วันที่ 20 เมษายน 2024

ลอกสติกเกอร์อนาคตใหม่เขียนประตูห้องสภาฯออกแล้ว

People Unity News : “ดร.อิสระ”ส.ส.ปชป.ลูกหม้อ ประธานชวน เผยเหตุ จนท.ลอกสติกเกอร์อนาคตใหม่ออกเพื่อเป็นบรรทัดฐานเหมือนกันทุกพรรค แนะควรทำที่ทำการพรรคตัวเองไม่ใช่สถานที่ราชการ

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 กรณีเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ลอกสติกเกอร์ขนาดใหญ่ที่ติดอยู่หน้าห้องพีกพรรคอนาคตใหม่ ชั้น3 อาคารรัฐสภาออกไปจากหน้าห้อง ซึ่งเป็นสติกเกอร์ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้เซ็นลายเซ็นบนสติกเกอร์ พร้อมด้วยข้อความที่ส.ส.อนาคตใหม่พากันเขียนข้อความให้กำลังใจนายธนาธร ก่อนที่นายธนาธรจะเดินทางไปฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่25พย.ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนี้ว่า เป็นการดำเนินการให้เกิดความเรียบร้อยภายหลังจากที่สำนักเลขาฯได้ปรึกษาหารือกับประธานสภาฯ แล้ว ซึ่งเชื่อว่าเจ้าหน้าที่เคารพ ส.ส.ทุกคนและทุกพรรคการเมืองเนื่องจากเป็นผู้เเทนที่ชาวบ้านเลือกมาเหมือนๆกัน แต่กรณีนี้ตนเห็นว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ เเม้จะเป็นของพรรคอื่นที่ไม่ใช่พรรคอนาคตใหม่ ก็จำเป็นจะต้องแก้ไขให้ถูกต้องเพราะรัฐสภาเป็นสถานที่อันทรงเกียรติ และสถานที่ราชการ ไม่สามารถให้ขีดเขียนตามอำเภอใจ ควรจะมีสำนึกเคารพระเบียบของสถานที่นั้นๆ โดยเฉพาะในสถานที่ราชการ

นายอิสระ กล่าวว่า เดิมที ห้องที่ให้พรรคการเมืองใช้ จะมีเพียงการพิมพ์ชื่อพรรคใส่กระดาษขาวปิดไว้หน้าห้อง แม้กระทั่งห้องทำงานประธานรัฐสภาก็เช่นกัน เนื่องจากเป็นเพียงสถานที่ชั่วคราว เป็นส่วนการใช้งานในอนาคตของวุฒิสภา ที่ส.ส.เรายืมเขามาใช้ก่อน ประธานรัฐสภาจึงมีข้อสั่งการให้ใช้พื้นที่อย่างให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด และหลีกเลี่ยงการติดตั้งสิ่งใดเป็นการถาวร ทั้งนี้ เมื่อมีการจัดสรรห้องพรรคการเมืองแล้ว แต่ละพรรคได้สั่งทำสติกเกอร์ตราสัญลักษณ์พรรคตนเองมาปิดไว้ที่ประตู เพื่อความสวยงาม ความเป็นส่วนตัว และเป็นการแสดงชื่อพรรค ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ก็ให้มีการติดได้โดยอนุโลม แต่การเขียนและแสดงสัญลักษณ์ทางการเมืองบนสติกเกอร์ดังกล่าว แม้ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสมบัติของทางราชการ แต่ควรทำ ณ ที่ทำการพรรคตนเอง ไม่สมควรกระทำในสถานที่ราชการ และหากให้กระทำได้ย่อมเป็นบรรทัดฐานให้แก่พรรคอื่น สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ในฐานะส่วนราชการรับผิดชอบดูแลสถานที่ดังกล่าว จึงต้องดำเนินการแก้ไขให้เหมาะสม

ด่วน!! ศาล รธน.ชี้ขาด กม.ลูกพรรคการเมืองพรุ่งนี้

People Unity News : 22 พฤศจิกายน 2565 ศาลรัฐธรรมนูญ นัดลงมติร่างกฎหมายลูกพรรคการเมืองขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่พรุ่งนี้ ชี้เป็นปัญหาทางข้อกฎหมาย มีพยานหลักฐานเพียงพอวินิจฉัยได้ ยุติไต่สวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวันพรุ่งนี้ (23 พ.ย.) เวลา 09.30 น. องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติกรณีที่ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จำนวน 77 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 132 ว่าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่.. ) พ.ศ. … มาตรา 3 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 9  และมาตรา 10 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 มาตรา 83 มาตรา 86 มาตรา 90 มาตรา 91 และมาตรา 258 ก.ด้านการเมือง (2) หรือไม่ หรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่

