาดตั้งแต่ปี 2555 และส่งผลให้ค่าเช่าแผงมีราคาสูงขึ้นอย่างมาก (3,157 บาท/เดือน) จนกลายเป็นปัญหายืดเยื้อและผลส่งกระทบต่อผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร ซึ่งมีอยู่ประมาณ 90,000 แผง จนเมื่อเดือนกันยายน 2561 ผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรประมาณกว่า 2,000 ราย ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้รัฐบาลเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าว และลดผลกระทบต่อประชาชาชนผู้ใช้บริการในตลาดนัดจตุจักร

โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่เข้าพบและและขอบคุณหน่วยงานภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ความร่วมมือเร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรแล้วเสร็จ พร้อมกล่าวว่า การเร่งรัดขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จนกระทั่งได้ข้อยุติ โดยกําหนดให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ส่งมอบการบริหารตลาดนัดจตุจักรให้กับกรุงเทพมหานคร และลดค่าเช่าแผงลงจากเดิมเดือนละ 3,157 บาท เหลือเดือนละ 1,800 บาท ตามรายละเอียดที่กระทรวงคมนาคมได้รายงานให้คณะรัฐมนตรีรับทราบแล้วเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2561 สําหรับรายละเอียดอื่นๆอยู่ระหว่างการจัดทําบันทึกความเข้าใจร่วมกันระหว่างการรถไฟแห่งประเทศและกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ กรุงเทพมหานครสามารถเข้ามาเริ่มบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรได้ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2561 เป็นต้นไป

รองนายกรัฐมนตรีย้ำว่ารัฐบาลไม่เพียงแต่ดูแลบรรเทาความเดือดร้อนของร้านค้าตลาดนัดจตุจักรเท่านั้น แต่ดูแลบรรเทาความเดือนร้อนให้กับประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งมีหลายโครงการที่กำลังเร่งดำเนินการอยู่ในขณะนี้ และได้ฝากให้ผู้ประกอบการร้านค้าตลาดนัดจตุจักรให้รักษาความสะอาด และขายสินค้าในราคาย่อมเยา ยุติธรรม กับประชาชนด้วย

People unity news online : post 28 พฤศจิกายน 2561 เวลา 11.04 น.

“เจ้าคุณประสาร”ถอดเขี้ยวเล็บ! มุ่งงานสอนหนังสือเป็นหลัก

People Unity News : “เจ้าคุณประสาร” ร่วมเวทีเสวนาวิชาการ มธ. ถกประเด็น “ถ้าไม่ยกย่องก็อย่าเหยียบย่ำ : การเคลื่อนไหวของพระสงฆ์ในบริบทการเมืองร่วมสมัย” เผยอดีตทำหน้าที่เพื่อส่วนรวมเป็นหลักไม่เกี่ยวกับการเมือง ปัจจุบันมุ่งงานสอนหนังสือเป็นหลัก

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 พระเมธีธรรมาจารย์ หรือเจ้าคุณประสาร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ฝ่ายวางแผนและพัฒนา เปิดเผยว่า ได้ร่วมการเสวนาทางวิชาการที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งคณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดโครงการเสวนาวิชาการนับถอยหลังสู่วาระครบรอบ 55 ปี ของคณะ “No Man’s Land: คน สัตว์ สิ่งของ” ซึ่งมีกิจกรรมเสวนาวิชาการจำนวน 3 ครั้ง ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2562 ถึงเดือนมกราคม 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทบทวน เปิดประเด็นร่วมสมัย และมุมมองใหม่ขององค์ความรู้ทางสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา

การจัดกิจกรรมเสวนาวิชาการวันนี้ ครั้งที่ 1 เรื่อง “ถ้าไม่ยกย่องก็อย่าเหยียบย่ำ : การเคลื่อนไหวของพระสงฆ์ในบริบทการเมืองร่วมสมัย” เพื่อร่วมฉลองในวาระครบรอบ 55 ปี ของการก่อตั้งคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา และแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจประเด็นสำคัญอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม วิทยากรประกอบด้วย อาตมา อ.ดร.ประกีรติ สัตสุต จากคณะสังคมวิทยามนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ทำวิจัยเรื่องนี้ ดำเนินการโดย อ.ดร.เอกสิทธิ์ หนุนภักดี คณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

