วันที่ 19 เมษายน 2024

สาธารณสุขเตือนประชาชนระวังโรคลมร้อนหรือฮีทสโตรก (Heat Stroke) ช่วงฤดูร้อน

People unity : กระทรวงสาธารณสุข  แนะนำประชาชนหลีกเลี่ยงทำกิจกรรมกลางแดดจัดเป็นเวลานาน ดื่มน้ำให้เพียงพอ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงที่อากาศร้อน ป้องกันโรคลมร้อนในช่วงฤดูร้อน

นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในปีนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าประเทศไทยจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าทุกๆปี ตามแนวโน้มของอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากร่างกายปรับสภาพไม่ทันต่ออุณหภูมิที่สูงขึ้นจะเกิดการเจ็บป่วยและเสียชีวิตได้ง่าย กลุ่มอาการที่เกิดขึ้นเป็นได้ตั้งแต่อาการเพียงเล็กน้อย เช่น ผื่น ผดแดด บวมแดด ตะคริวแดด การเกร็งจากแดด ส่วนอาการที่รุนแรงจนอาจเสียชีวิต ได้แก่ เพลียแดด โรคลมร้อนหรือฮีทสโตรก (Heat Stroke) ถือว่าเป็นภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน ไม่มีเหงื่อออก ตัวร้อนจัด ปวดศีรษะ ชีพจรเต้นเร็ว ความดันโลหิตลดลง และอาจเสียชีวิตได้ทันที

ในทุกๆปีจะมีผู้ป่วยโรคเหตุปัจจัยจากความร้อนเข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลเฉลี่ยปีละประมาณ 3,500 ราย ข้อมูลเฝ้าระวังการเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตเนื่องจากภาวะอากาศร้อน ของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ในช่วงฤดูร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม พ.ศ.2558-2560 มีผู้เสียชีวิตสูงสุดในปี 2559 จำนวน 60 ราย ซึ่งเป็นปีที่มีอากาศร้อนกว่าทุกปี สำหรับหน้าร้อนปี 2561 พบผู้เสียชีวิต 18 ราย เป็นชาย 17 ราย หญิง 1 ราย ส่วนใหญ่ร้อยละ 30 มีอาชีพรับจ้าง ร้อยละ 15 เป็นเกษตรกร โดยมีโรคประจำตัวเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ร้อยละ 27.8 มีพฤติกรรมเสี่ยงคือการดื่มสุราเป็นประจำร้อยละ 27.7 และเสียชีวิตสูงสุดในเดือนเมษายน

นายแพทย์สุขุมกล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนใส่ใจถึงสภาพแวดล้อม อุณหภูมิ ความชื้นรอบตัวที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละวัน  ไม่ออกกำลังกายหรือทำงานกลางแดดจัดเป็นเวลานาน  ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 8-10 แก้ว ไม่ปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำจนรู้สึกกระหายหรือริมฝีปากแห้ง สวมเสื้อผ้าเหมาะสมกับสภาพอากาศและระบายเหงื่อได้ดี สวมแว่นกันแดด กางร่ม ทาโลชั่นกันแดด SPF 15 ขึ้นไป ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงที่อากาศร้อน ดูแลเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้ป่วยเรื้อรังอย่างใกล้ชิด

หากพบผู้มีอาการสงสัยว่าเจ็บป่วยจากสภาวะอากาศร้อน ควรให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยรีบนำผู้ป่วยเข้าในที่ร่ม อากาศถ่ายเทได้สะดวก ให้ดื่มน้ำเย็น ให้นอนราบและยกเท้าทั้งสองข้างขึ้นสูง ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามหน้าผาก ซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ ร่วมกับใช้พัดลมเป่าช่วยระบายความร้อน เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกายให้ต่ำลงโดยเร็วที่สุด ถ้ามีอาการรุนแรง หมดสติ ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที หรือโทรสายด่วน 1669

สังคม : สาธารณสุขเตือนประชาชนระวังโรคลมร้อนหรือฮีทสโตรก (Heat Stroke) ช่วงฤดูร้อน

People unity : post 3 มีนาคม 2562 เวลา 12.00 น.

สธ.ส่งแพทย์จบใหม่เกือบ 1,000 คน กระจายทำงานในชนบทห่างไกล ดูแลสุขภาพประชาชน

People Unity : กระทรวงสาธารณสุขส่งแพทย์จบใหม่ เกือบ 1,000 คน กระจายทำงานในพื้นที่ชนบทห่างไกลทั่วประเทศตามภูมิลำเนา ดูแลสุขภาพประชาชน แก้ปัญหาการขาดแคลนแพทย์ รองรับการขยายบริการทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข

เมื่อวานนี้ (14 พฤษภาคม 2562) ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มอบสัมฤทธิบัตรบัณฑิตแพทย์โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท ประจำปีการศึกษา 2561 โดยมีบัณฑิตแพทย์ที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยคู่ความร่วมมือ จำนวน 14 แห่ง และศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก จำนวน 37 แห่ง เข้ารับสัมฤทธิบัตร จำนวนทั้งสิ้น 961 คน