ทั้งนี้ คำร้องดังกล่าว ประธานรัฐสภาส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเมื่อวันที่  29 สิงหาคมที่ผ่านมา และศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา พร้อมมีคำสั่งแจ้งผู้ร้อง และให้ผู้เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นเป็นหนังสือ พร้อมส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่า คดีเป็นปัญหาทางข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง และกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติพรุ่งนี้

Advertisement

พล.อ.ประวิตร เรียกประชุม คกก.บริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ

People Unity News : พล.อ.ประวิตร เรียกประชุม คกก.บริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เน้นผลสัมฤทธิ์ โปร่งใส สร้างนักกีฬาคุณภาพระดับชาติและนานาชาติ

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รอง นรม.เปิดเผยว่า วันนี้ เวลา10.00น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ บริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 6/ 2562 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ที่ประชุมได้มีการหารือแนวทางการส่งเสริม และสนับสนุนการพัฒนากีฬา และบุคลากรกีฬา รวมไปถึงการกำกับ ติดตามผลการดำเนินงานด้านต่างๆโดยคณะกรรมการฯ และมีคณะอนุกรรมการกลั่นกรองงาน แผนงานเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของกองทุน ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของกองทุนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

คณะกรรมการฯได้รับทราบการรายงานผลการดำเนินงานทางการเงินของกองทุน และได้ให้ความเห็นชอบ ปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์งบประมาณบางประการเพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายและไม่ให้เกิดปัญหากรณีตีความทางกฎหมาย อาทิ รายการค่าเบี้ยเลี้ยงการเก็บตัวฝึกซ้อมนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ รวมทั้งรายการค่าอาหารในต่างประเทศและค่าใช้จ่ายในการโฆษณาประชาสัมพันธ์การแข่งขันกีฬาภายในประเทศ เป็นต้น นอกจากนั้นที่ประชุมยังได้เห็นชอบ งบประมาณประจำปี 2563 ตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองด้านการพัฒนากีฬา ซึ่งได้พิจารณาแล้วให้กับ กกท.ตามแผนงานพัฒนากีฬา พร้อมทั้งเห็นชอบ ค่าใช้จ่ายการจัดงานมอบเงินรางวัล และแสดงความยินดีให้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมนักกีฬา ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 30 (ซีเกมส์ / อาเซี่ยนพาราเกมส์)

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณผู้ร่วมประชุม และกำชับคณะกรรมการบริหารกองทุน จะต้องมีการกำกับ ติดตาม งบประมาณที่ได้ให้การสนับสนุนแล้ว เพื่อขับเคลื่อนแผนงานการพัฒนากีฬาด้านต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ และขอให้ กกท.เร่งรัดปฏิบัติตามแผนงาน และการบริหารงบประมาณตามกรอบวงเงินที่ผ่านความเห็นชอบแล้ว อย่างเป็นรูปธรรม โปร่งใส เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดเชิงคุณภาพต่อตัวนักกีฬา มุ่งผลสัมฤทธิ์ และยกระดับมาตรฐานการกีฬาในภาพรวมต่อไป ทั้งนี้ กกท.จะต้องสร้างการรับรู้ความเข้าใจเพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมสนับสนุนการพัฒนากีฬาของชาติควบคู่กันไปด้วย

“บิ๊กตู่” บอกการจัดซื้อเรือดำน้ำเป็นเรื่องของกรรมาธิการ ได้หรือไม่ได้ขึ้นอยู่กับกรรมาธิการ

People Unity News : พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงการจัดซื้อเรือดำน้ำเป็นเรื่องของกรรมาธิการ ย้ำรัฐบาลดำเนินการทุกอย่างเพื่อความปลอดภัยของประเทศและประชาชนเป็นสำคัญ

วันนี้ (26 ส.ค.63) เวลา 11.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่อกรณีการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือว่าคณะกรรมาธิการกำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการชี้แจงอธิบายถึงเหตุผลความจำเป็นและหลักเกณฑ์ต่างๆทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ย้ำว่าอะไรก็ตามที่จะสร้างความปลอดภัยไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อประเทศชาติ คนไทยทุกคนและทรัพยากรของประเทศ และพิจารณาดำเนินการสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการมีไว้เพื่อสู้กับใครแต่เป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ และเป็นการดำเนินการซึ่งเป็นงบประมาณของกองทัพเรืออยู่แล้ว ส่วนจะได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการเป็นผู้พิจารณา

Advertising

“ลุงตู่” ระบาย “วันนี้ไม่ใช่ทำงาน 100% เเต่ทำงาน 200%”