“วันนี้ส่วนตัวอาตมานั้นถือว่าเป็นเวทีทางวิชาการที่น่าสนใจโดยเฉพาะประเด็นการเคลื่อนไหวของพระสงฆ์ในสังคมไทยนั้น อ.ดร.ประกีรติ นักวิชาการหนุ่ม นักเรียนนอก อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้นำเสนอผลงานในเรื่องนี้ได้ศึกษาวิจัย ค้นคว้าอ้างอิงมาอย่างดีเยี่ยม อาตมาเพียงไปถ่ายทอดประสบการณ์ที่ผ่านมาให้ฟังโดยเน้นย้ำ

1.ที่ผ่านมาทำเพื่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนาในสังคมไทย 2.ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง นักการเมือง วัดใดวัดหนึ่ง บุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยเฉพาะแต่ทำเพื่อคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาโดยรวม 3.ยอมรับในกฎกติกาที่เกิดขึ้น 4.ยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ในฐานะพระสงฆ์เป็นคนสาธารณะ 5.ปัจจุบันมุ่งงานสอนหนังสือเป็นหลัก

“ท้ายสุดได้เน้นย้ำว่า ขอบคุณอ.ดร.ประกีรติ สัตสุต และคณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา มธ.ที่ได้ทำวิจัยในเรื่องนี้ และจัดเสวนารับฟังความคิดเห็นสาธารณะในเชิงวิชาการ อันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายคือการพูดจากันด้วยหลักฐานเชิงเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์และแบ่งแยก ถ้าเราทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์โดยมุ่งหวังให้เกิดสันติสุขในสังคมและมีจิตอันแน่วแน่ในการพิทักษ์ปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนาเราก็สบายใจ” พระเมธีธรรมาจารย์ ระบุ

ไทยติดอันดับ 4 ว่างงานน้อยที่สุดในโลก

People unity news online : นายกฯ ยินดีไทยติดอันดับ 4 ว่างงานน้อยที่สุดในโลก ย้ำรัฐบาลส่งเสริมการมีงานทำอย่างจริงจัง

วันนี้ (27 มิถุนายน 2561) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยินดีที่ได้รับทราบข้อมูลจากเว็บไซต์ Trading Economics.com และ Index mundi.com ซึ่งได้นำเสนออัตราการว่างงานของ 215 ประเทศทั่วโลก และปรากฏว่าประเทศไทยมีอัตราการว่างงานน้อยที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ของโลก โดยมีอัตราการว่างงานเพียงร้อยละ 1.2 จากจำนวนประชากรทั้งหมดราว 66.2 ล้านคน“นายกฯ เน้นย้ำว่า รัฐบาลพยายามควบคุมอัตราการว่างงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และส่งเสริมให้คนไทยมีงานทำ เข้าถึงการจ้างงานที่สะดวกรวดเร็ว เพื่อให้มีรายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัว เช่น จัดตั้งศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทยทั่วประเทศ จัดกิจกรรมนัดพบแรงงาน จ้างงานผู้สูงอายุ คนพิการ และนักศึกษา บริการแนะแนวอาชีพ จัดตั้งกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน และบริการจัดหางานบนมือถือผ่าน Smart Job Application เป็นต้น จึงถือเป็นข่าวดีๆอีกครั้ง”อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้กระทรวงแรงงานบูรณาการร่วมกับทุกฝ่าย เพื่อแก้ปัญหาการว่างงานโดยเฉพาะผู้ที่จบปริญญาตรีให้มีงานทำโดยเร็วด้วย

People unity news online : post 27 มิถุนายน 2561 เวลา 12.20 น.