 

นายแพทย์สุขุม กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการดำเนินโครงการผลิตแพทย์แพทย์เพื่อชาวชนบท แก้ไขปัญหาการขาดแคลนแพทย์ของประเทศใน 10 ปีข้างหน้า (พ.ศ.2561 – 2570) และการกระจายแพทย์ที่ไม่เหมาะสมในพื้นที่ชนบทที่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพื่อเติมเต็มในระบบบริการสุขภาพของไทย นำไปสู่ความเสมอภาคการบริการทางสังคม รองรับการขยายการให้บริการทางด้านการแพทย์และการสาธารณสุขของประเทศไทยโดยได้รับความร่วมมือจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยต่างๆ คัดเลือกเด็กนักเรียนในเขตพื้นที่ชนบท รับทุนกระทรวงสาธารณสุข ศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตระยะเวลา 6 ปี  เป้าหมายการรับนักศึกษา แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 (พ.ศ.2561-2564) จำนวน 4,784 คน และระยะที่ 2 (พ.ศ.2565 – 2570) จำนวน 7,798 คน รวม 12,582 คน

โดยนักศึกษาแพทย์ในโครงการฯนี้ ชั้นคลินิกปีที่ 1-3 เรียนที่คณะแพทยศาสตร์คู่ความร่วมมือ ส่วนชั้นคลินิกปีที่ 4-6 เรียนที่ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก ซึ่งอยู่ในโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ภายหลังสำเร็จการศึกษา บัณฑิตแพทย์ทุกคนมีพันธะสัญญาผูกพันทุนรัฐบาลต้องกลับไปปฏิบัติงานชดใช้ทุนในพื้นที่ภูมิลำเนา ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขส่วนภูมิภาค ตามเขตบริการสุขภาพ 12 แห่ง โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท ระยะเวลาการใช้ทุน 3 ปี ปัจจุบันมีแพทย์ในโครงการฯนี้อยู่ในระบบร้อยละ 77 ในขณะที่แพทย์ทั่วไปยังคงอยู่ในระบบร้อยละ 26 (ข้อมูลจากโครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบทปี 2560)

สำหรับในปี 2561 นี้ มีผู้สำเร็จการศึกษาจากโครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท จำนวนทั้งสิ้น 961 คน จะต้องกลับไปปฏิบัติงานในภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ ภาคเหนือ จำนวน 111 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 333 คน ภาคกลาง 197 คน ภาคตะวันออก 73 ภาคตะวันตกจำนวน 39 คน และภาคใต้จำนวน 208 คน ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มโครงการฯในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา มีบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาทั้งสิ้น 18 รุ่น จำนวน 8,923 คน และปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ 6 รุ่น

สังคม : สธ.ส่งแพทย์จบใหม่เกือบ 1,000 คน กระจายทำงานในชนบทห่างไกล ดูแลสุขภาพประชาชน

People Unity : post 15 พฤษภาคม 2562 เวลา 10.30 น.

BNK48 พร้อมเน็ตไอดอล น้องไธชิ เข้าทำเนียบพรุ่งนี้ พบ “ลุงตู่” โปรโมทสถานีวิทยุครอบครัว

People unity news online : วง BNK48 พร้อมเน็ตไอดอล น้องไธชิ เตรียมเข้าทำเนียบรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ (24 เม.ย.) พบนายกรัฐมนตรี เพื่อโปรโมทสถานีวิทยุสำหรับครอบครัวของกรมประชาสัมพันธ์

นางทัศนีย์ ผลชานิโก รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ 24 เม.ย. วงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง BNK48 พร้อมด้วยน้องไธชิ เน็ตไอดอลอายุ 4 ขวบ พร้อมด้วยครอบครัวแฟนคลับวิทยุเพื่อครอบครัว จะเดินทางเข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์สถานีวิทยุเพื่อครอบครัว “Happy Family Radio F.M.105 MHz. : วิทยุเพื่อครอบครัว” ของกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นวิทยุครอบครัวตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กรมประชาสัมพันธ์มีสถานีวิทยุสำหรับครอบครัวให้เหมาะกับทุกช่วงวัย โดยจะเน้นให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ กิจกรรมในวันที่ 24 เมษายนนี้ ศิลปิน BNK48 จะร่วมจัดรายการวิทยุ ปากซอย 105 น้องไธชิ และครอบครัวแฟนคลับจะร่วมจัดรายการ โฮม คิดซิ โดยทั้ง 2 รายการจะเชิญนายกรัฐมนตรีร่วมรายการตามรูปแบบรายการวิทยุที่เด็ก เยาวชนและครอบครัวต้องการอีกด้วย