People unity news online : 16 พฤษภาคม 2560 เวลา 13.30 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงการทำงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า วันนี้ตนไม่ใช่ทำงาน 100 เปอร์เซนต์ เเต่ทำงานเต็ม 200 เปอร์เซนต์ เพราะต้องกำกับดูเเล ติดตามนโยบายทั้งหมด ตามรูปแบบของตน ขอถามคนที่จะเข้ามาทำงานในวันข้างหน้าว่าจะทำอย่างไร จะปรับสิ่งที่ผิดพลาดจากครั้งที่เเล้วอย่างไร

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “เอาคำถามที่จะถามว่าผมยังทำไม่เสร็จ ไม่มีผลงานบ้างล่ะ ไปถามเขาสิว่าที่ผ่านมาเขามีผลงานอะไร ผลงานนั้นถูกต้องเท่าเทียมจริงหรือเปล่า ทำไมยังเหลือให้ผมทำอีกเยอะเเยะ เเล้วมาบอกว่าทำไม่เสร็จ เเล้วที่ทำมา 30 ปี กี่สิบปีกันมากี่รัฐบาล ก็เลยต้องมียุทธศาสตร์ชาติไงล่ะ ต้องทำต่อไป 20-30 ปี นโยบายรัฐบาลที่ทำดีเเล้วก็ทำต่อ ผมไม่ได้ไปล้มทั้งหมด เเต่ต่อไปจะล้มหรือเปล่าไม่รู้ ทำให้มันดีขึ้น เเกะมันออกมา เเต่จะดีขึ้นทันใจไม่ได้ ต้องใช้การทำงาน การมีส่วนร่วม หลายอย่างต้องไปดู อะไรที่ไม่ก้าวหน้าก็บอกมา ผมจะไปตามให้ มีรัฐบาลไหนฟังเเบบนี้บ้าง”

ส่วนผลการดำเนินงานของรัฐบาลในช่วงครบรอบ 3 ปี นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ส่วนตัวไม่พอใจเพราะทำงานให้เสร็จตามเวลาไม่ได้ แต่ได้ทำทุกอย่างให้ดีที่สุดตราบเท่าที่มีงบประมาณและเวลาให้ทำ ส่วนใครจะทำต่อก็เป็นเรื่องของวันข้างหน้า และต้องการให้ทุกอย่างต่อเนื่องในวันข้างหน้า ซึ่งหลายคนไม่เข้าใจ และไม่พอใจกล่าวหาว่ารัฐบาลจะสืบทอดอำนาจ แต่ผมจะสืบทอดปัญหาที่แก้ไขไม่เสร็จให้รัฐบาลชุดต่อไปทำงานแก้ไขปัญหาเพื่อประเทศชาติ

People unity news online : post 16 พฤษภาคม 2560 เวลา 22.43 น.

“ศักดิ์สยาม”ทำบุญวันคล้ายวันเกิด พี่ชายนำทอดกฐินโจร 306 วัด

People Unity News : “ศักดิ์สยาม”ทำบุญวันคล้ายวันเกิดที่บ้านพ่อชัย รมต.-ส.ส. ร่วมอวยพรคึกคัก “เนวิน”พี่ชายนำทอดกฐินโจร 306 วัด ยอด 4.59 ล้านเช่นทุกปี

วันที่ 9 พ.ย.2562 ที่ทำการสาขาพรรคภูมิใจไทย หน้าโรงโม่หินศิลาชัย อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ทำบุญเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ช่วงเที่ยงได้มีการตั้งโต๊ะเลี้ยงอาหารกลางวันหลายร้อยโต๊ะ ทั้งนี้มีนายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ มาร่วมอวยพรนายศักดิ์สยามด้วย

“เนวิน”พี่ชายนำทอดกฐินโจร 306 วัด ยอด 4.59 ล้าน

ที่วัดกลางพระอารามหลวง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเตด นายศักดิ์สยาม ร่วมทอดกฐินโจร 306 วัด โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย ส.ส. และแกนนำพรรคภูมิใจไทย มาร่วมทำบุญโดยพร้อมเพรียง โดยมีประชาชนร่วมทำบุญนับพันคน

นายเนวินกล่าวว่า การทอดกฐินโจร คือการเก็บตกวัดที่ตกค้าง ไม่มีใครเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน เพื่อให้ทุกวัด ได้รับกฐิน และเป็นการทำให้ครบตามที่พระพุทธศาสนาบัญญัติ เพื่อให้พระที่บวชจำพรรษา ได้รับกฐิน ครบถ้วนสมบูรณ์ตามหลักศาสนา อย่างไรก็ตาม การทอดกฐินโจรในแต่ละปี จะเป็นตัวชีวัดสภาวเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี ถ้าปีไหนเศรษฐกิจดี ก็จะเหลือวัดตกค้างน้อย แต่ในปีนี้มีวัดตกค้างถึง 306 วัด

