วันที่ 20 เมษายน 2024

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคขยายเวลางดจ่ายไฟฟ้า ผู้มียอดใช้ไม่เกิน 300 บาท/เดือน

People Unity News : 4 พฤศจิกายน 2566 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ดำเนินการตามนโยบายกระทรวงมหาดไทย ที่มีมาตรการให้ลดภาระและบรรเทาค่าใช้จ่ายในครัวเรือนแก่กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ยอดใช้ไม่เกิน 300 บาทต่อเดือน ยืดจ่าย 3 เดือน

PEA แจ้งว่าจะมีประชาชนที่จะได้ประโยชน์จากนโยบายนี้กว่า 6 ล้านราย โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ที่มียอดการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 บาทต่อเดือน 2. PEA ขยายระยะเวลาการงดจ่ายไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 3 บิลเดือน และ 3.ระยะเวลาตั้งแต่บิลค่าไฟฟ้าประจำเดือน พฤศจิกายน 2566 – พฤศจิกายน 2567

ทั้งนี้ ผู้ใช้ไฟฟ้าที่มียอดค้างชำระก่อนบิลเดือนพฤศจิกายน 2566 จะเป็นไปตามมาตรการเดิมของ PEA ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 1129 PEA Contact Center ตลอด 24 ชั่วโมง

Advertisement

สถานบันเทิงเตรียมยิ้ม มท.1 ชง ครม.เปิดตี 4 15 ธ.ค.นี้

People Unity News : 30 ตุลาคม 2566 มท.1 มอบนโยบายกรมการปกครอง ย้ำบำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชน จ่อออกกฎหมายคุมปืนระบุตัวตนเจ้าของทุกกระบอก ไม่เว้น จนท.รัฐ เตรียมชง ครม. เห็นชอบเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 ภายใน 15 ธ.ค.นี้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะตรวจเยี่ยมกรมการปกครองและหน่วยงานในสังกัด พร้อมมอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดกรมการปกครอง สังกัดกระทรวงมหาดไทย โดยมีผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ให้การต้อนรับ

ภายหลังเสร็จสิ้นการมอบนโยบาย นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ได้มามอบนโยบายให้กรมการปกครอง และรับฟังสรุปนโยบายของกรมการปกครอง โดยเน้นเรื่องการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข พี่น้องประชาชนให้คุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคนดีขึ้น เช่น การจัดระเบียบสังคม การปราบปรามผู้มีอิทธิพล การควบคุมอาวุธปืน การให้ความช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานในอิสราเอล ฯลฯ ตามนโยบาย 10 ข้อหลักของกระทรวงมหาดไทยที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้ และนโยบายของรัฐบาล

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำบัญชีรายชื่อปราบปรามผู้มีอิทธิพลว่า ขณะนี้กรมการปกครองมีการติดตามอย่างใกล้ชิด บุคคลแต่ละคนมีความเคลื่อนไหวที่เป็นภัยต่อสังคมหรือทำผิดกฎหมายอย่างไร ทางกระทรวงมหาดไทยทำงานเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลต่างๆ แก่สาธารณะได้ โดยติดตามและใช้กฎหมายควบคุมคนเหล่านี้ ไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน คนเหล่านี้มีจำนวนมาก เราต้องทำงานกับภาคส่วนต่างๆ เช่น ตำรวจ ทหาร ช่วยกันปราบปรามเพื่อให้สังคมเกิดความสงบ

ส่วนของความคืบหน้าเรื่องการควบคุมอาวุธปืนและสิ่งเทียมปืน นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้มีการขอให้ออกระเบียบ เก็บอาวุธปืนไว้ในที่ปลอดภัย เช่น สนามยิงปืนให้เก็บเอาไว้ในล็อกเกอร์ ผู้ที่อยากทดลองหรือซ้อมยิงปืนก็ให้ไปใช้ในสนามยิงปืน เอาออกมาไม่ได้ จะทำให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น และในส่วนของการระบุตัวเจ้าของอาวุธปืนนั้น จะมีการบันทึกรอยหัวกระสุนปืนเพื่อยืนยันตัวตนเจ้าของอาวุธปืน ทั้งบุคคลทั่วไปและเจ้าหน้าที่รัฐทุกกระบอก ขณะนี้กำลังจะมีการร่าง พ.ร.บ.เสนอให้คณะรัฐมนตรีและบรรจุเข้าสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

เมื่อถามถึงความคืบหน้านโยบายการอนุญาตให้เปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จะกำหนดโซนนิ่ง โดยจะเน้นในจังหวัดท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต กรุงเทพฯ เป็นต้น ขั้นตอนต่อมาจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในโซนที่กำหนดไว้ เรากำหนดเดดไลน์ไว้ หากทุกอย่างเรียบร้อย จะออกประกาศเป็นกฎกระทรวง และจะนำเสนอเข้าสู่คณะรัฐมนตรีภายในวันที่ 15 ธันวาคมนี้เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเทศกาลท่องเที่ยว