รัฐบาลจัดให้! ลูกจ้างราชการ 1 ล้านคน เฮ! สิทธิกองทุนเงินทดแทนคุ้มครอง มีผล 9 ธ.ค.นี้

People unity news online : รมว.แรงงาน แถลง พ.ร.บ.กองทุนเงินทดแทน ฉบับที่ 2 พ.ศ.2561 ลูกจ้างส่วนราชการ 1 ล้านคนรับอานิสงส์ได้รับความคุ้มครอง เพิ่มค่าทดแทนเป็นร้อยละ 70 จากเดิมร้อยละ 60 ของค่าจ้างรายเดือน หยุดงาน 1 วันได้รับค่าทดแทน ทุพพลภาพได้รับค่าทดแทนไม่น้อยกว่า 15 ปี เสียชีวิตได้รับค่าทำศพ 40,000 บาทเท่ากองทุนประกันสังคม และทายาทได้รับค่าทดแทนนาน 10 ปี พร้อมอำนวยความสะดวกนายจ้าง ลดเงินเพิ่มเหลือร้อยละ 2 และลดการจ่ายเงินเพิ่ม กรณีภัยพิบัติ มีผลบังคับใช้ 9 ธันวาคมนี้

วันนี้ (15 พฤศจิกายน 2561) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการแถลงข่าว เรื่อง พระราชบัญญัติกองทุนเงินทดแทน ฉบับที่ 2 พ.ศ.2561 ณ ห้องประชุม ชั้น 7 อาคารสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 3 โดยกล่าวว่า กระทรวงแรงงานเป็นหน่วยงานหลักในการเสริมสร้างความมั่นคง ให้ประชาชนของประเทศมีหลักประกันในชีวิต เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม มีสำนักงานประกันสังคมเป็นหน่วยงานที่ขับเคลื่อนดูแลสิทธิประโยชน์แรงงานในระบบจำนวนประมาณ 12 ล้านคน และแรงงานนอกระบบประมาณ 22 ล้านคน ซึ่งปัจจุบันสำนักงานประกันสังคมมีกองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน โดยกองทุนประกันสังคม ประกอบด้วย เงินสมทบที่มาจากลูกจ้าง นายจ้าง และรัฐบาล เพื่อให้ความคุ้มครองกรณีประสบอันตราย เจ็บป่วย ทุพพลภาพ หรือตาย อันมิใช่เนื่องจากการทำงาน รวมทั้งกรณีคลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และว่างงาน ส่วนกองทุนเงินทดแทน เป็นเงินที่จ่ายในกรณีที่ประสบอันตรายในการทำงานให้กับนายจ้าง โดยนายจ้างเป็นผู้จ่ายเข้ากองทุนฯ 480 บาท/คน/ปี ให้ความคุ้มครองการจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน ค่าทำศพ จ่ายเงินทดแทนให้แก่ลูกจ้างแทนนายจ้าง เมื่อลูกจ้างประสบอันตราย หรือเจ็บป่วย ตาย หรือสูญหาย

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวต่อว่า ในปีนี้กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้กำหนดให้มีการแก้ไข พ.ร.บ.เงินทดแทน เหตุเพราะบทบัญญัติบางประการไม่เหมาะสม ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของลูกจ้าง กระทรวงแรงงานจึงได้เสนอแก้ไข พ.ร.บ.เงินทดแทนฯ ปี พ.ศ.2561 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 ธันวาคม 2561 นี้ สาระสำคัญของ พ.ร.บ.ดังกล่าวจะขยายความคุ้มครองแก่ลูกจ้าง อาทิ คุ้มครองลูกจ้างของส่วนราชการหรือองค์กรที่ไม่แสวงหากำไนทางเศรษฐกิจจำนวน 1 ล้านคน เพิ่มค่ารักษาพยาบาลจากเดิม 2 ล้านบาท จนถึงสิ้นสุดการรักษา เพิ่มค่าฟื้นฟูจากเดิม 24,000 บาท เป็น 40,000 บาท เพิ่มค่าทำศพ 33,000 บาทเป็น 40,000 บาท เพิ่มค่าทดแทนจากเดิม 60 % ของค่าจ้าง เป็น 70 % ของค่าจ้าง โดยจ่ายตั้งแต่จากเดิมหยุดงาน 3 วันเป็นตั้งแต่วันแรกที่เจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพจากเดิม 15 ปีเป็นตลอดชีวิต และกรณีตาย จะจ่ายค่าทดแทนแก่ทายาทจากเดิม 8 ปีเป็น 10 ปี ส่วนประโยชน์ของนายจ้าง ปรับลดเงินเพิ่มร้อยละ 2 ต่อเดือน จากเดิมร้อยละ 3 และเงินเพิ่มต้องไม่เกินจำนวนเงินสมทบที่นายจ้างต้องจ่าย ในกรณีที่ประสบภัยพิบัติ รัฐมนตรีมีอำนาจลดการจ่ายเงินเพิ่ม ตลอดจนเป็นการเพิ่มช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่ออำนวยความสะดวกในการยื่น – แจ้งเงินสมทบช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย

People unity news online : post 15 พฤศจิกายน 2561 เวลา 13.04 น.