นายเนวินกล่าวว่า การทอดกฐินในครั้งนี้ ขอให้ทุกคนเป็นเจ้าภาพร่วมกัน ไม่มีรัฐมนตรี ไม่มี ส.ส. ไม่มีอธิบดี ไม่มีผู้ว่าฯ มีแต่ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาที่มาร่วมกันทำบุญ
สำหรับการทำบุญครั้งนี้ ทั้ง 306 วัด ได้รับเงินกองกฐิน วัดละ 15,000 บาท รวมเป็นเงิน 4,590,000 บาท โดยมีหางกฐินที่ประชาชนร่วมทำบุญอีกเกือบ 4 แสนบาท

เชือด”ธนาธร”ต่อ! กกต.เล็งสอบปมรู้ไม่มีสิทธิแต่ลงสมัครเลือกตั้ง

People Unity News : เชือด”ธนาธร”ต่อ! กกต.เล็งสอบปมรู้ไม่มีสิทธิแต่ลงสมัครเลือกตั้ง คาดนำผลคำวินิจฉัยศาลรธนฯ.ไปพิจารณาประกอบในสำนวน ขณะที่ “วิษณุ” ร่ายยาวบอกมีช่องเอาผิดอาญาปมหุ้นสื่อ

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้สมาชิกภาพ ส.ส. ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) กรณีถือครองหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ว่า หลังจากนี้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ก็คงดำเนินการสอบสวนกรณีคำร้องที่มีผู้กล่าวหาว่านายธนาธร ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)​ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 151 ประกอบรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(3) กรณีผู้ใดรู้อยู่ว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อต่อไป โดยตามหลักการทั่วไปแล้ว คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คงจะต้องนำผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ ไปพิจารณาประกอบในสำนวนด้วย เพราะมีการวินิจฉัยว่านายธนาธรขาดคุณสมบัติ

“วิษณุ”ร่ายยาวบอกมีช่องเอาผิดอาญาปมหุ้นสื่อ

เวลา 16.15 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พ้นสมาชิกภาพ ส.ส. กรณีถือครองหุ้นสื่อ บริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด ว่า ตนได้ติดตามการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเพียงเล็กน้อย เนื่องจากติดประชุม ซึ่งคำวินิจฉัยดังกล่าวให้นายธนาธรพ้นสมาชิกภาพ ส.ส.เท่านั้น ยังเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยังสามารถลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ได้ ไม่ได้ถูกตัดสิทธิอะไร พรรคอนาคตใหม่ก็ยังอยู่ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องคุณสมบัติอย่างเดียว ส่วนเรื่องอื่นตนไม่ทราบว่าคดีอะไรอีกหรือไม่

นายวิษณุ กล่าวว่า ตนได้ฟังคำให้สัมภาษณ์ของนายธนาธรภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยก็สงสัย ที่นายธนาธรบอกว่าคดีนี้แปลกหรือไม่ ศาลไม่ได้บอกว่ามีมติเท่าไรต่อเท่าไร ตนไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ ว่านายธนาธรใช้ประโยคนี้ ซึ่งโดยปกติตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมี 9 คน ต้องลงมติอยู่แล้ว ถือว่าแปลกถ้าศาลไม่ได้บอก หรือบอกไปแล้วก็ไม่รู้ เพราะตนไม่ได้ฟังอย่างละเอียด แต่นายธนาธร มาพูดในตอนท้ายว่าให้สังเกตว่าไม่ได้มีการสรุปว่ามีมติเท่าไร ซึ่งมติตรงนี้อาจจะไปอยู่ในคำวินิจฉัยฉบับเต็ม ถือว่าเป็นประเด็นที่น่ารู้เหมือนกัน

“ผมอยากรู้เหมือนกันว่ามติเท่าไร มันจะแสดงอะไรหลายอย่าง โดยเฉพาะแสดงถึงความเกี่ยวพันกับเรื่องอื่นต่อไปในอนาคต เพราะจะทำให้มองเห็นได้ว่า ทัศนคติศาลเป็นอย่างไร”นายวิษณุ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายธนาธร สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งลงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ตอบ

เมื่อถามว่า สามารถนำคำวินิจฉัยดังกล่าวไปฟ้องร้องอื่นๆ ได้อีกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ เนื่องจากไม่ได้ฟังศาลอ่านคำวินิจฉัยทั้งหมด จึงไม่รู้ว่าศาลพูดถึงอะไรบ้าง แต่โดยปกติมันไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือเรื่องนั้นเรื่องเดียวเท่านั้นเอง เพียงแต่อาจเป็นช่องทางให้มีการไปหาพยานหลักฐานอื่น แต่จะเอาตรงนี้ไปปิดปากคดีอื่นไม่ได้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า คดีนี้มีโทษทางอาญาตามมาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ในตัวเองมันเองแค่นี้จบ ไม่มี แต่ใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง เท่าที่ดูกันไว้นานมาแล้ว เหมือนที่มีคนกล่าวหานายกรัฐมนตรี ว่าบุคคลใดที่รู้ว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามแล้วยังไปดำเนินการอันเป็นเท็จ อย่างนั้นมันผิด แต่เราจะมาพูดเอาคดีนั้นมาชนคดีโน้น มันจึงไม่ได้ในตัวมันเอง ต้องไปพิสูจน์อะไรกันอีกเยอะ