สำหรับไอดอล BNK48 ที่เดินทางมาร่วมเปิดตัวสถานีวิทยุเพื่อครอบครัว นำทีมโดยน้องเฌอปราง จ๋า กระเต็น ไข่มุก มิวสิค เนย เปี่ยม และ ซัทจัง นอกจากนี้ยังมี น้องไธชิ เน็ตไอดอลอายุ 4 ขวบ พร้อมด้วยแฟนคลับรายการวิทยุ ได้แก่ น้องค๊อปตี้ น้องยูริ เวลา 08.00-09.00 น. ติดตามรับฟังรายงานสดในรายการ ปากซอย 105” และ “โฮม คิดซิ” ทางสถานีวิทยุ Happy Family Radio F.M.105 MHz. วิทยุเพื่อครอบครัว” และทาง Facebook Live “สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย,NBT2HD” Application “Happy Family Radio” และเครือข่ายทั่วประเทศ

People unity news online : post 23 เมษายน 2561 เวลา 11.10 น.

 

“ศรีสะเกษ” ไปให้แรงบันดาลใจนักมวยนักเรียนจากจังหวัดชายแดนใต้

People unity news online : พล.ต.พงษ์ศักดิ์ มาอินทร์ ฝ่ายอำนวยการ รองหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์) ได้นำนักเรียนกีฬามวย ซึ่งเป็นเยาวชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามโครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษา “โครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนใต้” ซึ่งเป็นนักเรียนในโครงการประเภทกีฬามวย 20 คน เข้าโครงการคลินิกมวยไทย-สากล หวังพัฒนาต่อยอดสู่ความเป็นเลิศทางด้านกีฬามวย เรียนรู้ทักษะชีวิต สร้างความรักความสามัคคี และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ระหว่างวันที่ 28 กันยายน-18 ตุลาคม 2560 ณ สนามฝึกซ้อมกีฬามวย กรมสวัสดิการทหารบก กรุงเทพมหานคร โดยได้รับเกียรติจากแชมป์โลก WBC ชื่อดังของโลก “ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น” มาให้กำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจให้มุ่งมั่นพัฒนาตนเองไปสู่ความเป็นเลิศ พร้อมทั้งมอบผลไม้ให้แก่นักเรียนในโครงการ เมื่อวันที่14 ตุลาคม 2560 เวลา 14.00 น.

“ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น” กล่าวว่า จากการที่ได้มาพูดคุยกับนักเรียนในวันนี้ น้องๆมีความมุ่งมั่นตั้งใจ และขยันฝึกซ้อมมากๆ เชื่อมั่นว่านักเรียนในโครงการจะเติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ และขอเป็นกำลังใจให้กับน้องๆนักเรียนในโครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกคนด้วย

ทั้งนี้ โครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนใต้ เป็นโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อสร้างโอกาสให้แก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีความสามารถด้านกีฬา ให้ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพในโรงเรียนของรัฐ จำนวน 8 โรงเรียน มีนักเรียนในโครงการทั้งหมด 908 คน ใน 10 ชนิดกีฬา ได้แก่ ฟุตบอล วอลเลย์บอล ฟุตซอล ตะกร้อ มวยไทย ปันจักสีลัต ฮอกกี้ กรีฑา เทควันโด และบาสเกตบอล

ทั้งนี้ นักเรียนสามารถเลือกเรียนในแผนการเรียนวิทย์-กีฬา หรือศิลป์-กีฬา โดยนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการสนับสนุนทุนการศึกษาจากรัฐบาลปีละ 40,000 บาท ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จนถึงปริญญาตรี และปีละ 55,000 บาท ในระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา

People unity news online : post 16 ตุลาคม 2560 เวลา 10.50 น.

ครม.เห็นชอบเปิด “หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา” (Anti-Corruption Education)

People unity news online : ครม.เห็นชอบ “หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา” (Anti-Corruption Education) ครอบคลุมทั้งระบบการศึกษา รวมถึงหลักสูตรฝึกอบรมบุคลากรในหน่วยงานภาครัฐ

พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2561 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ คือ เห็นชอบ “หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา” (Anti-Corruption Education)

พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ กล่าวในระหว่างการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 11/2561 ว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอ ดังนี้

1.เห็นชอบหลักการเกี่ยวกับหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำหลักสูตรดังกล่าวไปพิจารณาปรับใช้กับกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่ต้องนำหลักสูตรไปดำเนินการรับความเห็นของกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงาน ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษาไปพิจารณาดำเนินการต่อไป โดยให้ประสานงานกับสำนักงาน ป.ป.ช. อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้

สำหรับภาระงบประมาณที่อาจจะเกิดขึ้นซึ่งไม่ได้ตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีรองรับไว้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ไปดำเนินการในโอกาสแรกก่อน สำหรับปีงบประมาณต่อๆไปให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