สธ.เดินหน้าจัดตั้ง”สถาบันกัญชาทางการแพทย์”ทำหน้าที่วิจัย

People Unity : สธ.เดินหน้าจัดตั้ง “สถาบันกัญชาทางการแพทย์” ทำหน้าที่สนับสนุน ส่งเสริม วิจัย พัฒนา การใช้กัญชาทางการแพทย์ในโรงพยาบาล

วันที่ 28 ต.ค.2562 ที่สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ธเนศ ดุสิตสุนทรกุล ว่าที่ผู้อำนวยการสถาบันกัญชาทางการแพทย์ ได้เปิดเผยว่า หลังจากสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดระดมความคิดวางแผนจัดตั้ง “สถาบันกัญชาทางการแพทย์” ขึ้น เพื่อความยั่งยืนกัญชาทางการแพทย์ไว้ในกระทรวงสาธารณสุข การจัดตั้ง สถาบันกัญชาทางการแพทย์ ทำหน้าที่สนับสนุน ส่งเสริม วิจัย พัฒนา การใช้กัญชาทางการแพทย์ในโรงพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงการใช้กัญชามากขึ้น เพราะปัจจุบันกัญชาได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมากและสนใจปลูก แต่ไม่เข้าใจข้อกฎหมาย รวมไปถึงการขออนุญาติในการปลูก

ที่สำคัญที่สุดยังมีประชาชนไม่เข้าใจข้อกฏหมายพากันปลูกและถูกเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปจับกุม ประชาชนบางส่วนบางกลุ่มที่ยังไม่ขึ้นมามาบนดินยังแอบปลูกกัญชา ปัญหาเหล่านี้สำนักปลัดกระทรวงเป็นห่วงพี่น้องประชาชน โดยนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีคำสั่งถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ทำงานเร่งด่วนเพราะท่านห่วงพี่น้องประชาชนได้ใช้กัญชาอย่างถูกต้อง

วันนี้จึงได้มีการประชุมครั้งแรก เพื่อตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนให้พี่น้องประชาชนเข้าใจเรื่องของกัญชา มีองค์ความรู้เรื่องกัญชา ที่มีหลายหน่วยงานเข้ามาเป็นกรรมการและองค์กรภาคเอกชนมาระดมความคิด เพื่อก่อตั้งสถาบันกัญชาทางการแพทย์ โดยมีนายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ดร.ภก.อนันต์ชัย อัศวเมฆิน คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลและเป็น ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย ม.รังสิต นายสุกษม อามระดิษ เลขานุการสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย และตัวแทนจากสภาเกษตรกรแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม ซึ่งการระดมคนทำงานเพื่อให้เกิดสถาบันกัญชาทางการแพทย์ ทางคณะทำงานต้องการให้ประสบผลสำเร็จอย่างรวดเร็ว เพราะพี่น้องประชาชนรอเรื่องนี้อยู่

รองโฆษกรัฐบาลเผยเตรียมใช้ระบบ M Flow เก็บเงินบนทางด่วนแก้ปัญหาแออัดช่องจ่ายเงิน

People Unity News : เตรียมพร้อมใช้ระบบ M Flow บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 แก้ปัญหาจราจรแออัดด้วยระบบ AI

นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยกระทรวงคมนาคมเตรียมนำร่องใช้ระบบเก็บค่าผ่านทางอัจฉริยะรูปแบบใหม่ (M Flow) ช่วยแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดบนทางด่วนและมอเตอร์เวย์ ลดความแออัดของรถบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทาง เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางสำหรับผู้ใช้บริการ โดยกรมทางหลวงจะนำร่องบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 ในช่วงต้นปี 2564 โดยปรับปรุงด่านนำร่องจำนวน 4 ด่าน ได้แก่ ด่านทับช้าง 1 ด่านทับช้าง 2 ด่านธัญบุรี 1 และด่านธัญบุรี 2 ในขณะที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะนำร่องบนทางพิเศษฉลองรัช บริเวณด่านจตุโชติ ด่านสุขาภิบาล 5-1 และด่านรามอินทรา ทั้งนี้ ระบบ M Flow เป็นการใช้เทคโนโลยี AI มาพัฒนาระบบจัดเก็บค่าผ่านด้วยกล้องตรวจบันทึกภาพป้ายทะเบียนรถ แทนการเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบระบบไม้กั้น ทำให้ผู้ใช้รถยนต์สามารถขับขี่ผ่านบริเวณด่านฯ โดยไม่ต้องหยุดหรือชะลอรถ ด้วยความเร็วได้ถึง 160 กม./ชม. ช่วยระบายรถได้ 2,000 -2,500 คัน/ชม./ช่องทาง เร็วขึ้นกว่าระบบเดิมที่ใช้อยู่ถึง 5 เท่า รองรับการใช้งานกับรถยนต์ทุกประเภทที่ได้รับอนุญาตให้วิ่งบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือทางพิเศษ ทั้งรถยนต์ 4 ล้อ รถยนต์ 6 ล้อ และรถยนต์มากกว่า 6 ล้อขึ้นไป ชำระค่าธรรมเนียมผ่านวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หลังการใช้บริการ หรือระบบ Post Paid ทั้งแบบชำระเป็นรายครั้งหรือชำระตามรอบบิล รวมไปถึงการชำระผ่านเว็บไซต์หรือโมบายแอปพลิเคชั่นของระบบ M-Flow ตลอดจนการชำระด้วยระบบ QR Code และการชำระผ่านระบบตัดเงินอัตโนมัติ

นางสาวไตรศุลี ย้ำว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการให้ทุกส่วนราชการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ ตามนโยบาย Thailand 4.0 โดยเฉพาะการพัฒนางานบริการประชาชนให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ในปีหน้าผู้ใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 และทางพิเศษฉลองรัช จะได้สัมผัสมิติใหม่ของการให้บริการ ซึ่งกรมทางหลวง และการทางพิเศษแห่งประเทศยังจะเตรียมขยายผลนำระบบ M Flow ไปใช้กับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและทางพิเศษในเส้นทางอื่นๆต่อไป

Advertising

กรมควบคุมโรคเฝ้าระวังสถานการณ์โรคอุจจาระร่วง

People Unity News : กรมควบคุมโรคเฝ้าระวังสถานการณ์โรคอุจจาระร่วง แนะประชาชนเลือกรับประทานอาหารและน้ำที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคอุจจาระร่วงในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 12 พ.ย.2562 พบผู้ป่วย 925,149 ราย เสียชีวิต 7 ราย ภาคที่มีอัตราป่วยสูงสุด คือ ภาคเหนือ กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยสูงสุด คือ กลุ่มอายุมากกว่า 65 ปี โดยตั้งแต่ต้นปี พบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงเป็นกลุ่มก้อน จำนวน 4 เหตุการณ์ ซึ่งเหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่ามีสาเหตุมาจากเชื้อโรต้าไวรัส

“การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพในสัปดาห์นี้ คาดว่าจำนวนผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรคอุจจาระร่วงที่มีสาเหตุจากเชื้อโรต้าไวรัส เนื่องจากเชื้อไวรัสดังกล่าวจะเจริญเติบโตและทนอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้ดีในช่วง ฤดูหนาว จึงทำให้ประชาชนมีโอกาสได้รับเชื้อจากการรับประทานอาหารและน้ำ หรือสัมผัสกับของเล่นหรือเครื่องใช้ที่มีเชื้อไวรัสปนเปื้อนสูงขึ้น”