เมื่อถามว่า หากมีคนสงสัยประเด็นนี้ สามารถร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ไปว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ขอตอบอะไรในส่วนนี้ ตอบได้เท่าที่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ซึ่งใครๆ อ่านแล้วก็รู้ แต่ถ้าเกินจากนั้นจนไปอนุมานเอาว่าเป็นอย่างนั้น ตนไม่ควรจะไปพูด

เมื่อถามว่า ส.ส.คนอื่นที่ถูกร้องเรื่องถือหุ้นสื่อ จะนำไปเป็นบรรทัดฐานหรืออ้างอิงในการต่อสู้คดีได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าข้อเท็จจริงตรงกันมันก็ใช่ แต่จะตรงกันหรือไม่นั้น ไม่ทราบ เพราะมีหลายสิบคน กรณีนี้มีการแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น บางประเภทมีหุ้นในบริษัทที่มีตราสารจนทะเบียนว่า มีวัตถุประสงค์อะไรบ้าง แต่ไม่เคยทำ หรืออีกประเภทคือ ได้ลงมือทำ แล้วเลิกไป ซึ่งมีหลายประเภทเหลือเกิน

เมื่อถามถึงกรณีนายธนาธร ปล่อยกู้เงินให้กับพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเรื่องอยู่ในการตรวจสอบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ได้ติดตาม แต่เป็นคนละเรื่องกับการถือหุ้นสื่อ

เมื่อถามว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ไม่ได้ห้ามเรื่องการกู้เงิน นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ตอบ

เมื่อถามว่า กฎหมายพรรคการเมืองถือเป็นกฎหมายเฉพาะ แม้กฎหมายไม่ได้เขียนห้าม แต่ต้องทำเท่าที่เขียนไว้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ปกติแล้วกฎหมายที่จำกัด ตัดสิทธิคน หลักที่เคยใช้มาโดยตลอด คณะกรรมการกฤษฎีกาก็เคยใช้มาตลอด ต้องตีความโดยเคร่งครัด จะไปตีความขยายออกไปไม่ได้ หลักมันมีอยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่า กฎหมายเขียนแค่ไหนต้องทำเท่านั้นใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า แต่ละคำจะต้องแปล ถ้าแปลออกไปได้มันก็จบแค่นั้น กฎหมายขยายความให้เป็นผลดีได้ แต่จะขยายความออกไปให้มันยาวเพื่อเป็นผลร้ายนั้นไม่ได้

เมื่อถามอีกว่า กรณีที่กฎหมายไม่ได้เขียนห้าม แสดงว่าทำได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องดูหลายอย่าง บางอย่างไม่ได้อนุญาตก็ทำไม่ได้ โดยมี 2 อย่าง คือ 1.ไม่ได้ห้าม เพราะฉะนั้นทำได้ และ 2.ไม่ได้อนุญาต เพราะฉะนั้นจึงทำไม่ได้ มีอยู่ 2 หลักนี้ ซึ่งไม่ได้มั่ว มันมีวิธีใช้ว่าเมื่อไรจะใช้

เมื่อถามว่า พรรคการเมืองสามารถกู้เงินได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า นี่คือ ปัญหาที่เขาเถียงกันอยู่ ขึ้นโรงขึ้นศาลกันอยู่

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะถกวงเงินงบฯ ปี 2567

People Unity News : 4 มกราคม 66 นายกฯ นั่งหัวโต๊ะถกกำหนดวงเงินงบฯ ปี 2567 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคต ให้สัญญาจะทำให้สถานะการเงินการคลังมีความมั่นคงในทุกด้าน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมพิจารณากำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และ ผอ.สำนักงบประมาณ เข้าร่วม

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นการประชุมเรื่องแผนการเงินระยะปานกลาง รายรับรายจ่ายปีงบประมาณ 2567 และประเมินไปถึงปี 2570 ซึ่งจำเป็นต้องประเมิน เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการวางพื้นฐานการใช้จ่ายงบประมาณ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคตอย่างระมัดระวังที่สุด พร้อมขอขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้อง และในโอกาสนี้ขออวยพรปีใหม่ให้กับทุกๆ คนเพราะถือเป็นการประชุมครั้งแรกของปี 2566 ที่พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะทำให้สถานะการเงินการคลังของเรามีความมั่นคงในทุกๆด้าน และขอให้ทุกคนมีความสุขประสบความสำเร็จทุกประการทั้งชีวิตราชการและเรื่องส่วนตัว