2.ให้กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงาน ก.พ. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หารือร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อพิจารณานำหลักสูตรนี้ไปปรับใช้ในโครงการฝึกอบรมหลักสูตรข้าราชการ บุคลากรภาครัฐ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจที่บรรจุใหม่ รวมทั้งให้พิจารณากำหนดกลุ่มเป้าหมายของหลักสูตรโค้ชให้มีความชัดเจน โดยให้หมายความรวมถึงบุคลากรทางการศึกษา เช่น ครู อาจารย์ หรือผู้ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ทั้งในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานและหลักสูตรอุดมศึกษาด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้บุคลากรทางการศึกษาที่เข้ารับการอบรมหลักสูตรดังกล่าวสามารถนำไปใช้ในการถ่ายทอดความรู้หรือช่วยในการจัดการเรียนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งดำเนินการและรายงานผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินโครงการดังกล่าวให้คณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษาทราบเป็นระยะๆด้วย

สาระสำคัญ  สำนักงาน ป.ป.ช.รายงานว่าหลักสูตรต้านทุจริตศึกษามีวัตถุประสงค์ในการปลูกฝังและสร้างวัฒนธรรมต่อต้านการทุจริตให้สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งใดเป็นประโยชน์ส่วนตนสิ่งใดเป็นประโยชน์ส่วนรวม ยึดถือประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน มีจิตพอเพียงต้านทุจริต ละอายและเกรงกลัวที่จะไม่ทุจริตและไม่ทนต่อการทุจริตทุกรูปแบบผ่านสถาบันการศึกษา

ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องปลูกฝังตั้งแต่ระดับปฐมวัย ประถมศึกษา มัธยมศึกษา ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งอาชีวศึกษา การศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย และสถาบันการศึกษาอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น สถาบันการศึกษาในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร สถาบันการศึกษาในสังกัด ตช. สถาบันการศึกษาทางทหาร เป็นต้น ต่อเนื่องไปจนถึงระดับอุดมศึกษา เพื่อให้ครอบคลุมทั้งระบบการศึกษา นอกจากนี้ ยังรวมถึงหลักสูตรฝึกอบรมสำหรับบุคลากรของรัฐและพนักงานรัฐวิสาหกิจในหน่วยงานภาครัฐ

โดยแต่ละหลักสูตรประกอบด้วยเนื้อหา 4 ชุดวิชา ดังนี้

1.การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม ชุดวิชาดังกล่าวเน้นการแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืน โดยปรับเปลี่ยนระบบการคิดของคนในสังคมแยกแยะให้ได้ว่า “เรื่องใดเป็นประโยชน์ส่วนตน … เรื่องใดเป็นประโยชน์ส่วนรวม” โดยนำวิธีคิดแบบฐาน 10 (Analog thinking) และฐาน 2 (Digital thinking) มาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาการทุจริตอย่างยั่งยืน

2.ความละอายความไม่ทนต่อการทุจริต เป็นชุดวิชาเกี่ยวกับการสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต เป็นการปรับเปลี่ยนสภาพสังคมให้เกิดภาวะ “ที่ไม่ทนต่อการทุจริต” โดยเริ่มตั้งแต่กระบวนการกล่อมเกลาทางสังคมในทุกช่วงวัย เพื่อสร้างวัฒนธรรมต่อต้านการทุจริต และปลูกฝังความพอเพียง มีวินัย ซื่อสัตย์สุจริต ความเป็นพลเมืองดี มีจิตสาธารณะ ผ่านทางสถาบันหรือกลุ่มตัวแทนที่ทำหน้าที่ในการกล่อมเกลาทางสังคม เพื่อให้เด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ เกิดพฤติกรรมที่ละอายต่อการกระทำความผิด การไม่ยอมรับและต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ

3.STRONG: จิตพอเพียงต้านทุจริต เป็นชุดวิชาที่ประยุกต์หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ประกอบกับหลักการต่อต้านการทุจริตอื่นๆ เพื่อสร้างฐานคิดจิตพอเพียงต่อต้านการทุจริตให้เกิดขึ้นเป็นพื้นฐานความคิดของปัจเจกบุคคล โดยประยุกต์หลัก “STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต” ซึ่งคิดค้นโดยรองศาสตราจารย์ ดร.มาณี ไชยธีรานุวัฒศิริ ในปี 2560 มาเป็นแนวทางในการพัฒนาวัฒนธรรมหน่วยงาน

4.พลเมืองและความรับผิดชอบต่อสังคม พลเมืองศึกษาเป็นการจัดการศึกษาและประสบการณ์เรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เป็นพลเมืองดีของประเทศ มีความภูมิใจในความเป็นพลเมืองตนเอง มีสิทธิมีเสียง สนใจต่อส่วนรวม และมีส่วนร่วมในกิจการบ้านเมืองตามระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย หรือการเรียนรู้เกี่ยวกับรัฐบาล รัฐธรรมนูญ กฎหมาย ระบบการเมือง การปกครอง สิทธิและความรับผิดชอบของพลเมือง ระบบการบริหารจัดการสาธารณะและระบบตุลาการ

People unity news online : post 23 พฤษภาคม 2561 เวลา 11.00 น.