“กรมควบคุมโรค ขอแนะนำให้ประชาชนเลือกรับประทานอาหารและน้ำที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ และมีการปรุงหรือผลิตที่ได้มาตรฐาน ก่อนรับประทานอาหารควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง และในกรณีที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ควรระมัดระวังเรื่องน้ำดื่มน้ำใช้เป็นกรณีพิเศษ ไม่ควรใช้ภาชนะหรือแก้วร่วมกับผู้อื่น หากผู้ใดมีอาการถ่ายเหลวเป็นน้ำมากกว่าสามครั้งต่อวัน ควรดื่มน้ำเกลือแร่หรือสารละลายเกลือแร่เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไปทันที หากอาการยังไม่ดีขึ้น รู้สึกอ่อนเพลีย อาเจียนรุนแรง หรือมีอาการขาดน้ำ ควรรีบไปพบแพทย์ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตจากโรคอุจจาระร่วงได้ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422”

โฆษณา

สสส.หนุนพระ”มจร”ทำวิจัย”ลดเหล้า บุหรี่”เชิงพุทธเมืองปราจีนบุรี

People Unity : สสส.หนุนพระ”มจร”ทำวิจัย”ลดเหล้า บุหรี่”เชิงพุทธเมืองปราจีนบุรี พร้อมภาคีเครือข่ายลงพื้นที่ถอดบทเรียนเซ็น MOU “บวร”เกาะมะไฟประจันตคาม สืบสานเจตนารมณ์หลวงพ่อพระครูประโชติพรหมธรรม”อย่าเอาวัดมาทำบาร์ อย่าเอาศาสนามาทำบ่อน”

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา นำโดย พระปลัดสรวิชญ์ อภิปญฺโญ, ผศ.ดร.หัวหน้าภาควิชาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว และผู้อำนวยการหลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว มจร ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยฯ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายฯ ได้จัดกิจกรรมการถอดบทเรียนและพิธีลงนามความร่วมมือ โครงการเสริมสร้างสุขภาวะและเครือข่ายทางสังคมเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงเชิงพุทธบูรณาการ (การบำบัดพฤติกรรมทางความคิดและสร้างเครือข่ายทางสังคมเพื่อลดเหล้า บุหรี่ เชิงพุทธบูรณาการในจังหวัดปราจีนบุรี) ที่วัดเกาะมะไฟ ต.บ้านหอย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรีโดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 150 รูป/คน

โดยโครงการนี้คณะครุศาสตร์ มจร ได้ร่วมกับวัดเกาะมะไฟ โรงเรียนวัดเกาะมะไฟ องค์การบริหารสวนตำบลบ้านหอย ชุมชนตำบลบ้านหอยและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเกาะแดง ทั้ง 6 หน่วยงาน ได้ตระหนักถึงพิษภัยและผลกระทบอันเกิดจากการบริโภคบุหรี่และสุรา ในฐานะปัจจัยเสี่ยงที่มีผลเสียต่อสุขภาพ จึงได้มีการศึกษา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ผ่านการจัดกิจกรรมถอดบทเรียนเกี่ยวกับ “การบำบัดพฤติกรรมทางความคิดและสร้างเครือข่ายทางสังคมเพื่อลดเหล้า บุหรี่ เชิงพุทธบูรณาการในจังหวัดปราจีนบุรี” ขึ้น เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2562 ที่วัดเกาะมะไฟ โดยมีพระครูสถิตธรรมกิจ รองเจ้าคณะอำเภอประจันตคาม วัดเกาะแดง เป็นประธาน มีพระครูประโชติพรหมธรรม อดีตเจ้าอาวาสวัดเกาะมะไฟ และผู้แทนภาคีเครือข่าย เป็นวิทยากรหลัก จากนั้นภาคีเครือข่ายได้มีการดำเนินการขยายพื้นที่จากชุมชนวัดเกาะมะไฟออกไปเป็น 5 พื้นที่ โดยการมีส่วนร่วมของ บ้าน วัด และหน่วยงานราชการ ผลจากการดำเนิการเบื้องต้นก่อให้เกิดบุคคลต้นแบบ จำนวน 13 คน บุคคลที่เลิกเหล้าตลอดชีวิตจำนวน 18 คนและบุคคลที่ลด ละ เลิก เหล้า ในพรรษา จำนวน 27 คน