“ยืนยันว่ามาตรการทั้งหลาย ทำเพื่อผู้มีเจตนาไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะอนุญาตให้เปิดถึงกี่โมงก็แล้วแต่ ขอให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ไม่ทำผิดกฎหมาย จะเปิดถึงกี่โมงก็ไม่มีปัญหา สามารถเปลี่ยนปัญหาเป็นโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจ มีรายได้เพิ่มมากขึ้น หากมองในมิตินี้ก็ถือว่าเป็นประโยชน์” นายอนุทิน กล่าว

Advertisement

รัฐบาลเตือนเที่ยวคืนฮาโลวีนอย่างระมัดระวัง

People Unity News : 30 ตุลาคม 2566 ทำเนียบรัฐบาล – โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ห่วงใย ปชช.ทั้งใน ปท.และ ตปท. เที่ยวคืนฮาโลวีนอย่างระมัดระวัง มีสติ เลี่ยงสถานที่แออัด พลุกพล่าน

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นห่วงคนไทยทุกพื้นที่ ในช่วงการเฉลิมฉลองเทศกาลฮาโลวีน และขอให้หลีกเลี่ยงการเฉลิมฉลองในสถานที่แออัด ซึ่งคืนพรุ่งนี้ (31 ต.ค.) เป็นวันฮาโลวีน สถานบันเทิงจะจัดงานเฉลิมฉลอง หน่วยงานต่าง ๆ จึงมีมาตรการคำแนะนำป้องกัน ดูแลความปลอดภัยคนไทย  เช่น ตำรวจท่องเที่ยว ได้ออกคำแนะนำทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ให้กับนักท่องเที่ยว ดังนี้ 1. วางแผนการเดินทางล่วงหน้า เพื่อให้รู้ว่าจะเดินทางไปอยู่ตรงไหน จะได้รู้จักเส้นทางก่อน และควรดูพยากรณ์อากาศด้วย 2. หากเป็นสถานที่ปิด ควรดูทางออกฉุกเฉิน และควรมีเพื่อนไปด้วยอย่างน้อย 1 คน 3. หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด เพื่อป้องกันเรื่องการถูกล้วงกระเป๋าจากมิจฉาชีพ และการไปเบียดเสียดกับคนอื่น 4. ดื่มอย่างมีสติ อย่าทิ้งตัว และดื่มไม่ขับ 5. อย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ หรือมาตรการรักษาความปลอดภัยของสถานที่นั้น ๆ หากมีเหตุฉุกเฉิน สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน หมายเลข 1155 ตำรวจท่องเที่ยว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า สถานที่หลัก ๆ ที่มีคนจำนวนมากและมีความเป็นห่วงมากก็คือ ถนนข้าวสาร เพราะมีลักษณะของพื้นที่คล้ายกับอิแทวอน สาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุโศกนาฎกรรมเมื่อปีที่แล้ว  ขณะที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ได้ออกประกาศ เรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับคนไทยในสาธารณรัฐเกาหลี โดยขอให้คนไทยในสาธารณรัฐเกาหลีระมัดระวังการเข้าไปในสถานที่ที่คนพลุกพล่าน พยายามหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมเฉลิมฉลองในเทศกาล ฮาโลวีน ที่อาจจัดขึ้นในสถานที่ต่าง ๆของสาธารณรัฐเกาหลีในปีนี้

นายชัย กล่าวว่า หากจะเข้าร่วมงาน ก็ขอให้ระมัดระวังในการไปรวมตัวยังสถานที่ที่มีผู้คนแออัด หรือมีฝูงชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากที่อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นได้ เช่น การล้มทับกันของฝูงชนที่เบียดเสียดกัน ทั้งนี้ หากรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย ก็ขอให้รีบหาทางหลบออกมาจากสถานที่ดังกล่าวโดยเร็ว หากคนไทยต้องการความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายกงสุลของสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโซล เบอร์โทรศัพท์ +82 10-6747-0095 หรือ +82 10-3099-2955

“นายกรัฐมนตรี ห่วงใยคนไทยที่ต้องการเข้าร่วมช่วงการเฉลิมฉลอง ขอให้เที่ยวอย่างมีสติ เตรียมการเดินทาง เข้าร่วมกิจกรรม อย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงบริเวณแออัด พื้นที่คนพลุกพล่าน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุไม่คาดฝัน” นายชัย กล่าว

Advertisement

กทม.พร้อมขานรับนโยบายรัฐบาลเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4