การเคหะแห่งชาติไม่ใช่ผู้ประกอบการขายบ้านในโบชัวร์

People unity : ผมอยากจะพูดไปยังการเคหะแห่งชาติ และผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ นายธัชพล กาญจนกูล ให้กลับไปดูโครงการที่อยู่อาศัยโครงการใหม่ต่างๆของการเคหะฯที่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดในยุคนี้ และกำลังเสนอขายให้แก่พี่น้องประชาชน โดยให้คำนึงถึงความเสียหายและความรู้สึกของประชาชนให้มากๆ รวมทั้งเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของการเคหะฯไม่ให้เกิดความเสียหายด้วย

ในฐานะที่ผมเคยเข้าไปช่วยให้คำปรึกษาแก่ผู้ว่าการในฐานะที่ปรึกษาส่วนตัว และในฐานะคณะทำงานคณะหนึ่งที่ผู้ว่าการการเคหะฯแต่งตั้งขึ้น ซึ่งผมคิดว่าได้ให้คำปรึกษาและช่วยประสานงานที่เป็นประโยชน์แก่การเคหะฯและเป็นประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนไปไม่น้อย ผมจึงไม่อยากเห็นการเคหะฯเกิดความเสียหายขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่การเคหะฯเคยเกิดความเสียหายอย่างหนักมาแล้วจากโครงการบ้านเอื้ออาทร

ผมจะไม่พูดเป็นการส่วนตัวไปยังผู้ว่าการ ทั้งที่สามารถทำได้ แต่ขอพูดเสนอความเห็นผ่านสาธารณะ เพราะเห็นว่าสิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้ อาจมีบางคนในการเคหะฯทัดทานหรือไม่เห็นด้วย หรืออาจไปขัดผลประโยชน์ของใคร ซึ่งอาจทำให้ผู้ว่าการต้องเจอกับแรงกดดัน ผมเห็นว่ามีแต่การพูดผ่านสาธารณะเท่านั้นที่จะทำให้เกิดการรับฟังเหตุผลของผมได้

สิ่งที่ผมจะพูด คือ โครงการที่อยู่อาศัยโครงการใหม่ๆที่การเคหะฯเปิดการขายเปิดให้จองแก่พี่น้องประชาชนผู้มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง ซึ่งขณะนี้มีมากมายหลายโครงการทั่วประเทศ จะต้องไม่นำโครงการที่ยังติดปัญหาอุปสรรคในการก่อสร้างโครงการ ออกมาขายหรือออกมาให้ประชาชนจอง โดยทุกโครงการที่เปิดให้ประชาชนจองต้องสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ทันที และต้องสามารถทำได้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนดหรือใกล้เคียงกำหนด กล่าวคือ ต้องมีความพร้อมแล้วทุกด้านที่จะดำเนินการก่อสร้างโครงการก่อนที่จะเปิดขายเปิดจองให้แก่ประชาชน ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการด้านที่อยู่อาศัยของประชาชนผู้มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง ซึ่งมีความเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัย และหวังพึ่งพิงและมีความไว้วางใจการเคหะฯในฐานะหน่วยงานของรัฐที่จะจัดสร้างที่อยู่อาศัยราคาเหมาะสมให้

เหตุผลที่ผมต้องพูดอย่างนี้ก็เพราะปรากฏว่า มีโครงการบางโครงการของการเคหะฯในขณะนี้ที่เปิดให้ประชาชนจอง ทำสัญญารับจองกับประชาชนไปแล้ว มีการเก็บเงินจองจากประชาชนไปทุกเดือนแล้วเป็นปีๆ แต่ยังไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างโครงการได้แม้แต่น้อย หรือกว่าจะดำเนินการก่อสร้างโครงการได้ก็จะเลยเวลาตามกำหนดไปนานมาก หรืออาจจะมีบางโครงการล้มเลิกโครงการไปแบบเงียบๆก็เป็นได้ในอนาคต เพราะการเคหะฯติดขัดปัญหาอุปสรรคในการก่อสร้างโครงการ

บางโครงการมีปัญหาอุปสรรคในการก่อสร้างโครงการตั้งแต่เริ่มเปิดโครงการและเปิดให้ประชาชนจอง การเคหะฯก็รู้ปัญหา แต่ยังเปิดให้ประชาชนจอง โดยคาดว่าจะสามารถไปแก้ปัญหาเอาในภายหลังได้ ประชาชนไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าการเคหะฯมีปัญหา อุปสรรค จึงพากันเข้ามาจองจำนวนมากด้วยความเชื่อถือการเคหะฯ แต่การก่อสร้างโครงการก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้ตามกำหนด เลื่อนมาตลอด