Advertisement

“หญิงหน่อย”แนะแนว! “การนำหลักพุทธธรรม มาใช้กับอาชีพนักการเมือง”

People Unity News : “หญิงหน่อย”เข้าวัดบรรยายนิสิตป.เอก “มจร” แนะแนว”การนำหลักพุทธธรรม มาใช้กับอาชีพนักการเมือง” ขอทุกพรรคการเมืองจริงใจ ทำกติกาให้เอื้อต่อการพัฒนาประเทศ หวังเห็นการแก้ รธน.เป็นวาระแห่งชาติ ส่วนประธาน กมธ.ควรแสดงวิสัยทัศน์ ให้สัญญาประชาคม จะแก้รธน.โดยไม่มีวาระแอบแฝง

วันที่ 9 พ.ย.2562 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรพิเศษ บรรยายแก่นิสิตดุษฎีบัณฑิต คณะบัญฑิตวิทยาลัย สาขาพุทธศาสนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ในหัวข้อ “การนำหลักพุทธธรรม มาใช้กับอาชีพนักการเมือง” ทั้งนี้ดร.คุณหญิงสุดารัตน์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาพระพุทธศาสนา มจร ด้วยดุษฎีนิพนธ์ภายใต้หัวข้อ “พุทธวิธีเชิงบูรณาการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งการเมืองไทยในปัจจุบัน”

หลังการบรรยาย ดรคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงเหตุผลที่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงแนวทางการแก้รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะประเด็นที่ สังคมให้ความสนใจในเวลานี้ว่าบุคคลใด จะมาทำหน้าที่เป็นประธานกรรมาธิการฯ โดยระบุไว้รวม 6 ประเด็น

1.รัฐธรรมนูญฉบับนี้ สร้างปัญหาและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศอย่างยิ่ง แม้แต่รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้สั่งให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับนี้ขึ้นมา เพื่อสืบทอดอำนาจ ก็ไม่สามารถปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญของตนเองได้ และนับแต่เป็นรัฐบาลคสช.ต้องออก ม.44 ยกเว้นการใช้บังคับรัฐธรรมนูญหลายครั้ง จนถึงเป็นรัฐบาลปัจจุบัน ก็ยังทำตามรัฐธรรมนูญของตัวเองไม่ได้

2. การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ทำโดยวิธีง่ายๆ คือการแก้ ม.256 เพียงมาตราเดียว เพื่อปลดล็อกให้แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ โดยจัดให้มีการเลือกตั้ง สสร. ที่มาจากสาขาอาชีพ จากทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เป็นตัวแทนของประชาชน ในการร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้

3. ถ้าทุกพรรคการเมืองจริงใจ ต่อการแก้ไขปัญหาของประเทศ ตั้งใจทำกฎกติกาของประเทศ ให้เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาประเทศ เพื่อประชาชนส่วนใหญ่ มิใช่ทำเพื่อคนบางกลุ่มอย่างในปัจจุบัน ก็สามารถใช้วาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็น “วาระแห่งชาติ” ที่ทุกคน ทุกพรรค รวมทั้งภาคประชาชน ภาคเอกชน คณาจารย์ผู้รอบรู้ทั้งหลาย มาร่วมมือกันหาทางออกจากปัญหาความขัดแย้งของประเทศ สร้างความสมานฉันท์ ให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยได้ “รัฐธรรมนูญเพื่อความก้าวหน้าของประเทศ” สร้างกลไกการแก้ไขปัญหาประเทศที่มีประสิทธิภาพ ในเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจ และพัฒนาประเทศให้ทันโลกได้

4.รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่สร้างความมั่นคงและอนาคตให้คนไทย กระจายโอกาสกระจายรายได้ ให้ประชาชนอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม ลดการใช้อำนาจและทุนผูกขาดประเทศ จนทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำที่สูงมากอย่างในปัจจุบัน

5. สำหรับตำแหน่งประธานกรรมาธิการ ทุกคนมีสิทธิ์เสนอตัวมามาทำหน้าที่ แต่ผู้เสนอตัวมาทำหน้าที่ประธาน ควรแสดงวิสัยทัศน์ และให้ “สัญญาประชาคม” กับประชาชน ว่าจะมาทำหน้าที่ แก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างจริงจัง จริงใจ ด้วยวิธีการและขั้นตอนอย่างไร ให้ได้มาซึ่งการแก้ มาตรา 256 จนถึงการจัดเลือกตั้งสสร. จากประชาชนได้

6. การทำหน้าที่ประธาน จะต้องไม่มีวาระแอบแฝง ไม่เป็นประธานเพื่อมาป่วนและขัดขวางการแก้ไข “รัฐธรรมนูญ เพื่อ ความก้าวหน้าของประเทศ” ในครั้งนี้