People Unity News : 16 ตุลาคม 2566 กทม.พร้อมขานรับนโยบายรัฐบาล ขยายเวลาเปิด-ปิดสถานบันเทิง ในพื้นที่กรุงเทพฯ ถึงเวลา 04.00 น. เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความพร้อมในการขยายเวลาเปิด-ปิดสถานบันเทิง ถึงเวลา 04.00 น. ในพื้นที่กรุงเทพฯ ตามนโยบายของรัฐบาล ว่า กทม.ไม่ขัดข้องในนโยบายดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ได้หารือกับทางคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟพาวเวอร์แห่งชาติ เรื่อง Soft Power ที่เสนอความคิดร่วมกันที่จะทำให้เรื่องดังกล่าวชัดเจนและก็มีมาตรการรองรับในการป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งในปัจจุบันยังเห็นผับที่เปิดเกินเวลาอยู่บ้างถ้าทุกคนออกมาร่วมกันทำให้ถูกกฎหมายและทำให้มีระเบียบในการเข้า-ออกให้ชัดเจน ทางส่วนของกทม. ก็ไม่น่าจะมีข้อขัดข้องอันใดและคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า ในการปฏิบัติอาจจะต้องปรับปรุงการแบ่งโซน ให้เหมาะสมกับปัจจุบัน เนื่องจากไม่ค่อยทันสมัยตามการขับเคลื่อนของเมืองที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ โดยต้องหารือกับทางตำรวจอีกทางหนึ่ง เพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังสร้างความรำคาญให้ผู้อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียง โดยต้องมีกรอบในการปฏิบัติให้ชัดเจน รวมถึงในแง่ของการกำกับดูแลไม่ให้เยาวชนเข้าสถานบันเทิงและการทำผิดกฎหมายในเรื่องยาเสพติดในพื้นที่ ซึ่งเชื่อว่าหากทำให้โปร่งใสและมีระเบียบปฏิบัติชัดเจนย่อมดีกว่าการลักลอบเปิดแบบผิดกฎหมายแน่นอน นอกจากนี้ยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องในแง่เศรษฐกิจตรงนี้มากมาย เช่น พ่อค้า แม่ค้าในตลาดที่ขายของและทำอาหาร คนขับรถสาธารณะ เป็นต้น ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางด้วย จึงเป็นสิ่งที่ต้องวิเคราะห์ให้รอบด้านหลายมิติ โดยคาดว่าเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการทดลองเปิดสถานบันเทิงจนถึง 04.00 น. คือช่วงเทศกาลปีใหม่ประมาณเดือนธันวาคมนี้

Advertisement

‘อนุทิน’ เผย เปิดผับตี 4 ขอหาข้อมูลให้ชัดเจนก่อน จะไม่เปิดทั่วไป แต่จะทำเป็นโซน

People Unity News : 16 ตุลาคม 2566 ทำเนียบรัฐบาล – ‘อนุทิน’ เผย มหาดไทย เตรียมมาตรการดูแล ‘ความปลอดภัย-ความเรียบร้อย’ นทท. หลังมีนโยบายต่อวีซ่า 90 วันให้รัสเซีย ส่วนขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงต้องดูเป็นโซนไป

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการต่ออายุวีซ่านักท่องเที่ยวชาวรัสเซียระยะเวลา 90 วัน ว่า ทางกระทรวงมหาดไทยจะดูแลเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และต้องมั่นใจว่าเป็นนักท่องเที่ยวจริง ๆ ไม่ใช่อยู่เกินวีซ่ากำหนด

ส่วนเรื่องการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึง 04.00 น. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษา ยังบอกไม่ได้ว่าจะขยายเวลาไปถึงกี่โมง ต้องดูเป็นพื้นที่ ๆไป หากโซนไหนทำแล้วไม่เกิดผลกระทบกับพี่น้องประชาชน เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจต้องดูกันไป ทางกรมการปกครอง จังหวัดต่าง ๆ กำลังศึกษาอยู่ กระทรวงมหาดไทยก็เป็นส่วนหนึ่ง เมื่อรับนโยบายมาก็ต้องเตรียมข้อมูลไว้ให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา

“พื้นที่นำร่องในการเปิดสถานบันเทิงจะต้องเป็นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น ส่วนเวลาในการศึกษาข้อมูล คิดว่าไม่น่าใช้เวลานานมาก ให้สามารถอธิบายกับประชาชนได้ ไม่รู้สึกว่าทำไมตรงนี้ได้ ทำไมตรงนี้ไม่ได้ เราต้องมีเหตุผลที่จะอธิบายให้ชัดเจนได้ เรื่องนี้ต้องทำร่วมกับนโยบายรัฐบาลและกระทรวงท่องเที่ยวด้วย ส่วนประเด็นว่ามหาดไทยวางแผนไว้กี่จังหวัด เป็นเรื่องของรายละเอียด ต้องไปถามคนทำงาน เราให้แนวทางไปแล้ว” นายอนุทิน กล่าว

Advertisement

กินเจอย่างไร ให้สุขภาพดี ไม่กระทบโรคเรื้อรัง

People Unity News : 15 ตุลาคม 2566 แพทย์แนะผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) กินเจหากไม่ระวัง อาจทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายและอาจทำให้โรคที่เป็นอยู่รุนแรงขึ้นได้