ธัชพล กาญจนกูล

ประชาชนที่จองไว้ได้แต่รอ โดยไม่มีความแน่ชัดว่าโครงการจะเริ่มก่อสร้างได้เมื่อใด บ้านหรือที่อยู่อาศัยที่หวังว่าจะได้อยู่ตามกำหนดก็ไม่ได้อยู่ ประสบความเดือดร้อน ขณะที่รอก็ต้องจ่ายเงินค่างวดตามสัญญาให้การเคหะฯ หากผิดสัญญาเดือนไหนไม่จ่ายหรือจ่ายช้า เพราะเห็นว่าโครงการไม่คืบหน้า ก็จะถูกการเคหะฯคิดค่าปรับ ทั้งที่การเคหะฯควรเป็นผู้จ่ายค่าปรับความล่าช้าของโครงการให้แก่ประชาชน หรือไม่ก็ควรสั่งหยุดรับเงินจองรายเดือนไว้ก่อน หรือประกาศคืนเงินจองให้ประชาชน เพื่อความเป็นธรรมแก่ประชาชน และเพื่อให้ประชาชนนำเงินไปจัดหาซื้อที่อยู่อาศัยโครงการอื่น

เหตุการณ์แบบนี้ คล้ายกับในอดีตที่เคยเกิดขึ้นกับโครงการที่อยู่อาศัยของเอกชนยุคหนึ่ง ที่เปิดขายโครงการกระดาษหรือโครงการในโบชัวร์ แล้วเปิดให้ประชาชนจอง เสร็จแล้วก็เก็บเงินทำสัญญาและเงินจองรายเดือนจากประชาชนไป ในที่สุดโครงการก็ล้ม สร้างไม่ได้ ผู้ประกอบหนีหายไป ประชาชนสูญเงิน ฟ้องกันไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งเดี๋ยวนี้โครงการของเอกชนแทบไม่มีลักษณะนี้แล้ว เพราะส่วนใหญ่มักจะสร้างแล้วเสร็จ พร้อมกับขายไปด้วย หรือหากเป็นโครงการที่ยังสร้างไม่เสร็จ ก็ต้องเป็นโครงการของบริษัทใหญ่ที่ประชาชนเชื่อถือเท่านั้น จึงจะมีคนจอง

การเคหะฯเป็นหน่วยงานของรัฐ ไม่ล้ม ไม่หนีหายไปไหนเหมือนเอกชนพวกนั้น ประชาชนเชื่อถือไว้วางใจ มีงบประมาณทำโครงการ มีความพร้อมทุกด้านในการทำโครงการเพื่อพี่น้องประชาชน อย่างเดียวที่เหลือคือ การเคหะฯจะต้องทำโครงการด้วยความรับผิดชอบต่อประชาชน ตอบสนองความต้องการของประชาชน สำคัญกว่าสิ่งใด โดยเฉพาะประชาชนผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ซึ่งต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพราะหวังจะอยู่อาศัย และเงินทุกบาททุกสตางค์ของประชาชนในการซื้อที่อยู่อาศัยมีค่ามาก การทำให้โครงการที่การเคหะฯเปิดขาย ก่อสร้างได้แล้วเสร็จตามกำหนด หรือยิ่งเสร็จเร็วกว่ากำหนด จะเป็นประโยชน์และผลดีสูงสุดแก่ประชาชนที่ต้องการที่อยู่อาศัย รวมทั้งจะต้องทำให้โครงการมีความเพรียบพร้อมสะดวกสบายมากที่สุดมอบให้แก่ประชาชนด้วย นั่นคือภารกิจและความรับผิดชอบสูงสุดของการเคหะฯ

การเคหะฯจะไปทำการตลาดเยี่ยงอย่างผู้ประกอบการเอกชนประเภทขายโครงการในโบชัวร์แบบในอดีตไม่ได้เด็ดขาด เพราะการเคหะฯเป็นหน่วยงานของรัฐ และมีต้นทุนสูงในด้านความเชื่อถือไว้วางใจจากประชาชน โครงการของการเคหะฯที่เปิดขาย จึงต้องผ่านการพิจารณาแล้วว่าทำได้จริง และไม่มีปัญหาใดๆ

หรือการเคหะฯจะรีบผุดโครงการจำนวนมากขึ้นมา แล้วเปิดการขายโครงการ (แม้ว่าบางโครงการจะยังมีปัญหาอุปสรรคในการก่อสร้าง) ซึ่งก่อให้เกิดยอดจองและตัวเลขเงินจองไปสร้างผลประกอบการในเชิงรายได้ที่ดีขึ้นให้แก่การเคหะฯ ก็ถือว่าการเคหะฯกำลังให้ความสำคัญกับผลประกอบการทางธุรกิจมากกว่าความรับผิดชอบต่อประชาชน

หรือหากการเคหะฯเร่งผุดโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนมากมายหลายโครงการขึ้นทั่วประเทศในขณะนี้ เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในด้านการจัดหาที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชน การเคหะฯก็มีหน้าที่จะต้องเร่งรัดการจัดสร้างที่อยู่อาศัยในทุกโครงการของการเคหะฯให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด และที่สำคัญจะต้องผ่านการพิจารณาเป็นอย่างดีแล้วว่า โครงการที่ผุดขึ้นอยู่ในพื้นที่และทำเลรวมทั้งมีรูปแบบบ้านและราคาที่เหมาะสมตรงกับความต้องการของประชาชนมากที่สุด เพื่อให้โครงการขายได้ หาไม่แล้วโครงการก็อาจเหลือจำนวนมาก เพราะไม่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนดังเช่นโครงการเอื้ออาทรในอดีต

โดย : พูลเดช กรรณิการ์ อดีตที่ปรึกษาและวิทยากรในคณะทำงานด้านเสริมสร้างพันธมิตร การเคหะแห่งชาติ 21 มกราคม 2562

สังคม : การเคหะแห่งชาติไม่ใช่ผู้ประกอบการขายบ้านในโบชัวร์

People unity : post 21 มกราคม 2562 เวลา 03.10 น.