โครงการนี้ได้เริ่มขึ้นในเวลา 13.30 น.ด้วยกิจกรรมการถอดเรียน “การขับเคลื่อนการลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ” โดยผู้แทนภาคีเครือข่าย บุคคลต้นแบบ บุคคลที่เลิกเหล้าตลอดชีวิตและบุคคลที่ลด ละ เลิก เหล้า ในพรรษา โดยมีพระปลัดสรวิชญ์เป็นผู้ดำเนินการ

ผลจากการจัดกิจกรรมถอดบทเรียนพบว่า โครงการนี้เกิดจากความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆในชุมชน ไม่ว่าจะเป็น วัด ผู้นำหมู่บ้าน หน่วยงานรัฐ อสม. อบต. ตลอดจนเยาวชนและสถานศึกษาในชุมชนเกาะมะไฟ ได้ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชน และร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา โดยให้ทุกคนเห็นถึงประโยชน์ในการลด ละ เลิก สุราและบุหรี่ ผลจากการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 4-5 ปีของกลุ่มผู้นำชุมชน ภาคีเครือข่าย และประชาชนในชุมชน ทำให้ปัจจุบันมีผู้สมัครใจเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 300 คน จาก 5 หมู่บ้าน และมีผู้ที่สามารถลดละเลิกการดื่มสุราและยาเสพติดได้ถึง 250 คน

โดยผู้เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่เห็นว่า เป็นโครงการที่ดีและมีผลการดำเนินงานดีขึ้นตามลำดับในช่วงเริ่มโครงการ 2 ปี โดยผู้นำชุมชนและหน่วยงานต่างๆ ได้ให้ความสำคัญและเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันในการผลักดันโครงการให้เห็นผลเป็นรูปธรรม แม้แต่หน่วยงานเล็กๆ เช่น โรงเรียน ซึ่งเยาวชนเองก็สามารถส่งต่อความรู้ความเข้าใจไปถึงครอบครัวได้ นอกจากนั้น การให้ความช่วยเหลือของผู้จัดตั้งโครงการ และผู้นำชุมชน ยังมีทัศนคติในการแก้ปัญหาว่า คนในชุมชนสามารถดูแลกันได้ โดยการพัฒนาบุคคลากรให้มีความสามารถในการดูแล ด้วยการอบรมหลักการชมเป็น ถามเป็น และแก้ปัญหาเป็นให้คนในชุมชน

ขณะเดียวกัน ประเด็นปัญหาที่ยังคงพบได้ในชุมชนคือ วิถีและค่านิยมในการดื่มของคนไทยยังคงมีอยู่ ซึ่งถือเป็นค่านิยมทางสังคมอย่างหนึ่งที่ต้องสร้างความเข้าใจใหม่ให้กับชุมชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนคนรุ่นหลังเพื่อให้เกิดค่านิยมที่ถูกต้อง นอกจากนี้สุราในท้องถิ่นของชุมชนยังหาซื้อได้ง่ายและมีราคาถูกง่ายต่อการซื้อหามาดื่ม

ที่สำคัญภาวะจิตใจของผู้เข้าร่วมโครงการเองก็มีผลต่อการทำงานและการเข้าร่วมจนจบโครงการ โดยพบว่าที่ผ่ายมา มีบางรายได้ออกจากโครงการไปก่อน เนื่องจากไม่สามารถทนต่อภาวะทางจิตใจของตนเองได้ และการสร้างการรับรู้สำหรับผู้ที่ติดสุราให้พร้อมเผชิญและกล้าที่จะเข้ามาบำบัด หรือเข้าร่วมโครงการ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทีมทำงานในโครงการนี้ให้ความสำคัญเช่นกัน

จะเห็นได้ว่าปัจจัยที่จะทำให้คนในชุมชนสามารถลด ละ เลิก การดื่มสุรา และบุหรี่ได้นั้น ต้องอาศัยกำลังใจ และความเข้มแข็งของสติและปัญญา เห็นคุณและโทษของอบายมุข โดยการใช้กระบวนการชุมชนบำบัด (community therapy) โครงการนี้ถือเป็นโครงการต้นแบบสำหรับชุมชนเกาะมะไฟ และสามรถขยายผลสู่ชุมชนอื่นๆ ได้ เป้าหมายคือการให้ชุมชนสามารถดูแลตัวเองได้ มีการช่วยเหลือกันของคนในชุมชน ซึ่งความต่อเนื่องในการดำเนินงานโครงการและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็มีความสำคัญเช่นเดียวกันต่อการขยายผลโครงการและความสำเร็จของโครงการในระยะยาวจากระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัดทั่วประเทศไทยได้อย่างมั่นคง และยั่งยื่นต่อไป