นายแพทย์ภควัต ตั้งจาตุรนต์รัศมี แพทย์ทางด้านโภชนาการ โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า อาหารเจเป็นอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ซึ่งอาจรวมถึงไข่และนมด้วย เพราะฉะนั้นในช่วงเทศกาลกินเจ หลายคนจึงมักไปเน้นการกินผักและผลไม้เป็นหลัก

อย่างไรก็ตามอาหารเจส่วนใหญ่มักมีการประกอบอาหารด้วยการผัด ทอด และปรุงรสชาติที่เข้มข้น ซึ่งอาจเป็นอันตรายกับผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง, โรคไตวายเรื้อรังได้ ดังนั้น ผู้ป่วยกลุ่มโรคดังกล่าวควรกินเจอย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นปัจจัยทำให้โรครุนแรงขึ้น

คำแนะนำการกินเจสำหรับผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

-ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรเลือกกินอาหารเจที่มีไขมันต่ำ เช่น อาหารเจต้ม ผัด นึ่ง ย่าง หลีกเลี่ยงอาหารเจทอด

-ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรเลือกกินอาหารเจที่มีน้ำตาลต่ำ เช่น อาหารเจต้ม ผัด นึ่ง ย่าง หลีกเลี่ยงอาหารเจที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวานเจ น้ำหวานเจ

-ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคไตวายเรื้อรัง ควรเลือกกินอาหารเจที่มีโซเดียมต่ำ เช่น อาหารเจต้ม ผัด นึ่ง ย่าง หลีกเลี่ยงอาหารเจที่มีโซเดียมสูง เช่น อาหารเจสำเร็จรูป อาหารเจกระป๋อง

ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังควรได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างครบถ้วน เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินและแร่ธาตุ เพื่อส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว หากจำเป็นต้องกินเจ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือนักกำหนดอาหารเพื่อขอคำแนะนำในการกินเจที่เหมาะสมกับโรคของตัวเอง

Advertisement

การไฟฟ้านครหลวง เดินหน้าตามแผน สายไฟฟ้าใต้ดิน

People Unity News : 12 ตุลาคม 2566 ผู้ว่าการ MEA ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมภารกิจอุโมงค์สายส่งไฟฟ้าใต้ดิน Outgoing ชิดลม ย้ำลงทุนตามแผนให้มีระยะทางสายใต้ดินสะสมรวม 91.2 กิโลเมตร

นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมภารกิจการบำรุงรักษาอุโมงค์สายส่งไฟฟ้าใต้ดิน Outgoing ชิดลม ซึ่งเป็นอุโมงค์สายส่งไฟฟ้าใต้ดินขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2564 มีระบบไฟฟ้าแรงดัน 115/69 และ 24 กิโลโวลต์ (kV) อยู่ใต้ถนนชิดลม ถึงถนนสารสิน และถนนเพลินจิต (จากสี่แยกชิดลม ถึงสี่แยกเพลินจิต) เส้นผ่านศูนย์กลาง 3.6 เมตร ยาว 1.3 กิโลเมตร อยู่ลึกกว่า 35 เมตร มีการเชื่อมโยงกับอุโมงค์สายส่งไฟฟ้าใต้ดินเดิมที่มีขนาดแรงดัน 230 kV เชื่อมต่อระหว่างสถานีต้นทางบางกะปิ ถึงสถานีต้นทางชิดลม ยาว 7 กิโลเมตร อยู่ลึกกว่า 30 เมตร ลอดใต้แนวคลองแสนแสบ อุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน และอุโมงค์ระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร สร้างขึ้นเพื่อรองรับความต้องการการใช้ไฟฟ้าในย่านธุรกิจสำคัญใจกลางเมืองที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ช่วยสร้างความมั่นคงของระบบไฟฟ้า ลดปัญหาไฟฟ้าดับ ลดความเสี่ยงทางกายภาพที่อาจเกิดขึ้นกับสายไฟฟ้าแรงสูงบนพื้นดิน พร้อมทั้งสร้างภูมิทัศน์ที่สวยงามให้กับเมืองมหานครของประเทศไทย