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวด้วยว่า ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนช่วยกันจับตาดูพฤติกรรมของแต่ละพรรคการเมือง ในการตั้งกรรมาธิการฯเพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ดีเพื่อส่งเสียงเรียกร้องความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ให้สำเร็จ

นอกจากนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ ยังย้ำถึง ท่าทีของพรรคเพื่อไทยต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะสื่อสารถึงวัตถุประสงค์ที่ต้องมีการแก้ไข โดยมีเจตนารมณ์ ให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาของประเทศ ในสองเรื่องใหญ่ ประกอบด้วยปัญหาความไม่ปรองดอง จากโครงสร้างที่เขียนในรัฐธรรมนูญ และไม่ยึดโยงกับประชาชนแต่ไปยึดโยงกับกลุ่มอำนาจ ซึ่งโครงสร้างดังกล่าวจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ และเป็นไปเพื่อให้คนกลุ่มเล็ก สามารถใช้อำนาจได้อย่างเต็มที่ ขณะที่คนกลุ่มใหญ่ของประเทศกับไม่มีสิทธิ์มีเสียง ซึ่งนำไปสู่ปัญหา เศรษฐกิจ เพราะเมื่อมีการผูกขาดอำนาจ นโยบายต่างๆจึงเอื้อแค่กลุ่มทุนใหญ่ สิทธิของประชาชน คนตัวเล็ก ที่จะเกิดโอกาสในการทำมาหากิน จึงถูกปิดกั้น การกระจายอำนาจลดน้อยลง ซึ่งการรวมศูนย์อำนาจในลักษณะเช่นนี้เป็นเสมือนการรวมศูนย์ทุน จึงทำให้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำอย่างที่เห็น

เหมาะ-ไม่เหมาะ!”สุชาติ”นั่งปธ.ศึกษาแก้ รธน. “ชวน” โยนกมธ.เป็นฝ่ายเลือก

People Unity News : เหมาะ-ไม่เหมาะ!”สุชาติ”นั่งปธ.ศึกษาแก้ รธน. “ชวน” โยนกมธ.เป็นฝ่ายเลือก แจงประชุมสภาฯช่วงหารือขอให้เป็นประเด็นความทุกข์ของประชาชนเป็นหลัก

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐเตรียมเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เข้าชิงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการศึกษาพิจารณาศึกษาแก้ไขรัฐธรรรมนูญ หลังพรรคประชาธิปัตย์ เสนอชื่อนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้เป็นประธานคณะกรรมาธิการฯ ฯว่านายสุชาติ ถือเป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง แต่ปกติเมื่อมีการตั้งคณะกรรมาธิการในญัตติใด เมื่อตั้งเสร็จแล้วกรรมาธิการเหล่านั้น จะเป็นผู้เลือกประธาน ซึ่งไม่ได้เลือกในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร

เมื่อถามว่าประธานคณะกรรมาธิการต้องเป็น ส.ส.หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า แล้วแต่กรณีขึ้นอยู่กับกรรมาธิการ อย่างไรก็ตามไม่ขอตอบว่ารองประธานสภาฯจะเป็นประธานคณะกรรมาธิการได้หรือไม่

พร้อมกันนี้นายชวนชี้แจงการประชุมสภาฯช่วงที่เปิดให้ ส.ส.หารือว่า ก็ตั้งใจให้ ส.ส.ปรึกษาหารือเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความคิดของแต่ละคน โดยทั่วไปส่วนใหญ่สมาชิกสภาฯก็เอาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนมาพูด ดังนั้น ขออย่านำข้อยกเว้นของบางคนมาลบโอกาสการปรึกษาหารือของสมาชิก

“อนุสรณ์”แนะทุกฝ่ายลดเงื่อนไขแก้ไขรัฐธรรมนูญ

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี การเสนอชื่อบุคคลที่จะมาเป็นประธานกมธ.วิสามัญเพื่อศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ พรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า เป็นการใช้กลไกการทำงานในระบบรัฐสภาในการแก้ปัญหาสำคัญของชาติ จุดหมายปลายทางคือการนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐจะได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่ต้องยอมรับว่าบางครั้งคนวางกับระเบิดพลาดเหยียบเองก็มี หลายเรื่องที่เป็นประเด็นปัญหา เช่น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ การถวายสัตย์ไม่ครบถ้วน การแถลงนโยบายรัฐบาลไม่บอกที่มาของงบประมาณ หรือแม้แต่ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ถูกต้องตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ และถูกกฎหมายหรือไม่ ถ้าทุกเรื่องถูกนำไปยื่นตีความว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ พรรคพลังประชารัฐอาจจะไม่โชคดีทุกครั้ง ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐและส.ว.อย่าเพิ่งตีรวน ตีตนไปก่อนไข้ กลัวเสียผลประโยชน์ ทุกฝ่ายเห็นปัญหา แต่พรรคพลังประชารัฐและส.ว.ได้ประโยชน์เต็มๆจึงเลือกปิดตามองไม่เห็น ไม่มีการแข่งขันที่ไหน ที่กรรมการตัดสินให้คนได้ที่ 2 ได้รับถ้วยแชมป์ ทุกวันนี้ประชาชนยังสงสัยไม่หายว่า ทำไมพรรคการเมืองอันดับ 1 มีส.ส.มากที่สุดในสภา จากการเลือกตั้งไม่ได้เป็นรัฐบาล