แจกฟรี!…”ท้าวเวสสุวรรณ” งานบุญทอดกฐิน หลวงพ่อณะโอ่งประจวบคีรีขันธ์

People Unity : แจกฟรี!…”ท้าวเวสสุวรรณ” งานบุญทอดกฐิน หลวงพ่อณะโอ่ง วันที่ 26 – 27 ตุลาฯ 62 @ สำนักปฏิบัติธรรมบ้านยุบพริกต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์

สำนักปฏิบัติธรรมบ้านยุบพริก ตั้งอยู่ ม.11 บ้านยุบพริก ต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีอาจารย์ปุณณะ อนิญชิโต หรือ หลวงพ่อณะโอ่ง เป็นเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้มากกว่า 20 ปี หลวงพ่อณะโอ่งได้มาจำพรรษาอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมบ้านยุบพริก เพื่อต้องการความเงียบสงบและปฏิบัติธรรม ท่านมีความเชี่ยวชาญในการอ่านเขียนอักขระขอมโบราณ และภาษาบาลี ได้เริ่มเขียนอักขระบนวัตถุมงคลเมื่อประมาณ 20 ปี ที่ผ่านมา โดยเฉพาะช้อนเงินช้อนทอง ที่ผ่านมาได้จารอักขระบนช้อนเงิน (สเตนเลส) จำนวนหลายพันคัน

นอกจากนี้ยังจารอักขระและเขียนรูปไก่บนช้อนทอง (ทองเหลือง) ซึ่งมีเพียง 50 คัน หลวงพ่อโอ่งให้เหตุผลว่า “ที่เขียนไก่ เพราะเป็นสัตว์ที่ขยัน ต้องหากินตลอดเวลา จึงเป็นเครื่องเตือนสติแก่ผู้ได้รับว่า ต้องเป็นผู้ซื่อสัตย์ ประกอบสัมมาอาชีพ และขยันทำกิน”

สิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากพระรูปอื่นๆ คือหลวงพ่อณะโอ่งไม่นิยมแจกวัตถุมงคลพร่ำเพรื่อ ท่านจะแจกให้คนสนิทใกล้ชิด หรือพระที่ปฏิบัติธรรม เพื่อนำไปเป็นทุนในการบำรุงพระศาสนา บางรายเดินทางมาไกลหลายร้อยกิโลเมตรเพื่อวัตถุมงคล ไม่ได้กลับไปก็มีด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม วันที่ 26 – 27 ตุลาฯ 62 ขอญเชิญร่วม บุญทอดกฐิน กับหลวงพ่อณะโอง แห่งสำนักปฏิบัติธรรมบ้านยุบพริก ต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์

ผู้ที่มาร่วมงานแจก “ท้าวเวสสุวรรณ” ทุกท่าน ปลุกเสกวันที่ 19 ตุลาคม 2562 อีกทั้งยังมี ตะกรุด ลูกสะกด ปรกจ้อย จระเข้และปลัดขิก โดยได้รับแจกอย่างใดอย่างหนึ่ง้ท่านั้น ผู้ที่เป็นกรรมการพิเศษจะได้ทั้งหมด 6 อย่าง

แพทย์เตือนโรคเอ็มเอสแขนขาอ่อนแรงภัยเงียบใหม่วัยทำงาน

People Unity : กรมการแพทย์ โดยสถาบันประสาทวิทยา เตือนคนวัยทำงานหรือวัยหนุ่มสาว ระวังภัยโรคเอ็มเอส ทำให้แขนขาอ่อนแรง ชาตามบริเวณต่างๆ ของร่างกาย มีปัญหาในการเดิน การทรงตัว ตามัวมองไม่เห็น

วันที่ 24 ตุลาคม 2562 นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคมัลติเพิลสเคอโรสิส หรือโรคเอ็มเอส คือโรคที่เกิดจากการอักเสบของปลอกหุ้มเส้นประสาทในสมองและไขสันหลัง สาเหตุของการเกิดโรคยังไม่แน่ชัด จากข้อมูลพบว่าเกิดจากปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน เช่น ความไม่สมดุลของภูมิคุ้มกัน การติดเชื้อไวรัสบางชนิด โรคนี้พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายและในช่วงวัยทำงาน อายุเฉลี่ยประมาณ 20-40 ปี โดยผู้ป่วยจะมีอาการกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง ตามองไม่เห็นหรือมองภาพซ้อน ปัญหาเกี่ยวกับการกลืน การออกเสียง สะอึก ปวดแสบร้อน หรือคล้ายไฟช็อต การทรงตัวที่ผิดปกติ ภาวะเมื่อยล้า ปัญหาด้านความจำ อารมณ์ ความคิด และการควบคุมการขับถ่ายอุจจาระและปัสสาวะ เป็นต้น