ทั้งนี้ นอกจากการดำเนินโครงการนำสายไฟฟ้าแรงดันสูง 230 กิโลโวลต์ (kV) ลงใต้ดินแล้ว MEA ยังได้นำสายไฟฟ้าแรงดันสูงขนาด 12/24 กิโลโวลต์ (kV) รวมถึงแรงดันต่ำขนาด 220/380 โวลต์ (V) ลงใต้ดิน ภายใต้ชื่อโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน มีระยะทางดำเนินโครงการทั้งสิ้น 236.1 กิโลเมตร มีเป้าหมายก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปี 2570 โดยขณะนี้สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จรวม 62 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่สำคัญในถนนต่างๆ เช่น ถนนสีลม ถนนสุขุมวิท ถนนพหลโยธิน ถนนพญาไท ถนนพระราม 1 ถนนราชดำริ ถนนราชวิถี ถนนราชปรารภ ถนนศรีอยุธยา ถนนสวรรคโลก ถนนสาธุประดิษฐ์ และถนนสว่างอารมณ์ เป็นต้น ขณะเดียวกันมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 174.1 กิโลเมตร เช่น โครงการพระราม 3 โครงการรัชดาภิเษก และโครงการก่อสร้างตามแนวรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ โดย MEA คาดว่าภายในสิ้นปี 2566 จะมีระยะทางที่ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จเพิ่มขึ้นอีก 29.2 กิโลเมตร ทำให้มีระยะทางสายใต้ดินสะสมรวมทั้งสิ้น 91.2 กิโลเมตร

Advertisement

“อนุทิน“ สั่งถอนใบอนุญาตพกปืนออกนอกบ้าน

People Unity News : 11 ตุลาคม 2566 “อนุทิน“ ย้ำปราบผู้มีอิทธิพล รวมคนที่สร้างความแตกแยกในสังคมด้วย สั่งเพิกถอนใบอนุญาตพกปืนออกนอกบ้านแล้ว หากพบจับทันที

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการมอบนโยบายให้แก่กรมที่ดิน และกรมพัฒนาชุมชน ว่าวันนี้ตนและคณะมาตรวจเยี่ยม ได้มามอบนโยบายและรับฟังรายงานการดำเนินงานของกรมที่ดิน เราพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างในการให้บริการพี่น้องประชาชนของกรมที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด และได้กำชับให้การปกป้องคุ้มครองผู้ถือครองที่ดินที่บริสุทธิ์ ถูกต้องตามกฎหมายไม่ให้ถูกรังแก ไม่ให้ถูกเอาเปรียบจากผู้ทุจริต สิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงมหาดไทย ที่เราต้องทำให้เกิดความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชน

นายอนุทิน กล่าวถึงประเด็นการเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ให้เป็นโฉนดที่ดินตามที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า เบื้องต้นมีขั้นตอนทางราชการ ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย การดำเนินการจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว ส่วนของประเด็นการปราบปรามผู้มีอิทธิพล นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พูดมาหลายครั้งชัดเจนว่าการกระทำใดๆ ก็ตามที่ทำให้เกิดความไม่สงบ เกิดความไม่มั่นคง เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ หรือส่วนรวม ถือเป็นการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย

“เราต้องมีความเด็ดขาดในการใช้กฎหมาย เราลงพื้นที่ปราบปราม ป้องกัน ลดบทบาท ผู้มีอิทธิพล ตรวจค้นอาวุธปืน หรือเรื่องอื่นๆ เช่น พี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วม และครอบครัวของผู้ใช้แรงงานที่อิสราเอล กระทรวงมหาดไทยให้ความดูแลช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เราทำทุกอย่างเพื่อให้สังคมเกิดความสงบสุข มีความสามัคคีกันของคนในชาติ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

นายอนุทิน กล่าวถึงประเด็นการพกพาหรือครอบครองอาวุธปืนว่า ได้สั่งเพิกถอนใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนออกนอกเคหสถานสำหรับบุคคลทั่วไปแล้ว ต้องเก็บอย่างมิดชิด หากพบถือว่าผิดกฎหมาย จะถูกดำเนินคดีทันที ขณะเดียวกันกระทรวงมหาดไทยจะไม่ออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนสำหรับบุคคลทั่วไปอีกในช่วงนี้ โดยให้ถือเป็นนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการควบคุมเรื่องดังกล่าวด้วย

“ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ให้ออกตรวจตรา ตั้งจุดตรวจเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนให้มากที่สุด เพื่อที่ประชาชนจะได้ไม่มีข้ออ้างว่าจำเป็นต้องพกติดตัวไว้เพื่อความปลอดภัย และหากยังมีผู้ฝ่าฝืนจะร่างแก้ไขกฎหมายเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อให้กฎหมายที่ควบคุมเรื่องดังกล่าวมีความเข้มงวด เด็ดขาดมากขึ้น เพื่อให้ตัวเลขการก่อเหตุอาชญากรรมที่มีอาวุธปืนเข้ามาเกี่ยวข้องลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

Advertisement

เยาวราชจัดงานประเพณีงานเจ 14-23 ต.ค.นี้

People Unity News : 7 ตุลาคม 2566 ประเพณีงานเจ เยาวราช 2566 ชูแนวคิด “ใจบริสุทธิ์ สุขภาพดี มีมงคล” ชวนสืบสานงานบุญ สร้างกุศลครั้งใหญ่แห่งปี 14-23 ต.ค.นี้