ต่อมาเวลา 15.30 น. มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการและการวิจัยระหว่างคณะครุศาสตร์ มจร ร่วมกับ วัดเกาะมะไฟ โรงเรียนวัดเกาะมะไฟ องค์การบริหารสวนตำบลบ้านหอย ชุมชนตำบลบ้านหอยและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเกาะแดง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนาองค์ความรู้และกระบวนการเสริมสร้างสุขภาวะในการลดปัจจัยเสี่ยงเชิงพุทธบูรณาการสร้างและพัฒนาเครือข่ายการสร้างสุขภาวะเพื่อการลดปัจจัยเสี่ยงบุหรี่และสุราในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี และพัฒนานโยบายเพื่อการรณรงค์ลดปัจจัยเสี่ยงบุหรี่และสุราในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี โดยมีผู้แทนจากองค์กรภาคีเครือข่ายร่วมลงนามและเป็นสักขีพยานจำนวน ๒๐ รูป/คน

และเวลา 16.00 น. พระพิศาลศึกษากร,ดร. ในนามพระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะภาค 7 ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯ “หมู่บ้านรักษาศีล 5” ส่วนกลาง เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคาราชวรวิหาร ได้เมตตาเดินทางมาเป็นประธานมอบประกาศนียบัตรให้ บุคคลต้นแบบ บุคคลที่เลิกเหล้าตลอดชีวิต,บุคคลที่สามารถ ลด ละ เลิก เหล้า ในพรรษาและผู้แทนภาคีเครือข่ายและกล่าวให้โอวาทเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ตอนหนี่งว่า ท่านทั้งหลายได้ตัดสินใจเลิกดื่มเหล้าและสูบบุหรี่จะทำให้มีสุขภาพกายดีสุขภาพจิตและการนอนดีขึ้น ทำให้ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างดีขึ้นประหยัดเงินในกระเป๋าเป็นการปกป้องสุขภาพของคนในครอบครัวลดอุบัติเหตุ และลดอาชญากรรมในชุมชน โดยเฉพาะการรักษาศีล 5 ถือว่าเป็นเกาะป้องกันไม่ให้เราตกไปสู่อบายมุขหรือทางแห่งความเสื่อมขอให้ท่านทั้งหลายจงเจริญในธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และทำกิจกรรมให้เกิดประโยชน์กับสังคมและชุมชน สืบต่อไป

จนกระทั้งเวลา 17.00 น. มีการประชุมคณะทำงานเพื่อสรุปผลการจัดโครงการฯ โดยมีพระปลัดสรวิชญ์เป็นประธานพร้อมสรุปว่า หน้าที่ของเราคือการดำเนินตามวิถีแห่งความเป็นพระโพธิสัตว์ หวังช่วยให้ผู้อื่นพ้นจากความทุกข์ทางกายและใจ สร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นภายในเพื่อโยงใยไปสู่ภายนอกผ่านภาคีเครือข่ายที่มีจิตอาสาทำความดีที่ไม่หวังสิ่งตอบแทนเห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน จัดทำฐานข้อมูลเพื่อขยายผลไปในระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัดในที่สุดก็จะทำให้เกิดบุคคลที่มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีทั่วประเทศต่อไป ที่สำคัญเราต้องนึกถึงหลวงพ่อ หลวงพ่อพระครูประโชติพรหมธรรม อดีตเจ้าอาวาสวัดเกาะมะไฟ ท่านเป็นแรงบันดาลใจให้เราได้ทำงานเพื่อผู้อื่นท่านฝากเราทั้งหลายว่า “อย่าเอาวัดมาทำบาร์ อย่าเอาศาสนามาทำบ่อน” ถึงท่านไม่อยู่พวกเราก็ต้องสานต่องานท่าน ถือว่าเป็นความกตัญญู ผ่านการปฏิบัติบูชา

Verified by ExactMetrics