“ประเทศเสียโอกาสมามากแล้ว ทุกฝ่ายควรลดเงื่อนไข อย่าตีรวน สร้างเงื่อนไขไม่จบสิ้น ให้โอกาสสภา เท่ากับให้โอกาสประชาชน ในการศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่าตั้งแง่เอาเป็นเอาตาย ชิงการนำกับตำแหน่งประธาน หรือสร้างเงื่อนไขไม่รู้จบ” นายอนุสรณ์ กล่าว

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาให้สัมภาษณ์ว่าไม่ขัดข้องที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะมานั่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการการศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบอกว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของรัฐสภานั้น ผมเห็นด้วยกับแนวความคิดของพล.อ.ประยุทธ ในเรื่องนี้ เพราะพล.อ.ประยุทธ คงเห็นความสามารถและศักยภาพในการทำงานของนายอภิสิทธิ์เป็นอย่างดี เพราะเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายอภิสิทธิ์มาก่อนในสมัยนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี แต่การแสดงท่าทีของพล.อ.ประยุทธในครั้งนี้ อยากให้ส่งสัญญานไปยังพรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นพรรคการเมืองหลักของรัฐบาล ให้เสียสละโดยการไม่สนับสนุนคนของพรรคเข้ามาแข่งขัน เพราะในขณะนี้น่าจะมีเพียงแกนนำของพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น ที่ไม่ยอมให้นายอภิสิทธิ์เป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ ถ้าพล.อ.ประยุทธ อยากเห็นความปรองดองให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง อยากให้มีความเป็นเอกภาพในพรรคร่วมรัฐบาล ก็ควรดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งให้พรรคพลังประชารัฐสนับสนุนนายอภิสิทธิ์เป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญในครั้งนี้ให้สำเร็จ

ส่วนการที่พล.อ.ประยุทธ บอกว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของรัฐสภา รัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ก็เป็นความจริงตั้งเริ่มต้น ที่พรรคการเมืองเกือบทุกพรรคได้เสนอญัตติด่วนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาและแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งในส่วนรัฐบาลก็ไม่ได้มีท่าทีหรือข้อเสนอใดๆเกี่ยวกับญัตติในครั้งนี้มาก่อนเลย และในเมื่อพล.อ.ประยุทธ ออกมาปฎิเสธว่ารัฐบาลไม่มีส่วนร่วมกับญัตตินี้ และบอกว่าให้เป็นความรับผิดชอบของฝ่ายนิติบัญญัติ ดังนั้นการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ ก็ไม่ควรมีคณะกรรมาธิการในสัดส่วนของรัฐบาลด้วย ควรให้เป็นคณะกรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคร่วมฝ่ายค้านเท่านั้น หรือจะนำเอาจำนวนกรรมาธิการในสัดส่วน ครม.12คน มาเกลี่ยให้พรรคการเมืองทุกพรรคในสภาผู้แทนราษฎรก็สามารถทำได้ ซึ่งจะตรงกับแนวความคิดของพล.อ.ประยุทธอย่างแท้จริง

ผมอยากจะเรียนกับ พล.อ.ประยุทธ ว่าถ้าหากท่านมีความจริงใจ ไม่ปากว่าตาขยิบ ก็รีบส่งสัญญาน หรือเชิญแกนนำพรรคพลังประชารัฐมาพูดคุยทำความเข้าใจกัน เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการของท่านที่ประกาศไว้ และถ้าท่านทำได้จริง ผมเชื่อว่าทุกอย่างก็จะเดินไปอย่างราบรื่น จะถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความปรองดอง และความสมานฉันท์อย่างแท้จริง

“วันนอร์”หนุน”อภิสิทธิ์”นั่งปธ.ศึกษาแก้รธน.

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ กล่าวสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะเป็นบุคคลที่เหมาะสม ทั้งนี้ตนต้องต้องการให้การเริ่มต้นแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปด้วยความสามัคคีปรองดอง รวมถึงให้พรรคฝ่ายค้าน พรรครัฐบาล และส.ว. ประชาชนร่วมมือต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

Verified by ExactMetrics