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วยนายวัลลภ เกียรติวรศรีกุล ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ นายประสิทธิ์ องค์วัฒนา ประธานจัดงาน “ประเพณีงานเจ เยาวราช 2566” และประธานสภาวัฒนธรรมเขตสัมพันธวงศ์ และ พ.ต.อ.วุฒิชัย ไทยวัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ร่วมแถลงข่าว “ประเพณีงานเจ เยาวราช 2566” ณ โรงแรมแกรนด์ ไชน่า เยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ โดยมี นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายพินิจ กาญจนชูศักดิ์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตสัมพันธวงศ์ ผู้บริหารสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ผู้บริหารและผู้แทนหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนการจัดประเพณีงานเจ เยาวราช 2566 และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นเกียรติในงานแถลงข่าว

รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ทุกเทศกาลที่เป็นวัฒนธรรมนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นการส่งเสริมอัตลักษณ์และกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ สำหรับประเพณีงานเจ เยาวราช ก็ถือเป็นประเพณีประจำปีที่สำคัญ เพราะเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามที่เกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่ายเพื่อจัดเทศกาลงานบุญให้เกิดขึ้น ตลอดจนเป็นการส่งเสริมกิจกรรมของชุมชนให้เข้มแข็ง และยังเป็นการอนุรักษ์ความดีงามเหล่านี้ให้เยาวชนรุ่นหลังได้ร่วมกันสืบทอดต่อไป

“กรุงเทพมหานครมีนโยบายในการยกระดับสตรีทฟู้ดและผลักดันให้อาหารมีความสะอาดถูกหลักอนามัย ซึ่งงานเจปีนี้เราคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของสตรีทฟู้ดเยาวราชอย่างแน่นอน สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลา กำลังกาย กำลังใจ ช่วยกันจัดงานเจเยาวราชนี้ให้เกิดขึ้น” รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

ประธานจัดงานและประธานสภาวัฒนธรรมเขตสัมพันธวงศ์ เปิดเผยว่า งานเจ เยาวราช เป็นประเพณีสำคัญประจำปีที่เกิดจากแรงบันดาลใจและความศรัทธาของคนไทยเชื้อสายจีนในย่านเยาวราชที่ได้ร่วมสืบทอดกันมาหลายยุคหลายสมัย ด้วยการงดเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ สร้างกุศล เจริญศีลภาวนา แผ่เมตตาให้สรรพสิ่งทั้งปวง และสร้างเสริมสุขภาพ ถือเป็นวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามที่เกิดจากความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งพ่อค้า ประชาชน ชุมชน ผู้ประกอบการภัตตาคาร ร้านอาหาร และกลุ่มผู้ร่วมสนับสนุนการจัดงานเป็นประจำทุกปี กลายเป็นเอกลักษณ์ของเทศกาลงานเจในกรุงเทพฯ ที่มีผู้ถือศีลกินเจทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าร่วมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลเป็นจำนวนมาก

สำหรับ “ประเพณีงานเจ เยาวราช 2566” จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 14–23 ตุลาคม 2566 ณ บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ถนนเยาวราช ภายใต้แนวคิด “ใจบริสุทธิ์ สุขภาพดี มีมงคล” เพื่อให้ประชาชนได้สักการะและขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งเยาวราชที่อัญเชิญมาไว้ในมณฑลพิธี รักษาและดำรงไว้ซึ่งประเพณีถือศีลกินเจเยาวราชที่จัดขึ้นอย่างสมเกียรติและยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปี ตลอดจนเพื่อให้ประชาชนได้รับประทานอาหารเจที่สะอาด ถูกหลักอนามัยและปลอดภัย

Advertisement

มท.ออก 7 มาตรการเข้ม คุมอาวุธปืน-เทียมปืน คนมีบีบีกัน-แบลงค์กัน ต้องแจ้งนายทะเบียน

People Unity News : 5 ตุลาคม 2566 ทำเนียบรัฐบาล – “อนุทิน” ประชุมกำหนดมาตรการครอบครองอาวุธปืน ไม่อนุญาตสั่งนำเข้าปืน-สิ่งเทียมอาวุธปืนทุกชนิด พร้อมกระสุน คนมีบีบีกัน แบลงค์กัน ให้แจ้งนายทะเบียน สั่งผู้ว่าฯ งดออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน ห้ามเด็กต่ำ 20 ปีเข้าสนามยิงปืน เว้นนักกีฬายิงปืนทีมชาติ แต่ต้องฝากปืนไว้ที่สนามเท่านั้น ขอดีอีเอส ปราบเว็บขายปืนเถื่อน รายงานตรง มท.ทุก 15 วัน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุมพิจารณาแนวทางการออกใบอนุญาตพกปืนแก่บุคคลทั่วไปว่า จากการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ตำรวจ กรมศุลกากร กระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงสาธารณสุข ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการระยะสั้น ดังนี้