แพทย์หญิงทัศนีย์ ตันติฤทธิ์ศักดิ์ รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ สถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคเอ็มเอส ไม่ใช่โรคติดต่อ ผู้ป่วยแต่ละคนจะแสดงอาการแตกต่างกัน บางคนเป็นหนัก บางคนแสดงอาการเป็นครั้งคราว และไม่สามารถคาดเดา การเกิดอาการได้จึงส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก วิธีการรักษาปัจจุบันยังไม่มีการรักษาแบบให้หายขาด แต่เป็นการรักษาเพื่อฟื้นฟูร่างกายและควบคุมอาการไม่ให้แย่ลง โดยแบ่งออกเป็น 2 วิธีคือ1. รักษาด้วยยา ตามอาการของผู้ป่วย จะเป็นยาที่บรรเทาอาการอักเสบ ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้ปวด เป็นต้น 2. การบำบัด โดยยึดเส้นและออกกำลังกายเพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรงลดการสั่น และเพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัว โดยออกกำลังกายที่ไม่หนักมาก รวมทั้งยังเป็นการช่วยยืดเส้นอีกด้วย ผู้ป่วยเป็นโรคเอ็มเอสควรปฏิบัติตัวดังนี้ งดสูบบุหรี่ ลดการดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น เดิน ว่ายน้ำ ยืดกล้ามเนื้อ เป็นต้น รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รับประทานผักผลไม้ที่มีเส้นใยช่วยในการขับถ่าย หลีกเลี่ยงความเครียด อย่างไรก็ตามโรคเอ็มเอส เป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ควรหมั่นสังเกตร่างกายของตนเอง หากมีความผิดปกติเกิดขึ้น ควรรีบมาพบแพทย์ทันที เพื่อจะได้รีบรักษาได้อย่างทันท่วงที

สธ.ห่วง “ตูน” ส่งทีมแพทย์ รถพยาบาลติดตามตลอดเส้นทาง

People unity news online : เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2560 ที่กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีที่สังคมออนไลน์สงสัยว่า เงินที่ร่วมบริจาคโครงการก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 รพ.ทั่วประเทศ ให้กับ คุณอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม เป็นเงินงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขนั้น ขอเรียนว่า เงินทั้งหมดเป็นเงินที่มาจากการบริจาคเงินส่วนตัวของบุคลากรชาวสาธารณสุขที่ชื่นชมและขอบคุณคุณตูน ต้องการมีส่วนร่วมในโครงการนี้ด้วย เช่นเดียวกับประชาชนทั้งประเทศ และจากกิจกรรมที่หน่วยงานสาธารณสุขจัดขึ้น เช่น การประมูลเสื้อ หมวก รวมกันนำไปมอบให้คุณตูน

แพทย์หญิงพรรณพิมลกล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขขอส่งกำลังใจให้คุณตูนมีสุขภาพแข็งแรง และทำตามปณิธานที่ตั้งไว้ให้สำเร็จ ในส่วนกระทรวงสาธารณสุขนั้นได้จัดทีมแพทย์ เจ้าหน้าที่ และรถพยาบาล ตามไปกับขบวนวิ่งคุณตูนตลอดเส้นทาง แม้ว่าทีมงานจะมีการเตรียมพร้อมมาอย่างดีแล้วก็ตาม ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยังคงมีความห่วงใยสุขภาพคุณตูน ที่วิ่งหนักมากและหาวันพักได้ยาก ต้องดูแลตัวเองให้ดี รู้สภาพร่างกายของตัวเอง อย่าฝืน เพราะคุณตูนยังมีชีวิตที่สามารถทำสิ่งดีๆ เพื่อประเทศและประชาชนได้อีกมาก การดูแลสุขภาพตนเองเป็นเรื่องที่สำคัญ

People unity news online : post 8 ธันวาคม 2560 เวลา 02.20 น.

สุดยอดเกียรติยศตำรวจไทย

People unity news online :  วันนี้ (29 มีนาคม 2560) พล.ต.ต.สุภธัช คำดี รอง ผบช.สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (บร.) อดีตรองจเรตำรวจ หน.ชุดสอบสวนตรวจสอบระบบงานของหน่วยงานภาครัฐ ได้รับเกียรติเข้ารับรางวัลสุดยอดเกียรติยศตำรวจไทย สาขาสอบสวน จัดโดย สมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่สร้างผลงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ

People unity news online : post 29 มีนาคม 2560 เวลา 23.58 น.

Verified by ExactMetrics