1.ให้นายทะเบียนอาวุธปืนทั่วประเทศ เช่น นายอำเภอในต่างจังหวัดและใน กทม.งดออกใบอนุญาตให้สั่งนำเข้าหรือค้าซึ่งสิ่งเทียมอาวุธปืนทุกชนิด ไม่เฉพาะปืน และไม่อนุญาตให้รายใหม่ขออนุญาตเป็นผู้ค้า สั่งนำเข้าสิ่งเทียมอาวุธปืนเพิ่ม

2.ขอให้ผู้ครอบครองแบลงค์กัน บีบีกัน หรือสิ่งเทียมอาวุธปืนที่อาจจะดัดแปลงเป็นอาวุธปืนได้ โดยให้นำแบลงค์กัน บีบีกัน หรือสิ่งเทียมอาวุธปืนของตนเองที่ครอบครองอยู่ไปแสดงและทำบันทึกต่อนายทะเบียนอาวุธปืนตามภูมิลำเนา ที่มีทะเบียนบ้านอยู่

3.ให้กรมศุลกากรตรวจสอบการนำเข้าสิ่งเทียมอาวุธปืน โดยเฉพาะแบลงค์กันและบีบีกัน ที่สามารถดัดแปลงเป็นอาวุธปืนให้เข้มงวด

4.ให้การกีฬาแห่งประเทศไทยที่กำกับดูแลสนามยิงปืนที่จดทะเบียนเป็นสมาคมกีฬาทั่วประเทศ ให้กวดขัน ตรวจสอบทั่วประเทศดังนี้ ห้ามผู้มีอายุไม่เกิน 20 ปี เข้าสนามยิงปืน ยกเว้นได้รับอนุญาตตามระเบียบการกีฬาแห่งประเทศไทย อาทิ นักกีฬายิงปืนทีมชาติ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ในสนามยิงปืน ต้องมีทะบียนถูกต้อง และต้องตรงตัวกับผู้ที่นำมาใช้บริการ ไม่สามารถไปยืมของใครมาใช้ได้ ห้ามนำกระสุนปืนออกนอกเขตสนามยิงปืนเป็นอันขาด ส่วนสนามยิงปืนในกำกับดูแลของส่วนราชการ ขอให้ดำเนินการกวดขันตรวจสอบให้ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการและข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด

“ต่อไปนี้จะบอกว่าเก็บปืนไว้ที่บ้าน แล้วพกมาสนามยิงปืนไม่ได้ ถ้าเป็นนักกีฬา หรือเป็นสโมสรใดก็ตาม ต้องฝากอาวุธปืนของตัวเองไว้ที่สนามยิงปืน โดยสนามต้องมีวิธีการรักษา ควบคุม เก็บรักษาให้ผู้มาใช้อาวุธดังกล่าว ขอย้ำว่า นำออกนอกสนามไม่ได้ จนกว่าจะพ้นจากการเป็นสมาชิกที่มาใช้งาน ก็จะต้องขออนุญาตเป็นรายครั้งในการพกพาอาวุธปืนไปที่ใด” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

5.ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศงดออกใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว

6.กระทรวงมหาดไทยไม่มีนโยบายดำเนินโครงการอาวุธปืนสวัสดิการให้กับประชาชนทั่วไป แต่สำหรับเจ้าพนักงานของรัฐที่มีความจำเป็นต้องใช้ในการป้องกัน ปราบปรามจะมีได้แค่คนละ 1 กระบอก แล้วห้ามโอนต่อ หากผู้ครอบครองเสียชีวิตก็ให้ตกเป็นของทายาทตามระเบียบ

7.ให้นายทะเบียนงดออกใบอนุญาตสั่งนำเข้าอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนของร้านค้าอาวุธปืนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ช่วงนี้ตนจะไม่อนุญาตให้มีการเปิดร้านค้าอาวุธปืนรายใหม่ เพื่อลดความวิตกกังวลของประชาชน และลดการเข้าถึงการครอบครองอาวุธปืนของประชาชนทั่วไปให้มากที่สุด

“คนที่พกปืนไป – มาผิดกฎหมายทั้งนั้น ประชาชนทั่วไปในประเทศนี้ ไม่สามารถแต่งตัวแล้วพกปืน ไม่สามารถเอาปืนพกเหน็บเอวแล้วไปไหนต่อไหนก็ได้ตามสะดวกแล้วอ้างว่าเพื่อป้องกันตัว เพราะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย การอนุญาตให้พก ไม่ได้อนุญาตให้ทำแบบนี้ คนที่มีใบอนุญาตครอบครอง หรือพกพาถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่คนทำผิด แต่คนที่ไปก่อเหตุ มีเรื่องมีราว คือพวกผิดกฎหมายทั้งนั้น เช่น ปืนไม่ใช่ของตัวเอง ปืนเถื่อน ซื้อมาจากแหล่งไหนก็ไม่รู้ เป็นคนที่ตั้งใจทำผิดกฎหมาย ตรงนี้ตำรวจเร่งดำเนินคดีในทุกกรณี ข้อกำหนดของเราที่ออกมา คือ ห้ามพกพาและห้ามซื้อใหม่ ใครมีก็เก็บเอาไว้ที่บ้าน และเก็บรักษาไว้ให้ดี โดยเฉพาะเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเอาไปใช้ เจ้าของปืนมีความผิดด้วย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า จะมาอ้างว่าต้องการพกอาวุธเพื่อป้องกันตัวไม่ได้ การอนุญาตให้คนพกพาอาวุธปืนได้ ก็เหมือนเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงดีอีเอส ปิดเว็บไซต์ เพจออนไลน์การซื้อขายอาวุธปืนเถื่อน และสิ่งเทียมอาวุธปืนดัดแปลงเป็นอาวุธปืน โดยให้รายงานผลการปฏิบัติงานให้กระทรวงมหาดไทยรับทราบทุกๆ 15 วัน การหารือในวันนี้พยายามที่จะใช้กฎหมายที่อยู่ในกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย เพื่อบังคับใช้อย่างเต็มที่ ส่วนอื่นที่นอกเหนือกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นของหน่วยงานอื่นๆ หากมีเรื่องใดที่จำเป็นที่จะมีข้อเสนอเข้ามา จะมีการแก้ไขกฎหมาย หรือตรากฎหมายใหม่ ก็เสนอมา แล้วจะนำเรื่องเรียนให้นายกรัฐมนตรีรับทราบและให้ความเห็นชอบเพื่อดำเนินการต่อไป โดยรัฐบาลและฝ่ายนิติบัญญัติคงต้องช่วยกันเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ทั้งนี้ ข้อกำหนดที่หารือกัน จะไปยกร่างเป็นหนังสือสั่งการเพื่อแจ้งให้ผู้ปฏิบัติรับทราบต่อไป ให้มีผลบังคับใช้ทันที

เมื่อถามย้ำว่า จะกวาดล้างการครอบครองปืนที่ถูก และไม่ถูกกฎหมายอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ปืนที่มีทะเบียนนั้นทราบอยู่แล้วว่าเป็นของใคร ส่วนปืนบีบีกัน และสิ่งเทียมอาวุธปืนให้มาขึ้นทะเบียนกับกรมการปกครองทุกกระบอก เมื่อขึ้นทะเบียนแล้ว อย่างน้อยก็จะรู้ว่าเป็นของใคร ถ้าเปลี่ยนมือแล้วไม่มาแจ้ง หากมีอะไรก็ต้องรับผิดชอบ และถ้าไม่มาขึ้นทะเบียน เมื่อมีการตรวจค้น ตรวจจับ หรือมีใครนำไปใช้ก็จะถูกจับกุมและมีโทษ ส่วนกรอบเวลาเปิดให้แจ้งครอบครองสิ่งเทียมอาวุธปืน เช่น 30 วัน 60 วัน หรือ 90 วัน อธิบดีกรมการปกครองจะไปพิจารณาและนำมาเสนอ ทั้งหมดนี้เป็นกรอบปฏิบัติ อาจจะมีเพิ่มเติมเข้ามาได้ ถ้าอยู่ในขอบเขตอำนาจของกรมการปกครองเราก็จะดำเนินการ

ด้าน นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับมาตรการระยะยาวคือ การแก้ไข พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 (1) ต้องมีเอกสารใบรับรองแพทย์ที่รับรองเรื่องสุขภาพจิต ภาวะทางจิตใจ ที่ผู้ขออนุญาตซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนต้องใช้ประกอบในการยื่นคำขอ (2) ความหมาย บทนิยาม ของคำว่า “สิ่งเทียมอาวุธปืน” ไม่ให้หมายความรวมถึงแบลงค์กัน บีบีกัน หรือสิ่งเทียมอาวุธปืนอื่น ที่สามารถดัดแปลงเป็นอาวุธปืนได้ง่าย (3) กำหนดให้ผู้ที่จะซื้อสิ่งเทียมอาวุธปืนที่สามารถดัดแปลงเป็นอาวุธปืนได้ ต้องยื่นคำขอต่อนายทะเบียนอาวุธปืน (4) ผู้ครอบครองอาวุธปืนทั่วประเทศทั้งรายเดิมที่มีอยู่แล้ว และรายใหม่ ที่อาจจะมีเพิ่มขึ้นจะต้องนำอาวุธปืน มายิงทดสอบเก็บข้อมูลหัวกระสุนทุกกระบอก ทุกราย (5) ให้ใบอนุญาตมีอาวุธปืนภายในวงเล็บ (ป.4) มีอายุของใบอนุญาต ซึ่งผู้ที่ได้รับใบอนุญาตไปแล้ว จะต้องนำอาวุธปืนมารายงานตัว กับนายทะเบียน ในทุก 5/10 ปีเพื่อพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตเช่นเดียวกันกับใบขับขี่รถยนต์

Advertisement

Verified by ExactMetrics